บทที่ 9 พิษร้อยบุปผา

1587 คำ
บทที่ 9 พิษร้อยบุปผา พอรู้ว่าค่ำคืนนี้ตนไม่ต้องพำนักในโรงเตี๊ยมมุมปากแดงสวยก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆ ตลอดทั้งวัน หลังจากร่วมรับประทานอาหารจนอิ่มท้อง กุ้ยหลินออกมารับลมชมจันทร์ยามค่ำในศาลาคู่ซึ่งติดกับที่พัก หลี่ซุนจือเป็นเจ้าบ้านที่ดี ห้องที่นางพักไม่เพียงติดกับห้องของเย่าไป๋ ยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังไปศาลาชมจันทร์ที่สวยที่สุด ดอกโบตั๋นที่นี่ยังงดงามที่สุดอีกด้วย ดูเหมือนเขาจะเข้าอกเข้าใจผู้หญิงซึ่งผิดกับ เย่าไป๋ น่าเสียดายทำไมในตอนนั้นนางไม่เจอกับหลี่ซุนจือก่อน ไม่เช่นนั้นนางได้ชวนเขาร่วมทางไปยังสำนักหมื่นพิษด้วยแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่นางคิดย่อมเป็นไปไม่ได้ การที่นางและเย่าไป๋พักอยู่ในเคหาสน์ตระกูลหลี่ ดูเหมือนศิษย์บางคนยังคงแสดงทีท่าไม่พอใจอยู่บ้าง ด้วยเพราะคิดว่านางกับเย่าไป๋เป็นศิษย์ในสำนักหมื่นพิษซึ่งอยู่พรรคมาร ไม่สมควรได้รับการต้อนรับใดๆ จากเคหาสน์ตระกูลหลี่ซึ่งเป็นฝ่ายธรรมะ ดังนั้นเรื่องชวนหลี่ซุนจือร่วมเดินทางตัดทิ้งไปได้เลย แต่นางไม่สนใจหรอก ขอเพียงท้องอิ่มและมีที่พักสบายสำหรับค่ำคืนนี้ก็พอแล้ว กุ้ยหลินหยิบถุงผ้าปักขึ้นมาลูบไล้แผ่วเบา ก่อนจะยกขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมของยาในถุงผ้า นางรู้สึกคุ้นชินกับถุงผ้าปักห่อนี้ นั่นเพราะห้าปีมาแล้วที่นางต้องกินยาพิษที่ตนปรุงขึ้นเพื่อให้ร่างกายตนคุ้นชินกับพิษ เริ่มแรกนางจะผสมพิษเจือจางกับอาหารจากนั้นค่อยเพิ่มปริมาณ เหตุนี้ไม่ว่าพิษใดล้วนกล้ำกรายนางมิได้ หรือกระทั่งได้กลิ่นนางก็รับรู้ได้ทันทีว่ากลิ่นนั้นคือพิษของอะไร แต่กระนั้นนางก็ยังกลัวอยู่ดี ยุทธภพกว้างใหญ่จะมีใครรับประกันได้ว่านางจะมีอายุถึงร้อยปีโดยมิได้รับอันตราย ต่อให้นางชินชาต่อพิษ แต่ก็ใช่ว่านางจะรอดพ้นจากอันตราย ดูอย่างตอนนี้สิ หากรู้แต่แรกว่าเจ้าสำนักฝู้กุ้ยเซียนมีเจตนาให้นางออกมาเผชิญยุทธภพเพียงลำพัง นางสู้ร่ำเรียนฝึกกระบี่กับศิษย์พี่รองดีกว่า ระหว่างที่หญิงสาวปล่อยใจครุ่นคิด เสียงทุ้มต่ำของบุรุษดังขึ้นด้านหลัง “แม่นางกุ้ยหลิน ท่านก็ออกมาชมจันทร์เหมือนกันหรือ” นางหันหลังกลับไปมอง พบหลี่ซุนจือก้าวเข้ามาใกล้ บนใบหน้าคมคร้ามประดับรอยยิ้มจางๆ “ใช่แล้วคุณชายหลี่” นางตอบยิ้มๆ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านข้างของนาง รอยยิ้มละมุ่นของนางทำให้หลี่ซุนจือชะงักค้าง “คุณชายหลี่ เป็นอะไรหรือไม่” หลี่ซุนจือเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าสีเทาทะมึน มือทั้งสองไพล่ไว้ด้านหลัง ดวงตาจับจ้องจันทราสีเงินยวง “รอยยิ้มของแม่นางกุ้ยหลิน