bc

จอมใจ จอมพิษ

book_age16+
229
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
คนใช้แรงงาน
หวาน
ความลับ
like
intro-logo
คำนิยม

‘กุ้ยหลิน’ หญิงสาวผู้หวาดกลัวไปเสียทุกอย่าง ต้องถูกส่งมายังสถานที่ที่ถูกขนานนามว่าอันตราย ทว่าสิ่งที่เรียกว่าอันตรายที่สุดหาใช่สำนักลึกลับอย่าง ‘หุบเขาหมื่นพิษ’ หากเป็นบุคลิกซับซ้อนยากหยั่ง ทั้งยังมีนิสัยสุดขั้ว นั่นก็คือเจ้าสำนักรูปงาม ‘กู่เย่าไป๋’ ต่างหากล่ะ!

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
บทนำ                ณ เชิงเขาพันลี้อันกว้างใหญ่ไพศาล                ป่าไพรเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบด้วยทะเลสาบสีคราม ยามไร้ลมผิวน้ำจะเรียบนิ่งประหนึ่งกระจก ส่วนภูเขาที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตามองดูคล้ายแผ่นหลังของมังกร ยามเข้าสู่ฤดูเหมันต์บนยอดเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวสะอาด ตีนเขาเขียวขจี ด้วยทิวทัศน์ตัดกันโดยสิ้นเชิง เขาพันลี้จึงไม่ต่างจาก ‘สรวงสวรรค์บนพื้นพิภพ’ ประกอบกับมีหมอกรวมตัวจางๆ เหนือน้ำยังผลให้ผู้คนพบเห็นทั้งหวั่นเกรงและศรัทธาในเวลาเดียวกัน                ว่ากันว่า ที่กลางเชิงเขาพันลี้เป็นที่ตั้งของสำนัก ‘บุปผาหยก’ ซึ่งศิษย์ในสำนักล้วนแล้วแต่เป็นสตรีงดงามไร้ที่ติประหนึ่งธิดาเซียนจากแดนสรวง เจ้าสำนักฝู้กุ้ยเซียนเดินตามหลักคุณธรรมเจ็ดส่วน หลักมารสามส่วน จึงมิอาจกล่าวได้ว่าสำนักบุปผาหยกอยู่ฝ่ายธรรมะหรืออธรรม แต่ต่อให้พวกนางเป็นนางฟ้าหรือมารหาใช่สำคัญไม่ เพราะผู้คนส่วนใหญ่สนใจเพียงความงามของศิษย์สำนักบุปผาหยกเท่านั้น                ไม่เพียงพวกนางจะงดงามหยาดฟ้ามาดิน ชั้นเชิงแขนงต่างๆ ยังถูกถ่ายทอดมาจากอาจารย์คนงามทั้งสิ้น แต่น่าเสียดาย ศิษย์สำนักบุปผาหยกทุกนางล้วนแต่มีอุปนิสัยชอบเก็บตัวเงียบ หากมิใช่เพราะทุกสำนักล้วนต้องก้าวเข้าสู่ยุทธภพเพื่อทดสอบฝีมือหลังจากร่ำเรียนวิชาของสำนักนั้นๆ สำเร็จ คนนอกอย่าคิดหวังได้ยลโฉมพวกนางเชียว                และแน่นอนว่า สำนักบุปผาหยกเป็นสำนักอันดับต้นๆ ที่เหล่าชาวยุทธ์หนุ่มต่างจับตามองเป็นพิเศษ                หลังจากเจ้าสำนักผลักดันศิษย์คนอื่นๆ เข้าสู่ยุทธภพ วันนี้กุ้ยหลิน ศิษย์คนเล็กถูกเรียกเข้าพบเจ้าสำนัก นั่นย่อมแสดงว่าศิษย์รายต่อไปที่เจ้าสำนักต้องการทดสอบฝีมือคือนางอย่างมิต้องสงสัย                “กุ้ยหลิน มานี่สิ” เจ้าสำนักกวักมือเรียกพลางส่งยิ้มหวานหยด                ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ยิ่งเจ้าสำนักยิ้มหวานให้นางมากเท่าไร นางยิ่งชาวาบบริเวณศีรษะมากเท่านั้น                “ท่านเจ้าสำนัก เรียกหากุ้ยหลินมีอะไรให้กุ้ยหลินรับใช้หรือเจ้าคะ” นางถามอย่างระมัดระวัง                “ปีนี้เจ้าอายุเท่าไร”                กุ้ยหลินกะพริบตาปริบก่อนตอบว่า “เรียนท่านเจ้าสำนัก ปีนี้กุ้ยหลินอายุสิบเก้า เอ่อ...” นางเอียงคอครุ่นคิด “ท่านเจ้าสำนักไม่ใช่เรียกกุ้ยหลินมาถามความคืบหน้าของวิชาแพทย์หรือเจ้าคะ” หลังจากเจ้าสำนักสอนนางร่ำเรียนวิชาแพทย์ต่อจากวิชาการใช้พิษ วันนี้นางคิดว่าเจ้าสำนักเรียกนางมาถามความคืบหน้าของวิชาแพทย์เสียอีก              “นั่นสินะ” เจ้าสำนักโบกพัดจีบลวดลายดอกโบตั๋นพลางหัวเราะในลำคอครู่หนึ่ง ก่อนจะหุบพัดลงแล้วเคาะลงบนฝ่ามือเบาๆ “กุ้ยหลิน ในสำนักเรายังมีพิษใดที่เจ้าไม่รู้จักอีกบ้าง”              กุ้ยหลินขมวดคิ้วมุ่น ตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ในสำนักบุปผาหยก ไม่มีพิษใดที่กุ้ยหลินไม่รู้จักเจ้าค่ะ”                ว่ากันตามตรง นางซึ่งเข้ามาอยู่ในสำนักบุปผาหยกได้ห้าปีเต็ม ไม่เคยออกไปที่ใด ซ้ำไม่เคยข้องเกี่ยวกับผู้อื่นนอกจากเก็บตัวศึกษาตำราภายในสำนัก นางย่อมเรียนรู้และเข้าใจวิชาพิษในสำนักอย่างถ่องแท้อยู่แล้ว                ดวงตาของเจ้าสำนักเป็นประกายวาบ พร้อมยืดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง ทำสีหน้าจริงจัง “ดี เช่นนั้นเจ้ารีบเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางเถิด สำนักหมื่นพิษอยู่ไกลมาก เกรงว่าการเดินทางอาจจะล่าช้าเพราะเจ้ามัวโอ้เอ้”                หญิงสาวนิ่งตะลึงงันอย่างไม่เข้าใจในวาจาของเจ้าสำนัก ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ แล้วเอ่ยถาม “ท่านเจ้าสำนักหมายถึง ให้กุ้ยหลินไปสำนักหมื่นพิษหรือเจ้าคะ”                “ถูกต้อง” ฝ่ายตรงข้ามตอบชัดถ้อยชัดคำ หนำซ้ำบนใบหน้ายังประดับรอยยิ้ม                หญิงสาวสูดหายใจลึกยาว ก่อนจะเอ่ยถามอย่างคาดหวังว่า “ท่านเจ้าสำนักคงล้อกุ้ยหลินเล่น?”                ฝ่ายตรงข้ามคลี่ยิ้มหวานล้ำ แล้วค่อยส่ายหน้าเล็กน้อย เสมือนเป็นการบ่งชี้ว่า ‘ไม่ได้ล้อเล่น’                “เช่นนั้น มีใครไปกับกุ้ยหลินบ้างเจ้าคะ” นางยังคงไม่หมดหวัง เอ่ยถามหาศิษย์พี่ในสำนัก ทั้งนี้เพราะศิษย์พี่เคยขอสมุนไพรและพิษจากนางก่อนออกไปทำภารกิจภายนอกอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นครั้งนี้หากนางมีตัวช่วยไปด้วยคงได้อุ่นใจมากขึ้น                กระนั้นฝ่ายตรงข้ามยังคงตอบช้าชัดว่า                “ไม่มี”                “มะ... ไม่มี?” นางทวนคำด้วยความฉงนแกมอึ้งนิดๆ “สักคนเดียวก็ไม่มีหรือเจ้าคะ”                “ใช่ ไม่มี”                กุ้ยหลินร้องครางในลำคอ นี่นางมิได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่ เจ้าสำนักมีเจตนาให้นางออกไปใช้ชีวิตนอกสำนัก มิหนำซ้ำยังให้ไปไกลถึงแดนใต้เพียงลำพัง!                นางเคยได้ยินว่าสำนักหมื่นพิษอยู่ทางใต้ ตอนนี้นางอยู่ทางเหนือ ระหว่างเดินทางจะต้องใช้เวลาอย่างต่ำเกือบหนึ่งเดือน อีกอย่างตั้งแต่เข้ามาอยู่ในสำนักบุปผาหยก นางยังไม่เคยออกไปข้างนอกคนเดียวเลยด้วยซ้ำ               “แต่ว่า... วรยุทธ์ของกุ้ยหลินอ่อนด้อย ถ้าหาก... ถ้าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง เจ้าสำนักจะให้กุ้ยหลินทำเช่นไรล่ะเจ้าคะ” นางถามอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ                ฮือ... นางว่าแล้วเชียว เจ้าสำนักต้องการขับนางออกจากสำนักอย่างศิษย์พี่คนอื่นจริงๆ ด้วย ลำพังแค่ออกไปภายนอกสำนักโดยไม่พึ่งพาผู้อื่นสำหรับนางยังทำได้ยาก นี่เจ้าสำนักคิดจะส่งนางไปไกลสุดลูกหูลูกตา ไปอยู่สำนักที่ขึ้นชื่อว่าลึกลับที่สุด เช่นนี้มิเท่ากับส่งนางไปตายหรอกหรือ!                เจ้าสำนักคลี่ยิ้มหวานล้ำเอ่ยย้ำว่า “แต่เจ้าเชี่ยวชาญพิษ ย่อมใช้สิ่งนั้นเอาตัวรอดได้ อีกอย่างเจ้าฉลาดออกจะตาย ข้าเชื่อว่าไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าหรอก”                หญิงสาวเอียงคอครุ่นคิด แม้ในใจอยากจะเถียงใจแทบขาดว่านางมิได้ฉลาดสักนิด ซ้ำร้ายวรยุทธ์ของนางออกจะอ่อนด้อย ไม่มีทางไม่ถูกรังแก... ทว่าก็มิอาจเอ่ยออกไปตามตรง ได้เพียงแต่มองแววตาและมุมปากแฝงรอยยิ้มของเจ้าสำนักที่จ้องมองมาราวกับมีแผนอื่นในใจเงียบๆ                “เจ้านี่น่า ไม่คิดจะก้าวออกนอกสำนักอย่างศิษย์พี่ของเจ้าบ้างหรือไรกัน” เจ้าสำนักถอนใจคล้ายเหนื่อยหน่าย แต่มุมปากกลับโค้งขึ้นน้อยๆ “กุ้ยหลิน แม้ตลอดเวลาหลายปีที่ข้าจะคอยชี้นำเจ้าจะทำให้เจ้าเชี่ยวชาญการใช้พิษ แต่จุดหมายของผู้หญิงมิใช่แค่ร่ำเรียนวิชาในตำราหรืออยู่แต่ในสำนัก นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อตัวเจ้าเองนะ”                เพื่อนาง...                กุ้ยหลินสูดหายใจแรงๆ ด้วยความรู้สึกมืดมน ถึงเจ้าสำนักจะกล่าวว่าทำเพื่อนาง แต่สำหรับนาง นางมั่นใจว่าการที่เจ้าสำนักพยายามส่งนางไปถึงแดนใต้ไม่ต่างจากการขับไล่ออกจากบ้าน!                “เอาล่ะ ถ้าหากเจ้าเตรียมตัวพร้อมเมื่อไรก็ออกเดินทางได้ทันที ขืนประวิงเวลาต่อไปเห็นทีคงจะไม่ทันกาล” คราวนี้เจ้าสำนักกล่าวเสียงเฉียบขาด แววตาแฝงนัยข่มขู่                กุ้ยหลินนั่งนิ่งไม่ขยับ พลางคาดเดาไปต่างๆ นานา                เจ้าสำนักมีความคิดยากหยั่งถึง ในขณะเดียวกันก็มีนิสัยทำอะไรตามอำเภอใจ ถ้าหากนางกล้าขัดคำสั่งบอกว่า ‘ไม่ไป’ ก็เสมือนรนหาที่ แน่นอนว่าเจ้าสำนักย่อมมีวิธีสั่งสอนคนที่กล้าขัดคำสั่ง หรือหากนางยอมเออออห่อหมกอย่างว่าง่าย เลือกทำตามคำสั่งของเจ้าสำนัก เดินทางไปแดนใต้ ถ้าไม่ถูกเสือสิงในป่าจับกินเป็นอาหารก็คงถูกโจรป่าย่ำยีความบริสุทธิ์ เช่นนั้นนางก็ไม่มีทางเลือกนอกจากกินยาพิษปลิดชีพตนเองเสีย และแน่นอนว่า นางย่อมพูดเกินจริง เพราะยาพิษมิอาจทำอันตรายนางได้ ดังนั้นประเด็นถัดมาจึงไม่พ้นต้องยินยอมก้มหน้ารับคำสั่งของเจ้าสำนัก                เอ่อ... หวังว่าเจ้าสำนักคงมิได้เบื่อหน่ายนางใช่หรือไม่ ถึงได้คิดหาวิธีขับไล่นางออกจากบ้านเช่นนี้                กุ้ยหลินขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย ดวงตาคู่งามคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำอุ่น จากนั้นกล่าวรับคำอย่างลังเลว่า                “เจ้าค่ะ กุ้ยหลินจะออกเดินทางตามคำสั่งเจ้าสำนัก”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook