“ผู้ชายคนที่มาเก็บผ้าเช็ดหน้าและถ่ายรูปให้อุ๋งคือใครเหรอ” เธอว์ใช้น้ำเสียงปกติถามขณะปลดเครื่องประดับของชุดออก
หลังจากประธานเปิดพิธีในสนามเรียบร้อย ทั้งดรัมเมเยอร์และพวกถือป้ายก็มายังบ้านพักครูหลังหนึ่งของโรงเรียนที่จัดงาน ซึ่งอนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าชั่วคราว
“พี่คนนั้นน่ะเหรอ เขาเป็นนักท่องเที่ยว เคยเจอกันมาก่อน” อุ๋งไม่บอกข้อมูลมากไปกว่านี้ เธอรักเพื่อนแต่ก็มีพื้นที่ส่วนตัวที่อยากรักษาไว้
“แล้วคนนอกมาเต้นในขบวนได้ยังไง พี่เปรมฝากเจตน์ให้คอยดูแลอุ๋ง ทำไมเจตน์ไม่รับผิดชอบ”
“ทำไมต้องดูแลเรา เราดูแลตัวเองได้ ส่วนพี่ฉะหลา...พี่คนนั้นเข้ามาในขบวนได้ยังไง เราไม่รู้” อุ๋งหวงแม้แต่ชื่อที่จะออกจากปากตัวเอง เธอเอากิ๊บออกจากผม จากนั้นเดินไปหยิบกระเป๋าใส่ชุดพละสำหรับเปลี่ยนเพื่อกลับไปร่วมเชียร์เพื่อนๆ ที่สนาม
“เราถามเจตน์แล้ว เจตน์บอกว่าตอนนั้นชุลมุน ไม่แน่ใจว่าโดนขัดขาหรือว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วพี่คนนั้นก็ล้มทับ เจตน์พยายามจะลุกขึ้น แต่พี่ผู้ชายตัวโตลุกก่อน เขาเหยียบมือของเจตน์ตอนวิ่งออกไปที่ขบวน” คิม ดรัมเมเยอร์อีกคนบอกหลังจากได้สอบถามเพื่อนร่วมห้องเรียน
“แล้วเจตน์ก็ปล่อยให้พี่คนนั้นเขาเต้นจนจบเลยเหรอ มันได้ที่ไหน” เธอว์ทำหน้าสงสัยแกมขุ่นใจ
“เจตน์จะออกไป แต่ครูที่อยู่ข้างหลังดึงไว้ ครูบอกว่าไม่เป็นไร ดูแล้วเข้ากันดี พอจบแล้วครูบอกว่าชาวบ้านยังชมเลยว่าน่ารักมาก ชมว่าทางโรงเรียนจัดการแสดงได้ดีมาก จนละสายตาไปจากคู่อุ๋งไม่ได้”
คนที่ลงทุนรับคทาไม่ได้เพื่อให้เป็นจุดเด่นแต่กลับไม่ได้รับความสนใจใดๆ แบะปาก ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบถุงเสื้อผ้าบ้าง เห็นอุ๋งยิ้มเขินอยู่กับถุงเสื้อผ้าก็พอเดาออกว่าคนที่เย็นชากับพี่ชายของตัวเองต้องชอบผู้ชายคนนั้นแน่ๆ
“ไปต่อคิวห้องน้ำกัน” อุ๋งชวนคนที่มายืนอยู่ข้างๆ
“อุ๋ง วันนี้พี่เปรมจะเอาเหรียญทองแข่งวิ่งมาให้อุ๋ง จะแข่งตอนสิบเอ็ดโมง เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอุ๋งไปให้กำลังใจพี่เปรมที่ขอบสนามด้วยนะ” เธอว์บอกระหว่างเดินไปด้วยกัน
“ต้องไปสิ พวกเราเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ต้องไปเชียร์นักกีฬาของโรงเรียนกันทุกคนอยู่แล้วนี่” อุ๋งพูดกลางๆ ไม่บ่งบอกว่าเชียร์เปรมเป็นพิเศษ
“หมายถึงพี่เปรมน่ะ ฝากเชียร์ด้วย”
“พูดยังกับเธอว์จะไม่ไปเชียร์งั้นแหละ”
อุ๋งสวนกลับอย่างประหลาดใจ พลางหลบหนึ่งในดรัมเมเยอร์ที่เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดพละของโรงเรียน
“ไปสิ ทำไมจะไม่เชียร์ พี่ชายทั้งคน เอ่อ อุ๋ง เราขออาบน้ำก่อนนะ เราอาบไม่นาน แล้วก็ปวดฉี่มากด้วย จะราดอยู่แล้ว”
“ได้ๆ ตามสบายเลย” อุ๋งหลีกทางให้เพื่อน
แล้วเธอว์ก็ใช้เวลาไม่นานจริงๆ ทั้งอาบน้ำสระผม เธอว์ใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็ก้าวออกมาในชุดพละโดยมีผ้าขนหนูคลุมหัว
“นึกว่าจะสระเอาสเปย์บนผมออกยาก เพราะใส่มาเยอะ ที่ไหนได้ มันง่ายมาก ของอุ๋งยิ่งง่ายใหญ่ เพราะผมอุ๋งแค่ไหล่” เธอว์ยีผมแรงๆ เพื่อให้แห้งเร็วๆ
“เราอาบมั่ง เดี๋ยวรอไปด้วยกันนะ” อุ๋งบอกเพื่อนเสร็จก็เข้าห้องน้ำไป
แต่ครั้นออกมากลับไม่เห็นเธอว์อยู่ในห้อง
“คิม เธอว์ล่ะ”
“เดินไปแล้ว ตะกี้นี้เอง เขาบอกว่าให้อุ๋งตามไปแล้วกัน เหมือนรีบๆ”
“โอเคๆ” อุ๋งรีบเช็ดผม ยังไม่ทันแห้งก็หยิบหวีมาสางลวกๆ เพื่อไปหาเพื่อน
“อุ๋ง เอากระเป๋าสตางค์ไปให้เธอว์ด้วย สงสัยจะลืม” คิมส่งกระเป๋าสตางค์สีชมพูลายการ์ตูนให้อุ๋ง
อุ๋งรับมาใส่ในกระเป๋ากางเกงวอร์ม และเดินออกจากบ้านพักครูตรงไปยังสนามกีฬาซึ่งมีเสียงเชียร์จากอัฒจันทร์ของแต่ละโรงเรียนดังมาแต่ไกล โรงอาหารซึ่งเป็นทางผ่านตอนนี้มีคนมาใช้บริการเยอะขึ้นกว่าตอนสาย อุ๋งเห็นเด็กสาวในชุดพละโรงเรียนเดียวกับตนเองท่ามกลางชุดพละหลากสีก็จำได้ว่าเป็นเธอว์ จึงรีบวิ่งตามไป
เธอว์สาวเท้าเร็วขึ้นพลางมองนาฬิกาข้อมือ เธอว์เดินออกไปไกลจากโรงอาหาร ไปทางอาคารชั้นเดียวที่แยกเป็นหลังๆ อุ๋งเห็นพิรุธจากการมองซ้ายมองขวา จึงไม่ตะโกนเรียกเพื่อน แอบตามไปเงียบๆ เริ่มทิ้งห่างอาคารเรียนกับโรงอาหารมากขึ้น แต่เสียงจากสนามกีฬายังดังอื้ออึง
“ไปไหน” อุ๋งพึมพำ มองป้ายแผนที่จึงรู้ว่าอาคารพวกนั้นเป็นอาคารสำหรับเรียนงานไม้ การงาน เขียนแบบ อุ๋งเห็นเพื่อนเดินเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างที่ซอยเป็นห้องยาวประมาณห้าห้อง ด้านข้างเป็นโถฉี่
“ห้องน้ำชาย” อุ๋งใจเต้นแรง แต่ก็รีบเดินตามไป กลิ่นบุหรี่ฟุ้งกระจายเหมือนมีคนสูบบุหรี่อยู่อีกด้านของห้องน้ำ
“ธะ”
“ชูว์”
ปากของอุ๋งถูกมือหนาประกบปิดขณะที่กำลังจะร้องเรียกเพื่อน แผ่นหลังเล็กถูกดึงไปแนบกับคนร่างสูงใหญ่ที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ชาย
มันก็ต้องเป็นผู้ชายน่ะสิ เพราะนี่เป็นห้องน้ำชาย เป็นเธอกับเพื่อนต่างหากที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง อารามตกใจทำให้อุ๋งหันขวับไปมอง ยังไม่ทันจะร้อง เสื้อยืดสีเทาตัวใหญ่ก็ครอบลงบนหัวเธอก่อนจะถูกดึงลงมาคลุมจนถึงก้น ทัศนวิสัยของเธอตอนนี้คือแผ่นอกหนาชุ่มเหงื่อเจือจางกลิ่นน้ำหอมผู้ชาย
ทางเดียวที่จะต่อสู้ได้ในเมื่อดิ้นรนเท่าไรก็ถูกอีกฝ่ายกดแนบลำตัว อุ๋งหลับหูหลับตากลั้นใจกัดหัวนมสีชมพูบนอกแข็งปั๋ง
“อุ๋งอุ๋ง หยุด พี่เอง ยังกัดพี่ตอนนี้ไม่ได้” ฉลามกัดฟันข่มความเสียวซ่านที่พุ่งจากหน้าอกไปทั่วตัวเขา
ได้ยินว่าเป็นใครก็พอดีสายตาเหลือบไปเห็นพระใส่กรอบทององค์ใหญ่ที่ห้อยไว้กับเชือกร่มสีดำ ยืนยันได้ว่าเป็นเขาจริงๆ เธอเห็นเชือกแบบนี้บนคอของฉลามตอนที่มาเต้นกับเธอในขบวนพาเหรด จึงคลายความตกใจไปเล็กน้อย
จมูกโด่งกับริมฝีปากของเธอถูกกดแนบเข้ามาแทบจะจมเข้าไปในอกเขา แล้วก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้บนศีรษะของเธอมีแก้มของเขาแนบอยู่
“นิ่งๆ ไว้นะ” ฉลามกระซิบ "โอ๊ย อุ๋งอุ๋งขา อย่าเลีย พี่ไม่ไหว"
"เปล่า ปากหนูเผลอไปโดนเฉยๆ"