ทำให้ผู้น้อยนึกถึงแม่นางผู้หนึ่ง” นางมิได้อยากละลาบละล้วงและยิ่งมิได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากเกินไป แต่ในเมื่อเจ้าตัวเอ่ยออกมาก่อน นางจึงต้องถามต่ออย่างมีมารยาท ระหว่างถามนางแหงนหน้าขึ้นฟ้าชมจันทร์บ้างเพื่อทำให้ตนเองกลมกลืนกับเขา ท่าทางของนางกับหลี่ซุนจือจึงไม่ต่างจากชายหนุ่มหญิงสาวที่ออกมาชมจันทร์ร่วมกัน “แม่นางผู้นั้นคงเป็นคนสำคัญของคุณชายหลี่” หลี่ซุนจือผ่อนลมหายใจยาวเหยียด “ความจริงข้ากับแม่นางคนนั้นหาได้รู้จักกันไม่ เพียงแต่รอยยิ้มของนางตรึงจิตผู้พบเห็นยิ่ง น่าเสียดายที่นางมิใช่ชาวจงหยวน และยิ่งน่าเสียดายที่นางอยู่ในฐานะผู้บุกรุก” ในคำพูดของเขาแฝงความเสียดายอย่างสุดซึ้ง ขณะเดียวกันก็มีเจตนาสื่อความหมายอื่นด้วย กุ้ยหลินกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจ หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย จะใช่หรือไม่ใช่ชาวจงหยวนนั้นสำคัญนักหรืออย่างไร เพราะตัวนางเองก็มิใช่ชาวจงหยวน เช่นนั้นเขาต้อนรับนางเพื่ออะไรกัน “คุณชายหลี่ ข้าขอถามท่านสักหนึ่งเรื่อง” “แม่นางกุ้ยหลินเชิญถามผู้น้อย” “ชาวจงหยวนไม่คบค้าสมาคมกับคนนอกหรือ” หลี่ซุนจือทำสีหน้าฉงน ก่อนส่งยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น “หามิได้ เพียงแต่แม่นางผู้นั้นบุกเข้ามาในเคหาสน์ตระกูลหลี่กระทำการที่ไม่สมควร ใจร้อน วู่วาม ไม่ฟังเหตุผล” “เช่นนั้นก็น่าเสียดาย” นางเอียงคอพูดขณะที่มือยังกำถุงผ้าปักไว้แน่น “เสียดาย?” หลี่ซุนจือทวนคำ “ข้ามิได้คิดสั่งสอนท่าน แต่ละเว้นได้ก็ละเว้น หากมิใช่คนจิตวิปลาส ไม่ว่าใครกระทำสิ่งใดลงไปล้วนแล้วแต่มีเหตุผล ท่านไม่ลองไตร่สวนนางก่อนหรือ” หลี่ซุนจือเลิกคิ้วขึ้นสูง มองนางคล้ายไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้หญิงคนนี้ถึงได้เอ่ยวาจาออกมาอย่างที่ใจคิด “แม่นางรู้เรื่องที่ข้าสนทนากับคุณชายเย่าไป๋” กุ้ยหลินส่ายหน้า ไม่ นางไม่รู้ แต่นางคาดเดาว่าคนอย่างหลี่ซุนจือแม้จะมีคุณธรรมหลายส่วน ทว่าหากคนนอกคิดจะเข้ามาก่อความวุ่นวายในพื้นที่ของตน น่ากลัวว่าเขาต้องจัดการขั้นเด็ดขาด และก็มิใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเขาด้วย แล้วนับประสาอะไรกับแม่นางผู้นั้น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง จะว่าไปแล้ว ทำไมนางต้องสนใจผู้อื่นด้วย “แม่นางคาดเดาถูกต้องแล้ว” หลี่ซุนจือหันมายิ้มกว้าง อืม ถ้านางคาดเดาเรื่องได้เก่ง เหตุใดนางยังเดาความรู้สึกของเย่าไป๋มิได้ล่ะ พอนึกถึงเย่าไป๋จู่ๆ ไอเย็นเยียบขุมใหญ่แผ่กำจายมาจากด้านหลัง นางลองผินหน้ากลับไปมองด้านหลังก็พบเย่าไป๋ยืนอยู่ด้านข้างของที่พำนัก กิ่งไม้กลุ่มใหญ่บดบังร่างสูงโปร่งไว้ครึ่งส่วน นางสังเกตเห็นว่าเขาจ้องนางเขม็ง เวลานี้เย่าไป๋แลดูสุขุมเยือกเย็นยิ่ง อาภรณ์สีขาวทั่วร่าง ประกอบกับท่าทางสุขุมลุ่มลึกทำให้นางนึกถึงเซียนที่ปรากฏตัวในยามราตรี ทว่าก็สร้างความรู้สึกกดดันในเวลาเดียวกัน หัวใจของนางเต้นแรงอย่างไร้สาเหตุ จนต้องรีบหลบสายตากลับมาแสร้งทำทีว่าชมจันทร์เช่นเดิม แต่จิตใจกลับพะวงอยู่กับคนด้านหลัง ด้วยสัมผัสถึงลมหายใจไม่สม่ำเสมอของนาง หลี่ซุนจือยิ้มพลางว่า “ดูเหมือนคุณชายเย่าไป๋เป็นห่วงแม่นางมาก แม่นางกุ้ยหลิน ข้าน้อยจะเก็บคำของแม่นางไปคิด คืนนี้ข้าน้อยคงต้องขอตัวก่อน” นางพยักหน้าก่อนถาม “คุณชายหลี่ ท่านรู้ตลอดเลยหรือว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น” หลี่ซุนจือเลิกคิ้วขึ้น นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง “ก่อนข้าน้อยเข้ามาทักแม่นางกุ้ยหลิน แม่นางคิดว่านานหรือไม่” นางมิได้ตอบว่ากระไร ได้เพียงส่งยิ้มละมุ่นให้เขาพร้อมค้อมศีรษะให้เล็กน้อย หลี่ซุนจือจากไปแล้ว แต่นางยังคิดถึงคำพูดของเขา เย่าไป๋ยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้วเหตุใดนางถึงไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว อีกอย่างเหตุใดเขาต้องแอบมองนางจากที่ไกลด้วย ยิ่งคิดหัวใจดวงน้อยยิ่งเต้นระรัว ไม่ได้... นางจะดื่มด่ำกับความรู้สึกอบอุ่นหัวใจและความเคยชินที่มีเขาอยู่ข้างกายเช่นนี้ไปตลอดไม่ได้ นางจะลุ่มหลงคำพูดของหลี่ซุนจือเพียงไม่กี่คำมิได้เช่นเดียวกัน กุ้ยหลินยืนชมจันทร์เพียงครู่หนึ่งเพื่อรักษาจิตใจให้สงบนิ่ง ก่อนหมุนตัวเดินออกมาจากศาลาชมจันทร์ เขายังอยู่ เย่าไป๋ยังยืนอยู่ที่เดิม... จู่ๆ คำพูดของหลี่ซุนจือจู่โจมเข้ามาในสมองของนางอีกครั้ง นางสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอาการประหม่า แล้วเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาก่อน “เย่าไป๋ เจ้าเคหาสน์หลี่เป็นอะไรหรือ” นางแสร้งหาเรื่องคุย ทว่าดวงตาสีดำสนิทของเย่าไป๋ปรากฏแววเย็นชาแล้ว ดังนั้นนางจึงใช้วิธีสุดท้ายแสร้งเงยหน้าชมจันทร์เสียเลย! “ท่านเจ้าเคหาสน์หลี่ถูกพิษร้อยบุปผา” ท่ามกลางความเงียบ น้ำเสียงของเย่าไป๋เยือกเย็นยิ่งกว่าสายลมยามค่ำ และแววตาของเขาลึกล้ำยิ่งกว่าท้องฟ้าอันเวิ้งว้าง... นางทวนคำอย่างขบคิด “พิษร้อยบุปผา พิษร้อยบุปผาหรือ?” เดี๋ยวก่อนนะ ‘พิษร้อยบุปผา’ ชื่อนี้เหตุใดคุ้นหูเสียจริง ไม่ใช่แค่ฟังดูคุ้นหู ถ้าจำไม่ผิด ใช่พิษที่นางปรุงขึ้นหรือไม่ แวบหนึ่ง คำพูดของหลี่ซุนจือผุดขึ้นในห้วงความคิดนางอีกครั้ง ‘รอยยิ้มละมุ่น ติดตรึงใจคน.... ใจร้อน วู่วาม...’ คิดมาถึงตรงนี้ นางใจหายวูบ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากศิษย์พี่รอง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม