เธอรู้ว่าเขาชอบแต่ว่ามันจะไปต่อยังไงละ ในเมื่อสิ่งที่ต้องการคืออิสระ เธอไม่ต้องการอยู่ในกรอบอะไรทั้งนั้นเพราะตอนนี้แม่งก็อึดอัดจนกลัวว่าจะทนไม่ไหวในเร็วๆนี้แล้ว
“พี่โตแล้วนะ พี่น่าจะรู้ว่าไม่ควรอยู่กับในห้องนอนคนอื่นในสภาพแบบนี้” ก็ไม่ใส่เสื้อไง เห็นว่ามีซิกแพ็คหกลอนแล้วจะทำน้ำลายเธอหกได้เหรอ เหอะ! เธอไม่ได้พิศวาสเขาขนาดนั้นนะ
“รู้ไหมว่าพี่อายุยี่สิบห้าปีแล้ว?”
“แล้วไง?”
“พี่โสด พี่ไม่มีใคร พี่ไม่มีแฟนเพราะน้องมิลล์นะ”
“เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยวะ?”
“เกี่ยวดิ! ก็พี่เป็นแฟนน้องมิลล์แล้วจะนอกใจได้ไง”
“ฉันว่าพี่มั่วละ!”
“พี่ไม่ดียังไงห่ะ เรารู้จักกันมานานแล้วนะมีตรงไหนที่พี่ทำผิดพลาดไป หรือว่าเพราะอะไรถึงต้องมาตั้งกำแพงใส่กันขนาดนี้ พี่ก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะเว้ย” เขาต้องการเธอทั้งตัวและใจถึงได้ตามดูแลแบบนี้ไง น้องมิลล์ไม่ชอบเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันจนถึงตอนนี้เหมือนว่าจะไม่เปลี่ยนไปเลย
ถึงเขาเหี้ยมากแต่ไม่เคยทำเหี้ยใส่เธอ!
“แค่พี่ไมฉันก็มีปัญหามากพอแล้ว ฉันไม่อยากได้พี่มาเป็นตัวปัญหาเพิ่ม” เธอไม่ต้องการถูกใครควบคุมชีวิต เธอไม่ต้องการมีพันธะใดๆกับทุกคนเพราะกลัวคำว่าอิสระมันจะหายไปหมด
เธอเคยบอกเขาแล้วนะว่าไม่อยากมีแฟน
“ปัญหาอะไรวะ?” มันจะมีปัญหาอะไรนักหนากับอีแค่คบกับเขาเนี่ย รู้ไหมว่าเขาสามารถคลั่งรักจนยอมได้หมดทุกอย่าง เขาไม่ได้คิดจะควบคุมชีวิตเธอเหมือนตุ๊กตาอย่างที่คิดซะหน่อย
เขาแค่อยากเป็นเจ้าของ เขาอยากดูแลและแบ่งปันความรักความอบอุ่นให้หัวใจที่ด้านชาบ้าง เขาต้องการเธอมากกว่าที่คิดไว้ซะอีก แต่เธอแม่งปิดกั้นทุกอย่างฉิบหาย
“ก็อย่างที่เป็นนี่ไง” ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเธออึดอัดขนาดไหน
“พี่ไม่มีทางทำให้หนูไม่สบายใจหรอก” ถ้าอยากไปไหนเขาจะพาไปทุกที่เอง ต่อให้มันจะเป็นสถานที่ไม่เหมาะกับเด็กอย่างเธอก็ตาม เขาจะตามใจและทะนุถนอมให้มากกว่าที่คนอื่นทำ
“พี่ออกไปเถอะฉันจะนอนแล้ว” คุยกับเขาให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดได้หรอก ดังนั้นตัดปัญหาแบบนี้แหละ
“พรุ่งนี้พี่ไปส่งนะ” เรียนบ่ายเลิกค่ำเขาจำได้
“ฉันไปแท็กซี่ได้” เธอก็ไปแบบนี้เกือบทุกวันอยู่แล้วเพราะว่าที่บ้านไม่อนุญาตให้ขับรถ พี่ไมโลกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุและกลัวเธอหนีเที่ยวซึ่งต่อให้ไม่มีรถเธอก็ไปเที่ยวได้
“น่านะ”
“ไม่”
“นะครับน้องมิลล์”
“เอ๊ะ! พี่นี่มันยังไงเนี่ย?”
“ไปทำหน้าที่แฟนไง น๊า…ให้พี่ไปส่งแล้วเลิกเรียนจะพาไปเที่ยวตามใจหนูทุกอย่างเลย พี่สัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดี”
“ไปกับพี่มันอันตราย”
“ไปกับพี่ปลอดภัยกว่าเพื่อนหลายคนของหนูเยอะเลยนะ ตกลงตามนี้นะครับเด็กดี” มัดมือชกเลยง่ายกว่าเพราะถ้าเธอจะยอมคงเจรจากันทั้งคืนแน่นอน หรือเผลอๆนะเจรจากันขอทั้งคืนก็ไม่ได้ไปส่งหรอกเพราะเธอใจแข็งมาก เขายิ้มกว้างให้กับสีหน้าขัดใจแล้วจูบกลางหน้าผากไปหนึ่งทีด้วยความเอ็นดู
“ไอ้พี่ยักษ์!!” เธอรีบยกมือมาแตะหน้าผากพร้อมกับหน้าร้อนผาวไปหมด
“จูบพี่คืนก็ได้นะจะได้แฟร์ๆไง” เขาย่อตัวลงให้หน้าพอดีกับหน้าเธอ แล้วสบตากลมโตที่ทำท่าเหมือนจะทุบหัวกันให้ได้เลยมากกว่า รู้ไหมว่าอยากจูบแบบนี้มากแค่ไหน หลังจากที่รอมาสามเดือนกว่าจะได้อยู่กันสองต่อสองโคตรยาก
“ออกไปเลยไอ้คนบ้า!” เธอใช้มือดันหน้าเขาออกแล้วถอยออกมาห่างอีกก้าว พูดตามตรงเลยนะว่าไม่ไว้ใจเอามากๆ
“ฝันดีนะ”
“ขอให้พี่ยักษ์ฝันร้าย!”
“ถ้าหากว่าพี่ฝันร้ายจริงๆขึ้นมาละก็น้องมิล์เข้าไปปลอบใจพี่ที่ห้องด้วยนะประตูไม่ได้ล็อก”
พอเดินกลับมาห้องนอนตัวเองคิดว่าเขาจะหลับลงไหมห่ะ เหอะ! แม่งนอนไม่หลับเลย สาเหตุมันก็เพราะน้องมิลล์คนเดียวเลย สุดท้ายต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่องเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมของเธอเพื่อย้อนกลับไปเพื่อหาเหตุผลจริงๆ หรือคนที่เธออาจจะชอบจนปิดใจ แต่ผลที่ได้คือไม่มีอะไรเลย
ชีวิตเธอมีแค่เรียน เรียน แล้วก็เรียน
“อะไรวะ?” คือมีแค่รูปอยู่โรงเรียน รูปตอนเรียนพิเศษ รูปรางวัลต่างๆที่ได้มากับรูปส่วนตัวนิดหน่อยที่แม่งไม่ช่วยอะไรเลย แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าชีวิตเธอโคตรขาดสีสัน
“ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก พี่บอกแม่ไปแล้วว่าหนูเป็นเมีย รอหนูเรียนจบพี่ก็จะขอแต่งงาน ในอนาคตเราจะมีลูกกันสักสองคนดีไหมนะ” บอกแม่ไปแล้วอีกหน่อยคงจะเผลอหลุดปากพูดกับเพื่อนแน่นอน คนอะไรวะทำเขาเป็นบ้าขนาดนี้
เขาเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดีแต่ก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอนะ เธอไม่เคยแสดงอะไรออกมาแต่เขาหวังไว้เยอะมากจนมันเฟลไปหมด แต่เชื่อไหมว่าแค่เห็นหน้าก็มีแรงสู้ต่อแล้ว
ตอนนี้้เขารู้จุดอ่อนของน้องมิลล์จนได้!
มิลล์ตื่นมาในตอนเช้าตั้งใจว่าจะไปออกกำลังกาย แต่พอเปิดประตูออกมากลับเจอพี่ยักษ์กำลังทำข้าวต้มอยู่ แล้วกลิ่นกระเทียมเจียวมันเรียกเสียงท้องร้องได้ดีมาก
“มอร์นิ่งครับ” ชอบหน้าเธอตอนอึนๆแบบนี้จังวะ ดูน่ารักไร้เดียงสาอย่างบอกไม่ถูกเลย หน้าสดเธอมีความมันนิดๆ ผิวเรียบเนียน แก้มอมชมพู ผมยุ่งเล็กน้อยแต่โคตรน่ารักฉิบหาย
“อื้ม” เธอแค่พยักหน้าจะเดินไปอาบน้ำ
“พี่รอกินข้าวเช้านะ” นี่ตื่นรึยังวะ ดูท่าทางการเดินเหมือนว่ายังไม่ตื่นเลย เดี๋ยวซื้อลาเต้ปั่นให้สักแก้วน่าจะดีขึ้น
“อื้ม หอมจังรอแป๊ปนะ” เธอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มบางๆให้ก่อนจะยีผมตัวเองแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อยไม่อย่างนั้นอาจจะหลับในห้องน้ำก็ได้
“น่ารักแต่เช้าเลย” น่ารักจริงๆนะ ถ้าใครไม่เชื่อเขาจะตบให้หัวทิ่มจนมันต้องคิดใหม่ น้องมิลล์คือที่สุดของความน่ารัก
น้องมิลล์เหมือนคิดอะไรไม่ออกถึงได้แสดงตัวตนที่น่ารักออกมาถึงจะน้อยมากแต่ก็รู้แหละว่าจริงๆน่ะเธอเป็นคนยังไง เขาว่าเธอแค่ตั้งกำแพงเพราะไม่อยากให้ใครเข้าไปในเซฟโซนมั้ง
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีน้องมิลล์อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วมานั่งกินข้าวต้มที่เขาลงทุนทำให้เองกับมือ เขาแอบสังเกตเธอทุกเช้าเลยว่าจะไปกินหน้าปากซอยตลอด พอรู้ก็แอบมาหัดทำเองสักพักกว่าจะมั่นใจขนาดนี้
“อร่อยรึเปล่า?” นี่มันเป็นการทำอาหารครั้งแรกจริงๆ แต่ไม่นับการต้มมาม่านะเพราะอันนั้นทำบ่อย
“ก็โอเคอะ ฉันพึ่งรู้นะว่าพี่ทำอาหารเป็นด้วย” ก็ไม่ได้แย่อะไร แถมเขายังให้หมูเยอะมากเหมือนรู้งั้นแหละว่าเธอชอบ
“กินเยอะๆนะ รู้ไหมว่าช่วงนี้ผอมลงมาก”
“เดี๋ยวคงจะผอมกว่านี้อีก”
“ทำไม?”
“ก็เรียนหนักไงไหนพี่ไมจะให้ไปติวเพิ่มอีก นี่คงกะจะให้ฉันเอาท็อปมั้ง ฉันกำลังวนเข้าลูปเดิมเหมือนตอนเรียนมัธยมเลย”
“พี่ถามจริงๆนะว่าเหนื่อยไหม?” พอเจอคำถามนี้ถึงกลับถอนหายใจแล้วมองหน้าเขาด้วนแววตาไม่สดใส เขาอยากได้ยินเธอระบายออกมาแต่คงยากถ้าเรายังมีกำแพงต่อกันอยู่
“พี่คิดว่าคนที่เรียนตลอดเวลาเหนื่อยไหมละ?” เหนื่อยสิ! เธอเหนื่อยมากแต่พูดไปก็ไม่มีใครรับฟังกันหรอก ทุกคนไม่คิดว่าเธอไม่ไหวไง ทุกคนคาดหวังในตัวเธอมากจนน่ากลัวว่าจะทำไม่ได้อย่างที่ใครหวังไว้
“อยู่กับพี่ไม่ต้องคิดอะไรมากให้เหนื่อยหรอก”
“เหรอ?”
“พี่ไม่สนว่าจะได้เกรดเท่าไร ไม่สนว่าจะเหลวไหลขนาดไหน สิ่งที่พี่สนใจคือความสุขของหนูนะมิลล์ พี่แคร์หนูมากถึงจะไม่เปิดใจให้แต่รู้ไว้นะว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นยังมีพี่เสมอ” เขาเป็นคนไม่ดีกับคนทุกก็จริง แต่ยกเว้นเธอคนเดียวที่เขาพร้อมจะเป็นคนดียิ่งกว่าเทพบุตรซะอีก ถ้าเธออยากได้อะไรเขาจะหามาให้โดยไม่เกี่ยงงอนแม้แต่นิดเดียว หรือต่อให้เขาไม่มีเวลาเขาก็จะพยายามหาเวลาให้จนได้
เขาจะทำให้เธอเป็นของเขาจนได้ไม่ว่าจะนานขนาดไหน
“พี่พูดอะไรออกมาน่ะรู้ตัวบ้างไหม?” เขาทำให้เธอรู้สึกว่าใจมันเต้นแรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว