นึกว่าพี่ลืมอุ๋งไปแล้ว

1689 คำ
“มึงจะมาทำเสียงไม่พอใจทำไม รอให้จบหน้าที่ก่อน มึงจะไปทำอะไรก็ไปทำ” เจตน์ตำหนิเพื่อนซึ่งแข่งกันจีบเธอว์อยู่ “อุ๋งน่ารักกว่าตั้งเยอะ ทำไมไปแย่งกันจีบเธอว์วะ” เพื่อนชายซึ่งยืนอยู่ถัดไปส่ายหัว เขามีหน้าที่ประกบหนึ่งในดรัมเมเยอร์ที่อยู่ด้านหลังสามไม้แรก “ใครจะกล้าวะ พี่เปรมแกหวงมาก” เม่นหันไปบอก “กูตัดใจตั้งแต่ต้นลม ไม่งั้นไฟไหม้หัวกบาลกูแน่” “ไม่เห็นต้องใช้คำว่าแย่งเลย นังเธอว์น่ะ สเปกมันก็ชัดเจน สูงๆ หล่อๆ ผ่านสองข้อนี้ ก็เข้าแถวรอได้เลย” คนที่อยู่เยื้องไปอีกด้านบอก “อย่างพวกเราเนี่ย ผ่านมาตรฐานนังเธอว์ แต่ๆๆๆๆ เสียใจ ฉันไม่จิ้มมันหรอก” จุก หรือชื่อในวงการคือจุ๊กจิ๊กบิดปาก “เพราะมึงสเปกเดียวกับนังเธอว์ รอผู้ตาถั่วไปจิ้ม” เจตน์ว่าเพื่อนที่เก็บทรงไม่อยู่ ออกอาการขัดเขินเมื่อหนุ่มหล่อร่างใหญ่แปลกหน้าหันมามอง ฉลามใช้ช่วงเวลาที่หันไปเสี้ยววินาที กวาดตามองทั่วบริเวณ ทีมงานของโรงเรียนอุ๋งมายืนรอกันเต็มแล้ว “หล่อจัง ใจหนูเต้นแรงมาก” ฉลามดันแว่นกันแดดขึ้นไปไว้บนหัวเพื่อส่งสายตาข่มขู่ใส่จุ๊กจิ๊กที่ส่งสายตาอ่อยเหยื่อ จะได้เห็นกันชัดๆ ว่าเขาไม่เล่นด้วย “กรี๊ดดดดดดด อยากโดนทำร้ายร่างกาย พี่ถอดแว่น หนูอยากถอดกุงเกงเลย” “ไอ้จุก พี่เขาจะชกมึงอยู่แล้ว” เจตน์ดุเพื่อนด้วยการเรียกชื่อจริง จุ๊กจิ๊กจึงหันไปซุบซิบกับเพื่อนอีกคน ฉลามจับความได้คร่าวๆ ว่าจุ๊กจิ๊กยังเพ้อถึงเขา ป่วยการจะเขม่นเด็กต่อ เขาเลิกสนใจ เอาแว่นลงตามเดิมและหันไปมองทางถนน เขาฟังกลุ่มเด็กนักเรียนชายพูดคุยกันไปเรื่อยๆ เดาได้ว่าพวกนี้เป็นเพื่อนชั้นม.5 ของอุ๋ง บางคนอยู่ต่างห้อง บางเรื่องเขาฟังแล้วก็แอบหัวเราะ บางเรื่องฟังแล้วขมวดคิ้ว เขาหันไปมองอีกครั้งเมื่อคนข้างหลังกระแทกเขาบ่อย ปรากฏว่าน้องๆ กลุ่มนี้กำลังซ้อมท่าเต้นกัน ผ่านไปสักพักก็หยุดและคุยกันต่อ “พี่เปรมนะ ชอบอุ๋งจนไม่มองใครเลย แกบอกว่าเหรียญทองบาสเกตบอลมันธรรมดา เพราะเป็นกีฬาที่ถนัด แกก็เลยซ้อมวิ่ง วันนี้แกจะวิ่งเพื่อเอาเหรียญทองมาให้อุ๋ง” เม่นพูดตามคำบอกเล่า แค็กๆ แค็กๆ ฉลามฟังถึงตรงนี้ก็เก็บอาการคลื่นไส้ไม่อยู่ เขาไล่อาการขื่นในลำคอด้วยการไอแรงๆ “อ๋อ ที่ไปวิ่งริมทะเลแถวบ้านอุ๋งอะเหรอ เห็นนังเธอว์เอามาคุย” จุ๊กจิ๊กทำท่าหมั่นไส้ “พี่เปรมนะพี่เปรม กินจุ๊กจิ๊กไปพลางๆ ก่อนก็ไม่ได้ จะกินแต่แมวน้ำ เฮ้อ” “เฮ้ยพอแล้ว ใครต้องไปอยู่ฝั่งโน้นข้ามไปได้เลย ขบวนมาแล้ว” “ย่ะ ขอให้ภารกิจเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าสำเร็จนะยะ พี่เปรมนี่ก็บ้าเนอะ แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของอุ๋งก็อยากจะได้” “ผืนนี้กูซื้อมายี่สิบบาท แลกกับผืนของอุ๋งสองพันบาท” เจตน์หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ออกจากกระเป๋ากางเกงมาสะบัดให้เพื่อนๆ ดู “คลั่งรักเวอร์ ไปดีกว่า ขนาดตัวไม่อยู่หนูยังเลี่ยนเลย” จุ๊กจิ๊กเก็บจริต เดินแบบแมนๆ ข้ามถนนไปกับเพื่อนๆ เพื่อไปยืนประจำจุด ฉลามหยิบกล้องถ่ายรูปจากกระเป๋ามาคล้องคอ หยิบเลนส์ที่เลือกไว้มาใส่ที่บอดี้ จากนั้นก็เล็งระยะไกลไปยังขบวนพาเหรดที่เพิ่งพ้นมาจากหัวมุมถนน ดรัมเมเยอร์อยู่ในชุดสีดำขลิบทองถุงน่องตาข่ายดำ กระโปรงสั้นแบบถึงไหนถึงกันแถมบานเป็นดอกเห็ด ถึงจะใส่กางเกงตัวสั้นแนบเนื้อด้านใน แต่ดูยังไงก็ไม่โอเคสำหรับฉลาม แต่พอหันกล้องไปที่ดรัมเมเยอร์คนอื่นซึ่งอยู่ในชุดแบบเดียวกัน มันกลับดูไม่โป๊ มีอุ๋งคนเดียวที่โป๊ในสายตาเขา ฉลามใจเต้นแรงเมื่ออุ๋งมาหยุดบนถนนตรงหน้าเขา พออยู่ในชุดนี้ แต่งหน้าจัด ยิ้มแย้มแม้บนหน้าเริ่มมีเหงื่อซึม เธอดูเป็นสาวเต็มตัว ดูมีความมั่นใจ ดูมีความเป็นผู้นำสมกับเป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง กล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์จากผู้คนสองข้างทางถูกยกขึ้นมาถ่ายคลิประหว่างที่เหล่าดรัมเมเยอร์เริ่มแสดงการควงคทาและโยน “วู้ๆๆๆๆ แมวน้ำของพี่ฉลามเก่งจัง” ฉลามตะโกน แต่อุ๋งไม่ได้ยินเพราะเสียงดนตรีดังมาก และคนรอบข้างก็ตะโกนเรียกลูกหลานตัวเองกันเซ็งแซ่ คทาถูกโยนขึ้นสูงมาก ทุกคนเงียบเสียงลุ้นระทึก “เยส เก่งมากที่รัก!!!” ฉลามกระชากแขนข้างหนึ่งเข้าหาตัวเหมือนได้รับชัยชนะ ตะโกนเชียร์ด้วยถ้อยคำที่ไม่แคร์ใคร แต่มีคนหนึ่งรับไม่ได้ แต่ก็ใช้ความว่องไวรีบเก็บขึ้นมาไม่ทำให้คนอื่นสะดุด การแสดงควงคทาจบลง ต่อด้วยการแสดงที่เด็กนักเรียนชายซ้อมท่าเต้นกันเมื่อครู่ เสียงปรบมือดังเกรียวกราวเมื่อดุริยางค์จำนวนห้าสิบคนเล่นเครื่องดนตรีของตัวเองและเต้นไปพร้อมกับดรัมเมเยอร์ข้างหน้า ส่วนขบวนพาเหรดข้างหลังอีกสามร้อยกว่าคนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาโบกประกอบท่าเต้น ขบวนพาเหรดไม่เหงา เพราะทางโรงเรียนเตรียมการมาดี บรรดาหน้าม้าซึ่งมีทั้งครูและศิษย์เก่าสองข้างทางตะโกนร้องเพลงเหมือนอยู่ในงานคอนเสิร์ต จุดประสงค์คือหลังจากแสดงความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของโรงเรียนให้เป็นที่ประจักษ์แล้วก็จะสร้างความบันเทิงให้กับชาวบ้านร้านตลาด ผลที่ได้คือพวกเขาเหล่านั้นขยับแข้งขาและร้องเพลง ‘ผ้าเช็ดหน้า’ ของไทรอัมส์คิงดอมไปด้วย “แล้วก็ไม่กล้าจริงๆ ไม่กล้าจริงๆ ทุกครั้งที่ฉันเจอเธอฉันนั้นไม่กล้าจริงๆ จะต้องทำท่ายังไง จะพูดจะเริ่มยังไง ก็ใจฉันมันปิ๊ง” ตรงนี้เป็นจังหวะที่เด็กนักเรียนชายบรีฟกันไว้ว่าต้องเข้าไปประกบดรัมเมเยอร์ ซึ่งฉลามแอบฟังและแอบดูมาตลอด เต้นท่าเบสิกๆ แบบนั้นสบายอยู่แล้ว คนที่ผ่านการเต้นหน้านาคมาตั้งแต่เด็ก สายเอนเทอร์เทนของเด็กๆ ตั้งท่ารอ พอเด็กนักเรียนชายก้าวขาวิ่งออกไปที่ขบวน ฉลามก็ยื่นขาออกไปขัดขาคนชื่อเจตน์ซึ่งเป็นตัวแทนของเปรม อาศัยช่วงชุลมุนแสร้งล้มทับมันซ้ำ ร่างใหญ่โตที่โถมลงไปทำให้เด็กนักเรียนชายจุกแอ้ก เท่านั้นยังไม่พอ ฉลามรีบลุกมาเหยียบบนมือที่กำลังเท้าพื้นพยุงตัวจนเจตน์นอนร้องโอดโอย ฉลามวิ่งเข้าไปหาอุ๋งซึ่งทิ้งผ้าเช็ดหน้าลงบนพื้นพอดี สาวน้อยหมุนตัวบิดก้น ส่ายสะบัดๆ ใส่คนที่ก้มลงไปเก็บผ้าเช็ดหน้าอย่างให้ท่าตามบท “อื้อหือ เป็นเรื่อง น้ำเดินเลย!!!” ฉลามโอดครวญเมื่อกระโปรงทรงเห็ดแทบจะครอบหน้า เป็นผลให้เหล่าลูกฉลามในท่อส่วนตัวของเขาแตกตื่น อยากให้พ่อปลดปล่อยพวกมันออกมา เผียะ!!! อุ๋งสะดุ้งเมื่อโดนตีก้น ตามด้วยโกรธจัดที่เพื่อนแต๊ะอั๋ง เธอทนเก็บอาการไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปเคลียร์ทีหลัง แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่มีเพื่อนชื่อเจตน์ภพอีกต่อไป ฉลามเก็บผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาขณะที่ร่างกายของเขาปวดหนึบร้าวระบม “ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้า ของฉันหน่อยได้ไหม เพราะฉันทำมันตก ฉันกลัวใครคว้าไป” แล้วอุ๋งก็หันมาเพื่อรับผ้าเช็ดหน้าที่ชายหนุ่มเก็บขึ้นมาให้ เธอตกใจมากเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนของเธอ แต่เป็นหนุ่มหล่อจัดสวมแว่นกันแดด ผมก็ไม่ใช่ทรงนักเรียน บนลำคอคล้องกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่ เขาเป็นคนเก็บผ้าเช็ดหน้า แต่ยังไม่ยอมยื่นให้เธอ น้ำตาสาวน้อยไหลพรากเมื่อเห็นรอยยิ้มที่เบ่งบานพร้อมลักยิ้มสองข้างแก้ม มือของเธอเย็นเฉียบยามจับมือกับเขาตามท่าเต้น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตาแดงเรื่อ คนที่เธอเพียรไปมองหาที่วิลล่าที่เขาเคยมาพักกลับมาอยู่ตรงนี้ เป็นเรื่องจริงใช่ไหม!!! ฉลามบีบมือเล็กและดึงมาแนบที่หัวใจ ร้องเพลงไปด้วย “ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้า ของฉันหน่อยได้ไหม เพราะฉันทำมันตก ตกลงพร้อมหัว...ใจ” เสียงเพลงยังคงดังไปเรื่อยๆ ฉลามออกนอกบรีฟที่แอบดูแอบฟังมา เขาโอบเอวพาอุ๋งเต้นในขณะที่อุ๋งพยายามรักษาท่าเต้นให้คงเดิม ฉลามยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่ยังดูไม่น่าเกลียด “เอาผ้าเช็ดหน้าของพี่มาทิ้งได้ยังไงคะอุ๋งอุ๋ง” “หนูนึกว่าพี่ลืมหนูไปแล้ว” เขาใช้นิ้วปาดน้ำตาให้เธอที่ไหลไม่หยุด “ไม่ร้องไห้นะคนดี พี่เป็นรอยยิ้มของอุ๋งอุ๋งไม่ใช่เหรอ” เขาจับแขนเธอส่งสัญญาณว่าต้องออกจากขบวนแล้ว “หนูขอผ้าเช็ดหน้า” อุ๋งเอื้อมมือมาจับแขนเขา ฉลามถอยกลับไปหา โน้มหน้าไปกระซิบ “เดินขบวนพาเหรดจบ หาพี่ให้เจอสิ แล้วพี่จะคืน” เสียงปรบมือดังก้อง ฉลามโค้งให้กับชาวบ้านที่พากันยิ้มให้กับคู่ของเขา ทุกคนคิดว่ามันเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นคู่เอกที่ชวนจินตนาการ แต่ครูกับนักเรียนรู้ว่ามีการเล่นนอกบท นักแสดงสมทบที่กลายเป็นตัวเอกไม่สนใจสายตาใคร เขาเดินนำหน้าขบวนพร้อมกับถ่ายรูปให้อุ๋งไปเรื่อยๆ โดยมีดรัมเมเยอร์ไม้สองมองมาทางเขาเหมือนคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหน แต่ยังหาคำตอบไม่ได้เพราะมีแว่นกันแดดปิดบังดวงตาไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม