เป็นเพราะอารามดีใจเมื่อเห็นจามจุรีต้นใหญ่ตรงเบื้องหน้า รสิกาจึงรีบผละจากร่างของผู้ชายที่เธอตั้งตำแหน่งให้เสร็จสรรพว่าคุณหลวง ตรงไปยืนอยู่ข้างหลังลำต้นของมันในทันใด เพราะจำได้ว่าต้นไม้ดังกล่าวคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นต้นเดียวกับที่อยู่หน้าบ้านของเธอ ทว่าดวงหน้าสวยกลับซีดสลดลงด้วยความผิดหวัง เมื่อเหลียวมองไปหลังต้นจามจุรี ซึ่งแทนที่จะเป็นตัวตึกขนาดกลางสีครีมซึ่งเป็นบ้านของตัวเอง แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ากลับกลายเป็นตึกทรงยุโรปก่ออิฐถือปูนสีน้ำตาลแดงหลังใหญ่ หลังคาเป็นรูปทรงแปลกๆ ที่ไม่เคยคุ้น ซ้ำมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ผิดกับบ้านของเธอราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ
หญิงสาวยืนชะงักอยู่กับที่พักใหญ่ก่อนเดินวนเวียนเหลียวซ้ายแลขวาไปมา มองไปทางไหนก็ไม่เห็นมีสิ่งที่คุ้นเคยสายตาของเธอเลยแม้แต่น้อย มีเพียงจามจุรีต้นใหญ่ที่เธอกำลังยืนอยู่ใต้ร่มเงาของมันเท่านั้นที่เธอคุ้นชินที่สุด ร่างสูงเพรียวยื่นมือเรียวบางลูบไล้สัมผัสต้นไม้ใหญ่เบาๆ ราวกับมันคือเพื่อนแท้ของเธอในยามนี้ ดวงหน้าเศร้าหมอง ผิดกับก่อนหน้านี้ที่ยังมีร่องรอยของการหัวเราะประดับอยู่ มิได้สนใจไยดีกับสายตาผู้คนที่เดินผ่านและพากันจับจ้องมองมาด้วยสายตาแปลกๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะในยามนี้เธออยากกลับบ้านอย่างเดียวเท่านั้น!
ขณะกำลังยืนหมดอาลัยตายอยากอยู่นั้น จู่ๆ ท่อนแขนของเธอก็ถูกคว้าหมับเข้าให้ ทำเอาคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“คุณหนูการะเกด ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ เข้าไปในบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ”
นอกจากจะสะดุ้งตกใจกับการถูกคว้าที่แขนแล้ว ยังเกิดอาการพิศวงแกมประหลาดใจกับการถูกเรียกขานเป็น ‘คุณหนูการะเกด’ ซ้ำยังพูดเจ้าคะเจ้าขาอย่างที่เคยดูจากละครย้อนยุคอีก จึงเหลียวไปมองเจ้าของคำพูดแปลกหู ก็พบเข้ากับหญิงกลางคนร่างใหญ่ผิวสองสี แต่งกายด้วยชุดโจงกระเบนสีน้ำตาลเข้มสวมเสื้อแขนกระบอกสีคล้ายกัน ไว้ผมบ๊อบเสมอคอแต่ทัดหูไว้ทั้งสองข้าง หน้าตาท่าทางใจดี ยืนยิ้มกว้างอยู่จนเห็นฟันแดงไปทั้งปากจากหมากที่กำลังเคี้ยวหยับๆ อยู่
“เอ่อ...หนูไม่ใช่”
รสิกากำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธบอกว่าเธอไม่ใช่คุณหนูการะเกดอะไรนั่นหรอก ทว่ายังพูดไม่ถึงไหน ก็ถูกหญิงดังกล่าวจับท่อนแขนทั้งสองข้างเอาไว้ แล้วมองสำรวจไปจนทั่วตัวแล้วตบอกดังผาง
“ตายแล้ว...คุณหนูเจ้าขา เหตุใดถึงได้แต่งตัวประหลาดแบบนี้ล่ะเจ้าคะ ถ้าใครมาเห็นเข้าละแย่เชียว รีบเข้าบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ”
“คือ...หนูชื่อรสิกา ไม่ได้ชื่อการะเกดหรอกจ้ะป้า” หญิงสาวอธิบายน้ำเสียงรัวเร็ว ลืมเลือนเรื่องหาทางกลับบ้านลงไปชั่วขณะ พลางบิดไม้บิดมือออก แต่ก็ทานกำลังของอีกฝ่ายไม่ไหว
“อะไรกันเจ้าคะคุณหนู ขอออกไปข้างนอกแค่ไม่นาน บ่าวจะขอตามไปด้วยก็ไม่ยอม พอกลับมา นอกจากจะแต่งกายประหลาด ยังพูดจาพิกลๆ อีก มาเรียกบ่าวว่าป้าได้ยังไงล่ะเจ้าคะ เหาจะกินกบาลบ่าวเอาเปล่าๆ เรียกจวงเหมือนเดิมเถอะเจ้าค่ะ แล้วตามบ่าวมาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเจ้าคุณพ่อกลับมาเห็นเข้าจะถูกดุเอาเปล่าๆ ดีนะเจ้าคะที่บ่าวเห็นออกไปนานเลยออกมาตาม ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นเข้าละก็เป็นเรื่องแน่ๆ”
นอกจากจะไม่ฟังคำอธิบายจากเธอแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อจวงยังพูดจาอะไรที่รสิกาฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจอีก อีกทั้งยังฉุดไม้ฉุดมือพาเข้าประตูบานใหญ่ที่เปิดแง้มไว้ พลางเหลียวซ้ายแลขวาคล้ายกลัวผู้ใดจะเห็น ก่อนจะถอนหายใจดังเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกแล้วกระซิบบอกเบาๆ
“ดีนะเจ้าคะ นังพวกปากหอยปากปูไม่อยู่แถวๆ นี้ ไม่อย่างนั้นคงวิ่งแจ้นไปฟ้องคุณหญิงบ่าวตั้งเอาหน้ากันแล้ว”
จากน้ำเสียงบ่งบอกว่าคงไม่ชอบคนที่เอ่ยถึงนัก แม้หญิงสาวจะยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายก็ทำให้หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างอดขำไม่ได้
จวง...ชื่อโบราณได้ใจจริงๆ อยากจะเติมคำว่าจันทร์ลงไปนัก จะได้ฟังแล้วทันสมัยขึ้นกลายเป็นจวงจันทร์
“ใครเหรอจ๊ะ คุณหญิงบ่าวตั้ง”
จวงร้องเฮ้อ...ออกมาดังๆ แล้วหยิบผ้าสีตุ่นๆ ที่เหน็บเอวไว้มาเช็ดมุมปากแล้วเขม้นมองคุณหนูของแกอย่างแปลกใจระคนไปด้วยอาการสงสัย
“คุณหญิงบ่าวตั้งก็คุณบุษริน แม่เลี้ยงของคุณหนูไงล่ะเจ้าคะ ตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรให้มากความ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเจ้าค่ะ แล้วคุณหนูไปเอาชุดประหลาดๆ แบบนี้มาจากไหนกันเจ้าคะ ชุดพิลึกพิลั่น” พูดจบร่างใหญ่ที่มีพละกำลังดุจผู้ชายอกสามศอกก็จูงข้อมือบางให้ตามเข้าไปในตัวบ้านโดยเร็ว
คนถูกจูงจำต้องก้าวตามไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจนัก เพราะดูเหมือนไม่ว่าจะพูดจาอธิบายอะไรออกไป อีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟังเธอสักนิด เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวบ้านผ่านห้องโถงกว้างก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่ง คาดว่าน่าจะอายุแก่กว่าเธอหลายปี แต่งกายไม่ต่างจากหญิงที่ชื่อจวงนัก วิ่งหน้าเริดเข้ามาเหมือนรอคอยอยู่แล้ว
“มาแล้วเหรอพี่จวง พบคุณหนูหรือเปล่า”
จวงยกมือจิ้มหน้าผากคนถามโดยแรง “พบสิ เอ็งไม่เห็นคุณหนูหรือไงนังจันทร์”
ดวงตาของจันทร์เบิกโพลงมองรสิกาอย่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นคุณหนูการะเกดที่ตัวเองถามถึงอยู่ในชุดที่ไม่เคยคุ้น ขยับปากจะถามแต่ถูกจวงรีบโบกไม้โบกมือ
“เอ็งอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ คอยดูต้นทางไว้ ข้าจะพาคุณหนูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องก่อน”