หลังจากประชุมเสร็จยักษ์ก็ต้องมาเคลียร์งานอีกสารพัดอย่างให้จบด้วยความเมื่อยล้า แต่ก็น่าแปลกที่ภาพน้องมิลล์ตอนกินขนมมันวนเวียนในหัวไม่หยุดเลย เขาไม่มีสมาธิเพราะเธอมารบกวนนะจะรู้ตัวบ้างไหม
คืนนี้เขาไม่แน่ใจว่าจะไปเฝ้าดีไหมหรือว่าไปลากตัวกลับมาเลย ที่บาร์แถวมหาวิทยาลัยผู้ชายมันเยอะมาก เกิดเธอเผลอไปยิ้มหวานให้ใครจนถูกใจเขาก็มีคู่แข่งเพิ่มอีกสิ
น้องมิลล์เป็นแฟนเขาอย่าลืมสิ ดังนั้นถ้าบังเอิญว่ามือลั่นไปต่อยปากใครมันจะซวยเอาได้ แล้วถ้าเผลอคุมตัวเองไม่อยู่จัดทั้งมือทั้งเท้านี่ละก็งานเข้าแน่นอน
อยากเป็นคนดีให้แฟนนะแต่บางทีมันยากวะ
“ฮัลโหลไอ้ไมกูมีเรื่องจะถาม?”
(ว่า?)
“คืนนี้น้องมิลล์ขอมึงไปเที่ยวรึยัง?”
(เที่ยวเหี้ยไรวะกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย)
“เหรอวะ?”
(มึงมีอะไรก็พูดมาไอ้ส้นตีน!)
“คือกูรู้มาว่าคืนนี้น้องมิลล์จะไปเที่ยววะ แต่ว่าหน้ามอผู้ชายแม่งโคตรเยอะเลยนะเว้ย กูกลัวว่า…”
(ดื้อจังวะ! เดี๋ยวกูจัดการน้องกูเองขอบใจนะเว้ยที่บอก)
“ไม่เป็นไรน้องสาวมึงกูก็รักเหมือนกัน” เขาวางสายไปแล้วยิ้มออกมาเพราะอย่างน้อยคืนนี้จะไม่ต้องทำอะไรให้ตัวเองดูเลวร้ายเลย เขาใช้ไอ้ไมโลให้มันไปตามน้องมิลล์กลับมาบ้านแล้วหลังจากนั้นเขาจะสั่งสอนเธอเองดีกว่า
ไอ้ไมโลมันคิดว่าเขารักน้องมิลล์แบบน้องสาวทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่และไม่มีวันเป็นแบบนั้นได้ด้วย เขารักน้องมิลล์แบบที่อีกฝ่ายไม่ต้องทำเหี้ยอะไรสักอย่าง แล้วยังหลบหน้ากันตลอดเวลาอีก คอยดูเถอะคืนนี้เราจะได้เคลียร์กันยาว
“ยักษ์แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรห่ะแม่?”
“คืนนี้ว่างไหมลูกแม่มีใครอยากจะแนะนำให้รู้จัก”
“ผมมีเมียแล้วนะแม่”
“ห่ะ! เมียเหรอ?”
“ก็ใช่ไง ผมขอตัวนะวันนี้จะไปหาเมีย”
“แม่ไม่เอาพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าหรอกนะ!”
“แม่ไม่เอาแต่ผมจะเอา โอเค?”
“ตายักษ์!!”
“ไม่ต้องช่วยหาและไม่ต้องคิดมากนะ แม่ได้ลูกสะใภ้แน่นอน” เขาหยิบสูทมาใส่เดินไปตบบ่าแม่ให้กำลังใจ แล้วออกจากห้องทำงานไปเพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว
เมื่อวานน้องมิลล์แวะไปฟิสเนตออกกำลังกายไปชั่วโมงกว่า แต่ความจริงคงจะคิดถึงเขาแน่เลยพอไม่เจอกันเลยงอนแบบนี้ไง เมื่อวานได้ข่าวว่าอารมณ์ดีมากด้วยนะ สงสัยคงจะฟิตหุ่นเพื่อเอาใจเขาใช่ไหมละ
ความจริงน้องมิลล์คงจะชอบเขาแต่เก็บอาการเฉยๆ
เฮ้อ…คิดถึงจังวะไอ้เด็กปากแข็ง!
หรือว่าการที่น้องมิลล์หลบหน้ากันอาจจะเพราะแอบรักเขาอยู่ก็ได้เลยไม่กล้าเจอเพราะจะเขินมาก นี่เขาต้องคิดใหม่ได้แล้วแหละว่าการหลบหน้าของเธอตลอดสามเดือนคืออาการเขินอย่างหนึ่งที่น้องมิลล์แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน
ถ้าเราใจตรงกันทำไมไม่คบกันเปิดเผยไปเลยวะ
“สักวันหนูจะรู้ว่าพี่รักขนาดไหน” มันเป็นความรักที่แปลกมากเลยเพราะว่าไม่เคยลดลงสักนิดเดียว ในสายตาเขาน้องมิลล์ทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมดทุกอย่าง แล้วภาพเธอก็วนเวียนในหัวตลอดเวลาแม้แต่ในฝันยังตามไปหลอกหลอนไม่หยุด
เขาอยากมีเมียจริงๆแล้ว
ทางด้านไมโลขับรถไปตามที่เพื่อนโทรมาบอก ตอนนี้เวลาสามทุ่มนิดๆเพื่อลากตัวน้องสาวหัวดื้อติดเที่ยวให้กลับบ้านไปอบรมใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เข้าใจว่าหน้าที่ตัวเองมีแค่เรียนเท่านั้น
กับคนอื่นเขาอาจจะทำตัวสบายๆแต่กับน้องสาวมันไม่ใช่เว้ย มิลล์เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆไร้เดียงสาจะไปรู้ทันเล่ห์กลผู้ชายสมัยนี้เหรอ เขาเป็นห่วงถึงคอยกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆให้รัดกุมแต่ดูทำตัวสิน่าตบให้คว้ำไหมละ
“หมดแก้วเว้ย!”
“เชี้ย! แม่งกูเหมือนเห็นพี่ชายวะ”
“มึงเมาแล้วกูไปส่ง”
“ไม่ต้อง! พี่กูดุถ้ารู้ว่าผู้ชายมาส่งเอาตายแน่!”
“ดุแค่ไหนวะ?”
“ยังกับหมาบ้าเลยเว้ย! เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่กลับเองได้”
เขายืนกอดอกมองน้องสาวที่ท่าทางจะเมาแล้วคุยกับเพื่อนผู้ชายท่าทีเลวๆคนหนึ่ง แล้วสายตามันน่ะแทะโลมน้องกูดีจังไอ้ควายเผือก! เขาเดินตรงไปหยุดหน้าโต๊ะมองน้องสาวที่อ้าปากค้างก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆมาให้
“ไง?”
“ก็…นิดหน่อยเอง” เธอรู้สึกเหมือนจะหายเมาเลย
“ใครวะมึง?” มินกระซิบถามเบาๆ
“พี่ชายกูเอง” เธอตอบเสียงสั่นแล้ววางแก้วเหล้าลงด้วยความเสียดาย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกไป ส่วนค่าเครื่องดื่มพี่ไมโลวางเงินสดไว้บนโต๊ะแล้ว
“อย่าคิดยุ่งกับน้องสาวกูเด็ดขาด!” เขาพูดเสียงไม่ดังมาก แต่รับรองว่าไอ้คนที่มันจ้องน้องสาวเขาอยู่ได้ยินแน่นอนถึงได้ทำหน้าถอดสีแบบนี้
ใครจะจีบมิลล์เขาต้องสแกนให้ก่อน!
เขาเดินตามน้องสาวออกไปอย่างรวดเร็วจะได้รีบพากลับ แล้วจะไปหาเมียต่อ คืนนี้คงอาจจะไม่ได้เคลียร์กันแต่พรุ่งนี้ต้องมีคุยแน่นอน ถ้ายังเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ิอนาคตคงแย่แน่นอน
น้องสาวคนเดียวใครไม่เป็นห่วงบ้างวะ
“ต่อไปห้ามมาอีกเข้าใจไหม?” น้องสาวแม่งเชิดแถมเงียบใส่อีก เห้ย! นี่เขาเป็นพี่ชายนะเว้ยเชื่อฟังบ้างสิ
“มันอันตรายแล้วใครสอนให้กินเหล้าห่ะ พี่บอกให้ตั้งใจเรียนแล้วรีบกลับบ้านไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ!”
“อย่าเงียบแบบนี้สิมิลล์! นี่พี่เป็นห่วงนะเว้ยเลยเตือน แล้วเพื่อนก็หัดเลือกคบมั้งสิ”
“เอาตารางเรียนมาให้พี่ดูเลยนะ ถ้ามันว่างมากก็หาเรียนเสริมหรือไม่ก็ไปติวซะ ราคาจะแพงขนาดไหนพี่จ่ายให้เอง”
เธอนั่งมองข้างทางด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เลี้ยงในกรงขังเลย นี่เหรออิสระที่ต้องการ เหอะ…มันก็แค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั่นแหละ จริงอยู่ที่เธออาจจะไม่โตมากเท่าพี่ชายแต่เธอก็โตพอจะรู้ว่าอะไรผิดชอบชั่วดีนะ แล้วสิ่งที่ทำก็ไม่ได้แย่เกินไปเลย ทำไมทุกคนต้องขีดเส้นทางชีวิตให้โดยที่ไม่ถามเธอสักคำเลยละว่าต้องการอะไรในชีวิตแบบไหน
ในขณะที่ยักษ์แอบเข้ามาในห้องน้องมิลล์เงียบๆรอการกลับมาก็แฟนคนเก่ง ถ้าเที่ยวแล้วคงจะอารมณ์ดีขึ้นมั้ง เขาฟังเสียงรถที่จอดไม่นานก็สตาร์ทแล้วขับออกไปทันที ดูจากเสียงพูดคุยไอ้ไมโลมันน่าจะอารมณ์เสียมากพอสมควร
“เฮ้อ…” เธอเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วถอนหายใจพร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอนทั้งที่ยังไม่ได้เปิดไฟด้วยซ้ำ
“ทำไมวะ?” ทำไมชีวิตเธอมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยห่ะ เธออายุกำลังจะสิบเก้าปีควรมีอิสระในการคบเพื่อนบ้าง เธออยากไปเที่ยวบ้างเหมือนกันนะ ทำไมทุกคนต้องเป็นห่วงเหมือนว่าเธอคือเด็กสองขวบที่ไม่รู้อะไรเลยสักอย่างด้วย
การที่เธอเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสามจุดเก้าศูนย์ แล้วสอบติดเข้ามหาวิทยาลัยและคณะที่ทุกคนต้องการมันไม่ทำให้พอใจกันเหรอถึงต้องมาชี้นำทุกอย่างในชีวิตแบบนี้
พี่ไมโลเองก็น่าจะเข้าใจนะว่าบางครั้งเราก็อยากเที่ยวบ้างเพื่อเอาเรื่องเครียดออกไปจากหัว ทุกคนคิดแค่ว่าจะให้เธอเรียนอย่างเดียวแล้วคำนึงแต่เกรดที่ออกมา ทุกคนลืมไปแล้วว่าเธอต้องการความสุข ความสนุกและชีวิตวัยรุ่นทั่วไปบ้าง
“เป็นอะไรวะ?” เขากระซิบเบาๆมองว่าที่เมียนอนนิ่งไม่ไหวติง แต่อย่างน้อยก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดเพลงที่เศร้า
“ช่างมันเถอะ!” เธอแค่ต้องทำตัวให้ชินแล้วปล่อยให้พ่อแม่และพี่ชายจัดแจงชีวิตให้เหมือนตุ๊กตาตัวหนึ่งแล้วกัน ไหนๆความสุขเธอมันก็ไม่ได้สำคัญอยู่แล้ว
เขามองเงียบๆจนเห็นว่าที่เมียลุกไปอาบน้ำ เขาถึงได้ขยับตัวไปนอนบนเตียงรอปลอบใจเผื่อว่าเธอทะเลาะกับพี่ชายสันดานเสีย รู้ไหมว่าการที่เป็นคนนอกแบบนี้มันทำให้เห็นอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับน้องมิลล์และไอ้ไมโลนะ
เธอไม่ได้มีความสุขอย่างที่ทุกคนเห็นหรอก แล้วทุกรอยยิ้มมันปลอม เขาได้ยินเธอถอนหายใจบ่อยๆเหมือนเหนื่อยกับทุกอย่างและเบื่อทุกสิ่งยังไงยังงั้นแหละ เขาเห็นนะว่าเธออยากออกไปเที่ยวแต่ทำได้แค่นิ่งแล้วปฏิเสธเพื่อนที่ชวนแค่นั้นเอง
M_Milk : You think I’m just a doll.
เธอลงรูปตัวเองเป็นภาพขาวดำภาพกับข้อความที่ดูแปลกๆไปนะ เขานั่งมองภาพนั้นซ้ำๆก่อนจะลองซูมเข้าดูรอยเล็กๆที่แขนเธอ แต่เพื่อความแน่ใจต้องรอดูของจริงมากกว่า
“พี่ยักษ์!!” นี่ก็ตัวปัญหาอีกคนในชีวิตเธอ
“ทำไมตาแดง?” ตาแดงไม่พอจมูกยังแดงอีกด้วยแถมยังเสียงแหบขนาดนี้ ถ้าหากไม่ใช่คนโง่คงดูออกว่าร้องไห้มา
“ออกไปฉันอยากอยู่คนเดียว ขอร้องละ” เธอรู้ว่าเขาคิดอะไร แต่ว่านั่นจะขโมยอิสระอันน้อยนิดของเธอแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอไม่มีวันตกลงคบกับเขาหรอก
“กินอะไรมารึยัง? แล้วนี่เป็นอะไรเล่าพี่ฟังได้นะ” ไม่ไว้ใจกันสินะถึงได้ถอยห่างแบบนี้ แต่เธอจะรู้บ้างไหมว่าเขาตั้งสถานะให้แล้วพร้อมกับบอกแม่ด้วย เราน่ะเคยได้กันในฝันเกือบทุกคืนนะ
“ฉันบอกให้ออกไปไง!” เธอพูดเสียงดังมากขึ้น
“ที่โพสต์ลงหมายความไง?” เขาชูโทรศัพท์ถามไปตรงๆ
“อย่ามายุ่ง! มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพี่ ออกไปจากห้องได้แล้ว ฉันจะอ่านหนังสือ!” เธอถอยออกมาเพราะว่าเขาลุกจากเตียงเดินมาหากันแถมยังจ้องมองตาแทบไม่กะพริบ
“เป็นอะไรก็บอกพี่สิ”
“พี่…” เขาดึงเธอเข้าไปกอดเฉยเลยไอ้บ้านี่มือไวตลอด
“อยู่กับพี่ปลอดภัยนะ ถ้าไม่สบายใจจะพูดก็ไม่เป็นไร” เดี๋ยวเขาหาทางรู้เองจนได้เพราะเรื่องของเธอมันใหญ่เสมอ
“บอกไปพี่ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก!” ถ้าเขาเข้าใจว่าเธอไม่ต้องการความรักคงจะเลิกยุ่งไปนานแล้ว แต่นี่ยังตามติดประหนึ่งว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรจากชาติปางไหนมาเอาคืนกัน
“แค่เรื่องกินเหล้ามันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?” ก็แค่กินเหล้าเอง เธอไม่ได้มั่วยามั่วเซ็กซ์เหมือนบางคน น้องมิลล์เป็นคนฉลาดถึงจะดื้อมากแถมยังปิดกั้นตัวเองเก่งอีกด้วย
“พี่จะไปเข้าใจอะไรละ พี่มันก็แค่คนอื่น”
“ให้พี่เป็นผัวไหมถึงเข้าใจได้?”
“ไอ้บ้า!”
“บ้ารักน่ะสิ! ก็รู้นี่ว่าพี่รู้สึกยังไงไม่ใช่เหรอ?”