@Sicily, Italy
เกาะซิซิลีประเทศอิตาลีเป็นเกาะขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสถานที่เลื่องลือเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา บนเกาะแห่งนี้มีปราสาทสองหลังขนาดใหญ่ที่ใครต่างก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ปราสาทนี้กินพื้นที่มากกว่าสิบไร่ มันกว้างขวางจนเกินบรรยาย ข้าง ๆ ทางลาดยางทางเข้าปราสาทนี้มีสนามหญ้า ซุ้มดอกไม้สีขาวล้วน แต่พอแซมกับใบไม้สีเขียวทำให้มันน่าพิสมัยมากขึ้นเท่าตัว มีรูปปั้นโรมันตั้งเรียงรายทั้งสองข้างทาง และต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาบดบังปราสาทสีน้ำตาลแก่ค่อนไปทางดำนี้ ทำเอาคฤหาสน์ที่ไม่ต่างจากปราสาทสองหลังนี้ลึกลับน่าค้นหา บริเวณไม่ไกลจากคฤหาสน์สองหลังนี้คือทะเลสาบน้ำจืด
บนหอคอยปราสาทหลังหนึ่ง เป็นห้องพักของหลานสาวตระกูลคาร์น เธอก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ภายในห้องนอนของตน คุณตาเควินมีลูกถึงสามคน คนแรกคือมารดาของเธอ ความรักความหวงแหนในตัวหลานสาวทำให้เธอไม่ต่างจากเจ้าหญิงบนหอคอย
ดอกไม้หลายช่อถูกวางเรียงรายภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างบางในชุดกระโปรงลายดอกโบตั๋นนั่งยอง ๆ สูดดมดอกไม้ที่ถูกนำมาให้เลือก เธอหยิบดอกทิวลิปสีโอลด์โรสขึ้นมาดู
“มันช้ำนะคะดอกนี้”
“ค่ะ เดี๋ยวพอเอาไปจัดทางร้านจะเปลี่ยนดอกใหม่ให้นะคะคุณหนู” แพตตี้ยิ้มรับบาง ๆ เธอวางดอกทิวลิปไว้ดังเดิม ก่อนจะยื่นมือไปคว้าเอาดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมา
“ความหมายดอกกุหลาบดีนะคะ เหมาะกับคุณหนูมากกว่าค่ะ”
“เหรอคะ” เธอว่าด้วยท่าทีเขินอาย ไม่รู้ว่าว่าที่เจ้าบ่าวคิดเช่นเดียวกับเธอไหม ทว่าหญิงสาวนั้นคิดไปแล้ว
นานแล้วที่เธอได้ยินว่าพ่อแม่หมั้นหมายเธอให้กับชายที่ไม่เคยพบหน้า เธอใช้ชีวิตที่อิตาลีด้วยความที่คุณตาหวงมาก ร่ำเรียนที่นี่ กระทั่งเรียนจบมหา’ลัยทางบ้านก็ให้เธอหมั้นหมายกับเขา ถึงกระนั้นการหมั้นหมายของเธอก็เป็นเพียงการพูดคุยกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย คราแรกเธอก็ไม่อะไรมากนัก ดีเสียอีกเพราะอยากย้ายไปอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว อยากอยู่ที่นั่นด้วยความที่พ่อแม่และพี่ชายใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย หญิงสาวจึงตอบรับการหมั้นหมายนี้ด้วยเหตุผลนี้ในคราแรก
ทว่าครานี้...การติดตามชีวิตของเขาผ่านโซเชี่ยลทำให้เธอหลงรักเขาไม่รู้ตัว แพตตี้สาวน้อยที่คุณตาหวงแหนไม่เคยชายตามองใคร ไม่มีชายใดกล้าเข้ามาจีบด้วยความที่เป็นถึงหลานสาวมาเฟียอิตาลีผู้ยิ่งใหญ่ เธอไม่เคยได้คุยกับชายใด ไม่เคยติดตามชีวิตของใครนอกจากเขาที่จะมาเป็นสามีของเธอในอนาคต
PAYU.
“หึ...” ร่างบางหลุดเสียงหัวเราะออกมา เธอกำลังนึกถึงภาพถ่ายที่เขาเพิ่งอัปโหลดไปเมื่อเช้านี้
‘ซียู...อิตาลี’
เขาถ่ายรูปเครื่องบินพร้อมกับเขียนข้อความว่าเจอกันอิตาลี แพตตี้แอบติดตามโซเชียลของเขามาหลายปีตั้งแต่รู้ว่าต้องแต่งงานกับเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเป็นเธอ แต่มันก็ดีแล้วที่เขาไม่รู้จะได้ไม่ต้องอึดอัด ซึ่งการแต่งงานของเธอกับเขาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น หญิงสาวต้องทำความรู้จักอีกฝ่ายอีกเยอะ
“ดอกกุหลาบสีแดง...ดอกไม้แห่งการแทนใจ เป็นดอกไม้ของกามเทพ นำความรักมาให้แก่คนได้รับ ความหมายประมาณนี้ไหมคะ” เธอหันไปถามพี่เลี้ยงสาว ก่อนจะได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
“ค่ะ คุณหนู...พี่ว่าเอาตามที่เราชอบเลยดีกว่า อีกสองวันน่าจะจัดดอกไม้เสร็จพอดี” แพตตี้พยักหน้ารับ เธอเลือกดอกไม้มาหลายวันแล้ว อยากให้งานแต่งครั้งเดียวในชีวิตนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
“ได้ยินว่าคุณหมอจะมาถึงวันพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือคะ คุณหนูไม่ไปเลือกชุดไปกินข้าวกับคุณหมอก่อนคะ”
“เอางั้นหรือคะพี่ลิลลี่”
“ค่ะ...” แพตตี้ลุกขึ้นยืน เธอมองดอกไม้ที่เธอเลือกไว้นั้น ก่อนจะหันไปหาพี่เลี้ยงสาวอีกครั้ง “ช่วยบอกร้านจัดดอกไม้ด้วยนะคะว่าเอาดอกไม้ฝั่งนี้ค่ะ พรุ่งนี้เย็น ๆ ฉันจะไปตรวจงานนะคะ”
“ได้ค่ะคุณหนู” แพตตี้ยิ้มรับก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ของตน ที่ตอนนี้มีคนรับใช้หลายคนยืนค้อมศีรษะให้กับเธออยู่
“ชุดในราวนี้ที่เลือกไว้ให้ค่ะคุณหนู”
“ชุดสวยจังค่ะ ห้องเสื้ออะไรคะ...” เธอเดินเข้าไปพลิกป้ายแบรนด์เสื้อผ้าที่ถูกเตรียมให้สำหรับทานข้าวกับว่าที่เจ้าบ่าวในวันพรุ่งนี้ “หืม...สวยจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ”
“จากที่สอบถามมา...เราไม่รู้เลยค่ะว่าคุณหมอชอบผู้หญิงแต่งตัวแบบไหน เขาไม่เคยมีแฟน ไม่เคยโพสต์หรือแชร์รูปผู้หญิงเลยค่ะ”
“ค่ะ...ฉันก็ว่างั้น” แพตตี้หัวเราะออกมาเบา ๆ เธอตามเขามานานไม่เคยเห็นเขาโพสต์อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงเลย ทั้งในอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นโซเชียลสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคใหม่ที่เล่นกัน เธอติดตามเขามาเกือบสี่ปี เขาโพสต์แต่รูปสัตว์และดอกไม้
“อืม...เอาเป็นชุดเดรสกระโปรงตัวนี้นะคะ”
“โอเคค่ะ ลองก่อนนะคะ” แพตตี้ยิ้มรับ เธอรับชุดเดรสจากคนรับใช้มาสวมใส่ ร่างบางถูกจับแต่งตัวราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ เธอถูกทะนุถนอมจากคนงานหลายร้อยชีวิตที่นี่
คิดแล้วยังรู้สึกใจหายที่ต้องจากที่นี่ไปหลังจากแต่งงานแล้ว ปราสาทสองหลังนี้เป็นปราสาทของคุณตา ท่านรักและหวงแหนเธอมาก นกน้อยในกรงทองที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีกำลังจะถูกปล่อย ใจดวงน้อยสั่นไหว เพียงแค่คิดว่าจะต้องลาจากก็รู้สึกใจหาย ความผูกพันที่เกิดขึ้นกับสาวรับใช้หลายคนนี้ทำให้เธอเสียน้ำตา
“ช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้อย่าร้องไห้เลยนะคะคุณหนู” ลิลลี่ที่จัดการดอกไม้แล้วเสร็จเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของคุณหนูแพตตี้ ร่างบางที่เดินมากอดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมานั้นเธอเข้าใจเป็นอย่างดี
“คุณหนูน่ารัก ใคร ๆ เห็นก็ต้องตกหลุมรักคุณหนูค่ะ”
“อึก ฉันต้องคิดถึงพี่แน่ ๆ เลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรนะคะ...ไว้มาหาลิลลี่นะคะ” พี่เลี้ยงสาวที่คอยประคบประหงมคุณหนูน้ำตาร่วงลงมาเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปล่อยให้เธอไปอยู่กับชายที่ไม่เคยเห็นหน้านั้น
“เขาว่ากันว่าความรักชนะทุกอย่าง คุณหนูทำให้เขารักและเอ็นดูนะคะ แล้วคุณหนูจะมีความสุขค่ะ” แพตตี้พยักหน้ารับ เธอเลือกอะไรไม่ได้มากนัก อะไรที่พ่อแม่ว่าดี...เธอก็ว่าดีตามไปด้วย อีกอย่างว่าที่สามีของเธอ...เขาก็ไม่ได้แย่อะไร แถมหล่อมากอีกต่างหาก
วันต่อมา...
ทันทีที่เครื่องบินแลนด์ดิ้ง เพียงแค่ก้าวแรกที่ฝ่าเท้าหนาในรองเท้าผ้าใบเหยียบลงพื้นแผ่นดินอิตาลี พายุก็ได้รับการต้อนรับจากคนของว่าที่เจ้าสาวของเขา
“คุณหนูรอที่ร้านอาหารครับ” เขาพยักหน้ารับน้ำเสียงภาษาอังกฤษนี้ ได้รับข้อความจากพ่อแล้วว่าอีกฝ่ายมารอต้อนรับเขาที่ร้านอาหาร ยังดีที่บนเครื่องบินมีห้องอาบน้ำ ไม่งั้นก็คงแย่หากจะเจอกันในสภาพเพิ่งลงเครื่องเช่นนี้
“เดี๋ยวเราจะให้คนไปเก็บของให้ครับ คุณหมอพักอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ได้เลยนะครับ”
“พ่อกับแม่มาถึงกี่โมง”
“เย็นนี้ครับ”
“มากันหมดเลยนี่” เขาว่าด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของเขาที่รู้จักและสนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก ๆ เรียกได้ว่าเป็นญาติของเขาจะมาร่วมแสดงความยินดีกับเขาในวันแต่งงานด้วย
ใช้เวลาไม่นานสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องยนต์คันหรูเมอร์เซเดสเบนซ์ โชคดีที่งานแต่งงานของเขาถูกจัดขึ้นในฤดูร้อน ถึงกระนั้นอิตาลีก็ไม่ได้ร้อนเสียทีเดียว ลมที่โกรกในเวลาเช้าตรู่นี้ทำให้ผมสีดำสนิทของชายหนุ่มพลิ้วไหว เขาลงจากรถยนต์คันหรูพร้อมกับมีชายในชุดสูทเดินนำทาง พายุรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาพบปะสตรีเพศเยอะมากพอตัวด้วยความเป็นหนุ่มหน้าตาดี มีผู้หญิงหลายคนที่คอยเข้าหาเขามาเสมอ ทว่ารอบนี้ที่เป็นการพบปะหญิงสาวที่เรียกได้ว่าเป็นภรรยาของเขาในอนาคต
“คุณหนูนั่งรออยู่นะครับ” ชายร่างสูงใหญ่ผายมือให้กับเขา พายุมองเข้าไปในภัตตาคารหรูนี้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เขารับรู้ข่าวสารของเธอผ่านบิดามารดามาโดยตลอด ท่านยกยอว่าที่สะใภ้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นความน่ารัก ความอ่อนหวาน ความอ่อนน้อมถ่อมตนแม้นจะเป็นคนร่ำรวย ฝ่าเท้าหนาก้าวขาเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ ร้านอาหารแห่งนี้คงถูกเหมาทั้งชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วย เพราะไม่มีลูกค้าคนอื่น นอกจากวงดนตรีสดที่เล่นเพลงขับกล่อมอย่างช้า ๆ สร้างบรรยากาศภายในร้านให้โรแมนติก
ซึ่งการเดินเข้ามาของเขาทำให้หญิงสาวที่กำลังนั่งเขี่ยโทรศัพท์รู้สึกตัว เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างหนาที่เดินเข้ามา เขาอยู่ในเสื้อฮู้ดกันหนาวสีดำกางเกงวอร์มขายาวและรองเท้าผ้าใบ ซึ่งการแต่งกายแสนธรรมดานี้ไม่ได้ลดทอนความหล่อเหลาและความดูดีของเขาแม้แต่น้อย
ครืดด~
แพตตี้ดันเก้าอี้ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน เธอทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ร่างบางยกมือขึ้นลูบศีรษะของตนปอย ๆ เขาไม่ต่างจากรูปถ่ายเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าราวกับพระเจ้าเข้าข้างนั้นยิ้มให้กับเธอ
“สวัสดีครับ” เขาเอ่ยทักทายเธอด้วยเสียงทุ้มชวนหลงใหล แพตตี้อยู่ในชุดเดรสกระโปรงลายดอกไม้เล็ก ๆ สีชมพู ทางด้านบนเป็นสายเดี่ยวคล้องคอ หุ่นของเธอไม่ได้เล็กเหมือนกับสาวเอเชียเต็มตัว กระนั้นเธอก็ตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขา
“ค่ะ...เอ่อ อ่า อืม ฉันแพตตี้ค่ะ” อยู่ ๆ ลำคอก็แห้งผาก เอ่ยพูดเหมือนกับมีอะไรมาติดคอ แพตตี้รู้สึกขายหน้า เธอเม้มริมฝีปากหันรีหันขวางทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกเขาจ้องมอง
“ครับ ผมพายุ”
“อ้อค่ะ พายุ เอ้ย!...พี่พายุ”
“หึ...” พายุหัวเราะออกมาเล็กน้อย เธอทำตัวไม่ถูก แพตตี้ที่พ่อเขาว่าน่ารักนั้น...เขาขอเถียง เธอสวยมากเลยต่างหาก ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ เธอปล่อยผมสีน้ำตาลแดงลงมาจนยาวถึงเอวบาง ผมหน้าม้าที่บดบังใบหน้าของเธออยู่นั้นแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนขี้อาย ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นเต็มไปด้วยความสดใส พวงแก้มของเธอ...
“เอ่อ หน้าฉันมีอะไรติดหรือเปล่าคะ...”
“เปล่าครับ”
“อ้อ...”
“พี่ว่าเราควรนั่ง” เขากำลังจะเดินไปขยับเก้าอี้ให้เธอ ทว่าแพตตี้กลับรีบนั่งลงโดยลืมไปเสียสนิทว่าตอนลุกขึ้นนั้นเธอได้ดันเก้าอี้ถอยไปไกล
“ระวังครับ”
“กรี๊ด!!...” แพตตี้หลับตาปี๋ด้วยความหวาดเสียว เธอยกขาสูงจนกระโปรงถกขึ้น แต่ยังดีที่ก้นไม่กระแทกพื้นเมื่อชายหนุ่มเคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วคว้าต้นแขนของเธอไว้เสียก่อน ซึ่งแรงกระชากของเขานั้นทำให้เธอรีบคว้าเสื้อฮู้ดของเขาไว้พร้อมกับยกเรียวขาข้างหนึ่งเกี่ยวสโพกหนาด้วยความกลัวว่าจะเสียหลักล้มลง
หญิงสาวไม่กล้าลืมตาขึ้นมาเพราะความอับอายที่เกิดขึ้น ใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นอย่างแรง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ต่อหน้าผู้ชายที่จะมาเป็นสามีของเธอ ร่างเล็กสั่นเทา ใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงด้วยความตกใจปะปนด้วยความเขินอาย เธอกำเสื้อของเขาไว้แน่น
“เอ่อ...แพตตี้ครับ”
“กึก ฉะ ฉัน กึก...อาย” แพตตี้ก้มหน้างุด เธอเอ่ยพูดพร้อมกับฟันซี่เล็กที่กระทบกัน ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา เธอเม้มริมฝีปากไว้แน่น
“ไม่ต้องอายครับ หึ...ไม่มีคนอื่นเลยมีแค่พี่”
“กึก...” ได้ยินอย่างนี้แล้วก็ยิ่งอยากแทรกแผ่นดินหนี มีคนอื่นอีกพันคนเธอก็ไม่อายเท่ามีแค่เขา แถมเมื่อครู่...เขายังหัวเราะอีก
“อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ครับ มันแค่อุบัติเหตุ แค่กระโปรงเปิดแค่นั้น”
“อะไรนะคะ”
“เอ่อ...พี่หมายถึง เราต้องยืนก่อน กระโปรงถึงดึงลงได้ ถ้ายกขาแบบนี้...” แพตตี้อยากเป็นลม เธอดึงขาข้างหนึ่งที่เกี่ยวเอวของเขาลง หญิงสาวดึงกระโปรงฟูฟ่องนี้ลงดังเดิมพร้อมกับหัวใจที่ยังคงโหมกระหน่ำเต้นแรง
เป็นประสบการณ์เจอกันวันแรกที่เธอจะจำไว้จนวันตายว่ามันน่าขายหน้ามากแค่ไหน...