“แต่ถ้าแม่ดอกแก้วไม่ออกเรือนในครานี้ น้องเกรงว่าต่อไปจักเป็นสาวทึนทึกขึ้นคานเจ้าค่ะคุณพี่”
“ไม่ดอกน้อง แม่ดอกแก้วเป็นคนสวย หากไม่ได้ออกเรือนกับพ่อเกื้อจริง และทางบ้านโน้นเขาอยากให้ลูกชายแต่งกับแม่สายบัวแทน ก็ถือเสียว่าหลานสาวของเราไม่ใช่คู่ของพ่อเกื้อ”
“แต่น้องเสียดายพ่อเกื้อ รูปก็งาม ฐานะก็ดี แถมยังเป็นคนดีเสียอีก แม่ดอกแก้วจะหาผู้ชายที่ดีพร้อมแบบพ่อเกื้อยากยิ่งนะเจ้าคะ”
แต่สองสามีภรรยาก็จำต้องบากหน้าไปผัดผ่อนการออกเรือนอีกครั้ง นั่นทำให้ศักดิ์กับอินรู้สึกเอือมระอาเหลือเกินแล้วในเวลานี้
“น้าเพียรกับน้าอินมาทำกระไรหรือขอรับคุณพ่อคุณแม่”
“มาผัดผ่อนเรื่องออกเรือนน่ะสิ เขาบอกว่าหลานสาวยังทำอาหารไม่เก่ง งานบ้านงานเรือนก็ยังมิชำนาญมากเพราะมัวแต่พาไปค้าขาย ลูกไปชิมรสมือการทำอาหารหล่อนแล้วไม่ชอบ เขาก็เลยยังไม่อยากให้หลานสาวของเขาออกเรือน กลัวจะขายขี้หน้าแลปรนนิบัติลูกไม่ดี” อุ่นมองหน้าลูกชาย ซึ่งเกื้อได้ฟังก็นิ่งอึ้งไป มิได้พูดกระไรออกมา
“แม่ชักระอาเหลือทน ทำยังกับลูกชายของแม่ไม่มีใครเอา ลูกชายของแม่มีผู้หญิงมากมายอยากได้เป็นสามี เล่นตัวเสียจริง แม่กับพ่อทาบทามสู่ขอมาตั้งหลายปีก็ผัดผ่อนมาเรื่อย ถ้าไม่อยากแต่งก็ยกเลิกกันไปเลย”
“พ่อก็เห็นด้วยกับแม่ของลูก”
“ลูกว่าอย่างไร แต่งกับแม่สายบัวแทนดีไหม ฐานะแม่สายบัวก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่ดอกแก้ว เอาอกเอาใจรึก็เก่ง แถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนเสียอีก” อุ่นเอ่ยถามลูกชายอย่างจริงจัง แต่ลึก ๆ แล้วก็ยังพึงใจดอกแก้วมิคลาย
ดอกแก้วก็มักตามอินนำของกำนัลมาฝากอยู่เสมอ แถมยังคุยกันถูกคออีก แต่ไม่รู้ทำไมถึงเล่นตัวนัก ไม่ยอมตกลงปลงใจออกเรือนกับลูกชายของนางเสียที ทั้ง ๆ ที่อายุก็ย่างเข้าสิบแปดปีล่วงไปแล้ว จะแต่งตอนแก่เป็นสาวทึนทึกขึ้นคานหรืออย่างไรกัน
“ขอกระผมหาคู่ครองเองจักได้ไหมขอรับคุณพ่อคุณแม่” เกื้อเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
“อย่าไปคว้าใครมาเป็นเมียสุ่มสี่สุ่มห้านะพ่อเกื้อ แม่คงอกแตกตาย ถ้าไม่ใช่แม่ดอกแก้วหรือไม่ก็แม่สายบัว แม่ไม่ดอกหนา แม่ขอแค่สองคนนี้ก็แล้วกัน”
“งั้นกระผมขอเวลาอีกสักนิด กระผมจะให้คำตอบว่าจะออกเรือนกับใคร”
“ก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่สองคนนี้ก็ขอให้เป็นผู้หญิงดีงามคนอื่น ลูกสาวบ้านไหนก็ได้ที่เป็นคนดี มีฐานะทัดเทียมกับเรา หรือด้อยกว่าไม่มากนัก หญิงสาวชาวบ้านไร้การศึกษา ไม่รู้จักทำมาหากิน หรือพวกนางโคมเขียว หญิงคนชั่วมั่วผู้ชายอย่าเอาเข้าบ้านเด็ดขาด เข้าใจไหม” อุ่นสั่งลูกชาย คราแรกยื่นคำขาดว่าขอเป็นดอกแก้วกับสายบัว แต่พอคิดได้ว่าลูกชายอายุสามสิบกว่าเข้าไปแล้ว ถ้ายังขืนจะให้แต่งกับสองคนที่กล่าวไปข้างต้นอาจจะไม่มีเมียในชาตินี้ เลยผ่อนปรนให้อีกนิดว่าเป็นหญิงใดก็ได้ที่ดีงาม มีฐานะพอเชิดหน้าชูตากันได้และเป็นคนขยัน นางคิดว่าหญิงที่มีครอบครัวมีอันจะกินและมีฐานะย่อมมีพื้นฐานมาจากความขยัน ดังนั้นการเลือกสะใภ้ที่มีฐานะจึงมีเหตุผลว่าคนที่รวยเหนือกว่าผู้อื่นคือผู้มีความมุมานะและขยันขันแข็งในการทำงานรวมถึงรู้จักอดออม ถึงได้รวยขึ้นมาได้ ออกเรือนกันไปก็มีแต่จะช่วยกันทำมาหากินให้จำเริญรุ่งเรือง ยิ่งมีหัวคิดในการค้าขายและบริหารเงินทองให้งอกเงยยิ่งดี ถ้าจักพูดกันไปแล้วดอกแก้วมีคุณสมบัติตามนี้ทุกข้อ อย่างไม่มีที่ติ ขยันและค้าขายเก่ง แถมยังมีบิดาเป็นถึงพระยา มารดาเป็นถึงคุณหญิง หากได้ดองกัน ครอบครัวของนางก็จักยิ่งดีขึ้นไปอีก ในขณะที่ครอบครัวของสายบัวเป็นแค่พ่อค้าเหมือนกัน
“ขอรับคุณแม่” เกื้อรับคำ เขาไม่ได้แสดงอาการว่าอยากออกเรือนกับใคร สองสามีภรรยาเลยเดาใจไม่ถูก
“เหตุใดคุณเกื้อไม่บอกคุณศักดิ์กับคุณอุ่นไปล่ะขอรับว่าโดนคุณหนูดอกแก้วแกล้งมาอีกแล้ว” เพิ่มเอ่ยถามเจ้านายหนุ่ม เพราะเกื้อไม่เคยปริปากบอกใครว่าโดนดอกแก้วกลั่นแกล้งเมื่อมีโอกาส ดอกแก้วก็แสบเหลือทน ออกเรือนกันไปเขายังนึกสภาพเจ้านายไม่ออก
“ฉันมีวิธีจัดการแม่ดอกแก้ว จะปราบพยศให้อยู่หมัดเชียว” แท้ที่จริงแล้วคนหน้านิ่งแอบรักเด็กสาวหน้าตาผุดผ่องอย่างดอกแก้วมานานหลายปีแล้ว แต่ที่ไม่เคยพูดหรือบอกให้ใครได้รับรู้อาจเพราะฝ่ายสาวเจ้ายังมิเคยแสดงออกว่ารักว่าชอบ
เขาอยากออกเรือนกับหล่อนแบบที่หล่อนเต็มใจไม่ใช่การบังคับกัน เหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนกันเช่นนี้
“คุณเกื้อจักทำอย่างไรหรือขอรับ” เพิ่มเอ่ยถาม พลางกระซิบให้บ่าวรับใช้คนสนิทรับรู้ นั่นทำให้เพิ่มยิ้มในหน้า
“บ่าวจะไปจัดการตามที่คุณเกื้อสั่งขอรับ” ด้วยว่าเพิ่มกับแพงนั้นแอบชอบพอกันอยู่ จึงคอยส่งข่าวคราวเรื่องเจ้านายทั้งสองให้ได้รู้ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด
เพิ่มรีบไปหาแพงในทันทีเพราะบ้านอยู่ติดกัน ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้แพงได้ฟัง