อย่าเลีย พี่ไม่ไหว

1212 คำ
“ผู้ชายคนที่มาเก็บผ้าเช็ดหน้าและถ่ายรูปให้อุ๋งคือใครเหรอ” เธอว์ใช้น้ำเสียงปกติถามขณะปลดเครื่องประดับของชุดออก หลังจากประธานเปิดพิธีในสนามเรียบร้อย ทั้งดรัมเมเยอร์และพวกถือป้ายก็มายังบ้านพักครูหลังหนึ่งของโรงเรียนที่จัดงาน ซึ่งอนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าชั่วคราว “พี่คนนั้นน่ะเหรอ เขาเป็นนักท่องเที่ยว เคยเจอกันมาก่อน” อุ๋งไม่บอกข้อมูลมากไปกว่านี้ เธอรักเพื่อนแต่ก็มีพื้นที่ส่วนตัวที่อยากรักษาไว้ “แล้วคนนอกมาเต้นในขบวนได้ยังไง พี่เปรมฝากเจตน์ให้คอยดูแลอุ๋ง ทำไมเจตน์ไม่รับผิดชอบ” “ทำไมต้องดูแลเรา เราดูแลตัวเองได้ ส่วนพี่ฉะหลา...พี่คนนั้นเข้ามาในขบวนได้ยังไง เราไม่รู้” อุ๋งหวงแม้แต่ชื่อที่จะออกจากปากตัวเอง เธอเอากิ๊บออกจากผม จากนั้นเดินไปหยิบกระเป๋าใส่ชุดพละสำหรับเปลี่ยนเพื่อกลับไปร่วมเชียร์เพื่อนๆ ที่สนาม “เราถามเจตน์แล้ว เจตน์บอกว่าตอนนั้นชุลมุน ไม่แน่ใจว่าโดนขัดขาหรือว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วพี่คนนั้นก็ล้มทับ เจตน์พยายามจะลุกขึ้น แต่พี่ผู้ชายตัวโตลุกก่อน เขาเหยียบมือของเจตน์ตอนวิ่งออกไปที่ขบวน” คิม ดรัมเมเยอร์อีกคนบอกหลังจากได้สอบถามเพื่อนร่วมห้องเรียน “แล้วเจตน์ก็ปล่อยให้พี่คนนั้นเขาเต้นจนจบเลยเหรอ มันได้ที่ไหน” เธอว์ทำหน้าสงสัยแกมขุ่นใจ “เจตน์จะออกไป แต่ครูที่อยู่ข้างหลังดึงไว้ ครูบอกว่าไม่เป็นไร ดูแล้วเข้ากันดี พอจบแล้วครูบอกว่าชาวบ้านยังชมเลยว่าน่ารักมาก ชมว่าทางโรงเรียนจัดการแสดงได้ดีมาก จนละสายตาไปจากคู่อุ๋งไม่ได้” คนที่ลงทุนรับคทาไม่ได้เพื่อให้เป็นจุดเด่นแต่กลับไม่ได้รับความสนใจใดๆ แบะปาก ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบถุงเสื้อผ้าบ้าง เห็นอุ๋งยิ้มเขินอยู่กับถุงเสื้อผ้าก็พอเดาออกว่าคนที่เย็นชากับพี่ชายของตัวเองต้องชอบผู้ชายคนนั้นแน่ๆ “ไปต่อคิวห้องน้ำกัน” อุ๋งชวนคนที่มายืนอยู่ข้างๆ “อุ๋ง วันนี้พี่เปรมจะเอาเหรียญทองแข่งวิ่งมาให้อุ๋ง จะแข่งตอนสิบเอ็ดโมง เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอุ๋งไปให้กำลังใจพี่เปรมที่ขอบสนามด้วยนะ” เธอว์บอกระหว่างเดินไปด้วยกัน “ต้องไปสิ พวกเราเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ต้องไปเชียร์นักกีฬาของโรงเรียนกันทุกคนอยู่แล้วนี่” อุ๋งพูดกลางๆ ไม่บ่งบอกว่าเชียร์เปรมเป็นพิเศษ “หมายถึงพี่เปรมน่ะ ฝากเชียร์ด้วย” “พูดยังกับเธอว์จะไม่ไปเชียร์งั้นแหละ” อุ๋งสวนกลับอย่างประหลาดใจ พลางหลบหนึ่งในดรัมเมเยอร์ที่เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดพละของโรงเรียน “ไปสิ ทำไมจะไม่เชียร์ พี่ชายทั้งคน เอ่อ อุ๋ง เราขออาบน้ำก่อนนะ เราอาบไม่นาน แล้วก็ปวดฉี่มากด้วย จะราดอยู่แล้ว” “ได้ๆ ตามสบายเลย” อุ๋งหลีกทางให้เพื่อน แล้วเธอว์ก็ใช้เวลาไม่นานจริงๆ ทั้งอาบน้ำสระผม เธอว์ใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็ก้าวออกมาในชุดพละโดยมีผ้าขนหนูคลุมหัว “นึกว่าจะสระเอาสเปย์บนผมออกยาก เพราะใส่มาเยอะ ที่ไหนได้ มันง่ายมาก ของอุ๋งยิ่งง่ายใหญ่ เพราะผมอุ๋งแค่ไหล่” เธอว์ยีผมแรงๆ เพื่อให้แห้งเร็วๆ “เราอาบมั่ง เดี๋ยวรอไปด้วยกันนะ” อุ๋งบอกเพื่อนเสร็จก็เข้าห้องน้ำไป แต่ครั้นออกมากลับไม่เห็นเธอว์อยู่ในห้อง “คิม เธอว์ล่ะ” “เดินไปแล้ว ตะกี้นี้เอง เขาบอกว่าให้อุ๋งตามไปแล้วกัน เหมือนรีบๆ” “โอเคๆ” อุ๋งรีบเช็ดผม ยังไม่ทันแห้งก็หยิบหวีมาสางลวกๆ เพื่อไปหาเพื่อน “อุ๋ง เอากระเป๋าสตางค์ไปให้เธอว์ด้วย สงสัยจะลืม” คิมส่งกระเป๋าสตางค์สีชมพูลายการ์ตูนให้อุ๋ง อุ๋งรับมาใส่ในกระเป๋ากางเกงวอร์ม และเดินออกจากบ้านพักครูตรงไปยังสนามกีฬาซึ่งมีเสียงเชียร์จากอัฒจันทร์ของแต่ละโรงเรียนดังมาแต่ไกล โรงอาหารซึ่งเป็นทางผ่านตอนนี้มีคนมาใช้บริการเยอะขึ้นกว่าตอนสาย อุ๋งเห็นเด็กสาวในชุดพละโรงเรียนเดียวกับตนเองท่ามกลางชุดพละหลากสีก็จำได้ว่าเป็นเธอว์ จึงรีบวิ่งตามไป เธอว์สาวเท้าเร็วขึ้นพลางมองนาฬิกาข้อมือ เธอว์เดินออกไปไกลจากโรงอาหาร ไปทางอาคารชั้นเดียวที่แยกเป็นหลังๆ อุ๋งเห็นพิรุธจากการมองซ้ายมองขวา จึงไม่ตะโกนเรียกเพื่อน แอบตามไปเงียบๆ เริ่มทิ้งห่างอาคารเรียนกับโรงอาหารมากขึ้น แต่เสียงจากสนามกีฬายังดังอื้ออึง “ไปไหน” อุ๋งพึมพำ มองป้ายแผนที่จึงรู้ว่าอาคารพวกนั้นเป็นอาคารสำหรับเรียนงานไม้ การงาน เขียนแบบ อุ๋งเห็นเพื่อนเดินเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างที่ซอยเป็นห้องยาวประมาณห้าห้อง ด้านข้างเป็นโถฉี่ “ห้องน้ำชาย” อุ๋งใจเต้นแรง แต่ก็รีบเดินตามไป กลิ่นบุหรี่ฟุ้งกระจายเหมือนมีคนสูบบุหรี่อยู่อีกด้านของห้องน้ำ “ธะ” “ชูว์” ปากของอุ๋งถูกมือหนาประกบปิดขณะที่กำลังจะร้องเรียกเพื่อน แผ่นหลังเล็กถูกดึงไปแนบกับคนร่างสูงใหญ่ที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ชาย มันก็ต้องเป็นผู้ชายน่ะสิ เพราะนี่เป็นห้องน้ำชาย เป็นเธอกับเพื่อนต่างหากที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง อารามตกใจทำให้อุ๋งหันขวับไปมอง ยังไม่ทันจะร้อง เสื้อยืดสีเทาตัวใหญ่ก็ครอบลงบนหัวเธอก่อนจะถูกดึงลงมาคลุมจนถึงก้น ทัศนวิสัยของเธอตอนนี้คือแผ่นอกหนาชุ่มเหงื่อเจือจางกลิ่นน้ำหอมผู้ชาย ทางเดียวที่จะต่อสู้ได้ในเมื่อดิ้นรนเท่าไรก็ถูกอีกฝ่ายกดแนบลำตัว อุ๋งหลับหูหลับตากลั้นใจกัดหัวนมสีชมพูบนอกแข็งปั๋ง “อุ๋งอุ๋ง หยุด พี่เอง ยังกัดพี่ตอนนี้ไม่ได้” ฉลามกัดฟันข่มความเสียวซ่านที่พุ่งจากหน้าอกไปทั่วตัวเขา ได้ยินว่าเป็นใครก็พอดีสายตาเหลือบไปเห็นพระใส่กรอบทององค์ใหญ่ที่ห้อยไว้กับเชือกร่มสีดำ ยืนยันได้ว่าเป็นเขาจริงๆ เธอเห็นเชือกแบบนี้บนคอของฉลามตอนที่มาเต้นกับเธอในขบวนพาเหรด จึงคลายความตกใจไปเล็กน้อย จมูกโด่งกับริมฝีปากของเธอถูกกดแนบเข้ามาแทบจะจมเข้าไปในอกเขา แล้วก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้บนศีรษะของเธอมีแก้มของเขาแนบอยู่ “นิ่งๆ ไว้นะ” ฉลามกระซิบ "โอ๊ย อุ๋งอุ๋งขา อย่าเลีย พี่ไม่ไหว" "เปล่า ปากหนูเผลอไปโดนเฉยๆ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม