ตอนที่ 1
หญิงสาววัยสิบแปดปีถือกระเป๋าลงจากรถแท็กซี่ยืนมองบ้านขนาดกลางก่อนจะถอนหายใจแล้วไขกุญแจเข้าไปเพื่อพักผ่อน เธอเดินทางมาจากเชียงรายตามคำสั่งแม่ที่ให้มาเรียนและอยู่กับพี่ชายที่นี่จนกว่าจะหาคอนโดที่ถูกใจได้
“นี่น้องเข้าบ้านผิดรึเปล่าวะ?”
“คุณเป็นใครคะ!?”
“หนูละเป็นใครห่ะหรือว่าเป็นเด็กใหม่ของเพื่อนพี่?” สายตาคมจ้องมองสาวน้อยใบหน้าคุ้นเคย แล้วเดินเข้าไปหาช้าๆ ไม่อยากทำให้ต้องตกใจกลัวมาก แม้ว่าในตอนนี้เขาจะอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยน่ามองก็ตามเถอะ
“เอ่อ…ถะ…ถอยห่างๆ ก่อนค่ะ!” เข้ามาใกล้กว่านี้อีกนิดเดียวจะติดผนังแล้วนะ
“ถ้าไม่ใช่เด็กของไอ้ไมโลงั้นมาเป็นเด็กพี่ดีไหม?” น่ารักมากเลยแถมยังดูไร้เดียงด้วย แต่แววตาคู่นี้กลับสู้สายตาไม่หลบสักนิด ดูแล้วถ้าจะดื้อเงียบพยศนิดๆ ให้น่าปราบจังวะ
“เป็นน้องสาวพี่ไมโลค่ะ ถอย!” เธอผลักอกเขาออกแล้วเบี่ยงตัวหนี ก่อนจะคว้าโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่ชายที่ไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ไหน แล้วผู้ชายบ้าคนนี้มันเป็นใครกัน
“ฮัลโหลพี่ไมอยู่ไหนเนี่ยน้องมาถึงบ้านพี่แล้วนะ”
(พี่อยู่เมีย เอ่อ…เพื่อนพี่อยู่ไหมขอพี่คุยกับมันหน่อย)
“อยู่ แป๊บนะ” เธอหันไปยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนพี่ชายต่อ
“ไอ้เหี้ยมึงไปมุดหัวอยู่ไหนวะ?”
(กูฝากดูน้องกูแป๊ปนะแล้วพาไปห้องนอนด้วย ที่กูบอกมึงเมื่อวานอะจำได้อยู่ใช่ไหม?)
“เออไอ้สัตว์!” เขาวางสายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เธอ แต่ในจังหวะที่น้องสาวเพื่อนรับไปมือมันไวเลยจับมือนุ่นนี้ได้ทันแล้วไม่คิดจะปล่อยง่ายๆ ด้วย
“ชื่ออะไรห่ะเรา?” ตอนแรกว่าคุ้นๆ พอบอกว่าเป็นน้องสาวเพื่อนเท่านั้นแหละภาพเด็กน้อยผมเปียใส่แว่นหนาเตอะลอยขึ้นมาในสมองเลย นั่นมันก็หลายปีมาแล้วนะ เขาจำได้ว่าเธอเคยมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนแต่ตอนนั้นเขาไปเมืองนอกเลยไม่ได้เจอ
“ชื่อมิลล์ค่ะ แล้วปล่อยมือฉันได้รึยัง?” จับอยู่นั่นแหละนี่มือคนนะไม่ใช่ของสาธารณะที่จะจับเล่นได้
“พี่ชื่อยักษ์นะครับ มาพี่จะพาไปดูห้องนอน” เขาก็ยังไม่ปล่อยมือแต่จับแน่นว่าเดิมมืออีกข้างก็ลากกระเป๋าใบใหญ่เป็นการเอาใจ
“ปรกติผู้หญิงเวลาไปอยู่ที่ไหนจะขนของมาเยอะไม่ใช่เหรอ ทำไมหนูถึงมีแค่ใบเดียวละ?” ปรกติของสาวๆ มักจะทำตัวเป็นพวกบ้าหอบฟางจนบางครั้งน่ารำคาญ แต่กับเธอมีแค่กระเป๋าใบเดียวจบแค่นั้นเอง
“ขนมาทำอะไรเยอะแยะเดี๋ยวก็ได้ซื้อใหม่อยู่ดี” มาอยู่สี่ปีนะไม่ใช่อาทิตย์เดียว ดังนั้นเสื้อผ้ามันต้องมีการเพิ่มขึ้นแน่นอนแหละเพราะเธอเป็นสายช็อปอยู่แล้ว
“อยู่ห้องนี้นะ ห้องพี่อยู่ข้างๆ ส่วนห้องไอ้ไมโลอยู่อีกฝั่ง เราต้องใช้ห้องน้ำด้วยกัน” บ้านสามห้องนอนสองห้องน้ำเป็นอะไรที่ธรรมดามากสำหรับเขา แต่กลับเพื่อนที่เก็บเงินซื้อมาเองในตอนเรียนจบมันภูมิใจมาก
“เดี๋ยวนะ! พี่ยักษ์อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ใช่ ช่วงนี้พี่จำเป็นน่ะ”
“งั้นก็ต่างคนต่างอยู่นะอย่ามาวุ่นวายฉันไม่ชอบ” นี่มันคือกติกาง่ายๆ ที่ใครๆ ก็รู้แต่คนที่จับมือเธอตอนนี้จะรู้ไหมห่ะ
เธอพยายามแกะมือเขาออกเท่าไรก็ไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำยังบีบมือเธอหนักกว่าเดิมอีก
“มีแฟนรึยัง?” ชอบมากเลยอยากได้วะ
“มันก็เรื่องของฉันปล่อย!!” เธอสะบัดมือแรงมากขึ้นจนหลุดออกมาได้ แต่ข้อมือก็แดงเถือกไปหมดจนเห็นได้ชัด
“มาส่งแค่นี้ก็ออกไปฉันจะจัดของ” เธอดึงกระเป๋าออกมาจากมือเขาจนได้
“นี่เที่ยงแล้วกินอะไรไหม ปากซอยมีร้านก๋วยเตี๋ยวนะ” เป็นห่วงเห็นว่าตัวเล็กมากแถมยังผอมอีก แต่ดูเธอจะไม่สนใจเท่าไร
“พี่ถามก็ตอบว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารตามสั่งห่ะ?” ถามเพิ่มเผื่อไม่ชอบก๋วยเตี๋ยว
“ฉันไม่ว่างจัดของอยู่ ถ้าหิวมากก็ไปกินสิท้องไม่ได้ติดกันซะหน่อย!” อะไรของเขาเนี่ยห่ะ เธอกำลังจัดของอยู่เขาก็ยังมากวนกันอีก เพื่อนพี่ชายเป็นบ้าอะไรเนี่ย
“เดี๋ยวพี่ไปแต่งตัวแล้วเราออกไปหาอะไรกินด้วยกันนะ”
“เอ๊ะ!”
“ห้านาทีพี่ก็แต่งตัวเสร็จแล้ว”
“ไม่ไป!!”
ข้าวกระเพราหมูกรอบเผ็ดน้อยกับก๋วยเตี๋ยวไก่มะระพิเศษน่องจัดวางได้อย่างน่ากิน เธอไม่ได้อยากจะมาแต่ถูกลากตัวออกมาด้วยข้ออ้างบ้าๆ อย่างเหงาไม่มีเพื่อนกินด้วย
อายุขนาดนี้แล้วน่าจะมีแฟนคงไม่เหงาหรอกมั้ง
“อร่อยไหม?” เงียบครับ
“ร้านนี้พี่ชอบนะบรรยากาศดี” ก็ยังเงียบอีก
“พี่โสดนะสนใจไหม?” ตอบสิว่าสนใจพี่ พี่จะได้เตรียมจับหนูมาเป็นเมียให้เร็วที่สุดเลย
“จะไม่คุยกับพี่หน่อยเหรอห่ะ พี่แค่หิวเลยอยากได้เพื่อนมานั่งกินด้วยเฉยๆ” เธอก็ยังเงียบเหมือนเดิม แต่ก็เหล่ตามองกันก่อนจะถอนหายใจใส่อีกครั้ง
เห้ย! นี่เสน่ห์เขาไม่สามารถดึงดูดเด็กได้เลยเหรอวะ
เขาหล่อนะอันนี้ไม่ได้หลงตัวเอง แต่ผู้หญิงหลายคนบอกมา ส่วนลีลาก็ไม่ต้องห่วงเพราะดีมากๆ ให้เอายันเช้ายังไหวเลย แต่ยัยน้องมิลล์ทำไมถึงทำหน้ารำคาญกันวะ เขากินก๋วยเตี๋ยวต่อไปเงียบๆ แล้วแอบมองเธอตลอดเวลา
จะว่าไปก็น่ารักดีวะขนาดหน้าบึ้งยังอยากจูบเลย
“เท่าไร?” เธออิ่มแล้วและไม่อยากอยู่กับเขานานด้วย
“พี่เลี้ยงครับ” เลี้ยงทั้งชีวิตก็ไหวนะตัวเล็กๆ น่ารักแบบนี้
“เท่าไรคะ?” เธอมีเงินพอไม่จำเป็นต้องเลี้ยง
“ก็บอกว่าจะเลี้ยงทำไมต้องดื้อด้วยวะ?” พูดด้วยเพราะๆ ก็ไม่ชอบงี้เหรอ นี่น้องคงไม่รู้ว้าพี่เนี่ยดุมากนะ แต่มีข้อแม้ว่าน้องห้ามยิ้มให้พอดีคนมันใจอ่อนไหวง่ายมาก
“แล้วแต่ค่ะ” เธอไม่อยากจะอยู่กับผู้ชายแปลกหน้านานเกินไปถึงจะเป็นเพื่อนพี่ชายก็เถอะยังไงก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี
หลังจากที่จ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อยก็กลับมาบ้านและพี่ชายตัวดียังไม่กลับมาอีก เธอเข้าไปห้องนอนเพื่อจัดการข้าวของทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนจะอาบน้ำแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงตาก็แทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว
ความจริงคือเมื่อคืนก่อนมาเธอแอบหนีเที่ยวจนไม่ได้นอน พอขึ้นเครื่องมาที่นี่ก็ไม่ได้นอนอีกตอนนี้หมดแรง
ในขณะที่ยักษ์ออกไปทำธุระให้ที่บ้านด้วยความจำใจ เขามีปัญหากับครอบครัวถึงได้มาอยู่กับเพื่อนสักพักเป็นการหลบเลี่ยงและไม่อยากจะคุยกับใครด้วย
“คุณยักษ์มาแล้วป้าคิดถึงจังเลย”
“ป้าอรพ่อไม่มาแล้วใช่ไหม?”
“เอ่อ…”
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี!”
“พ่อ!”
“ก็เออนะสิ! เข้าบ้านได้แล้ว”
เขาเดินเข้าบ้านไปแบบไม่มองหน้าพ่อแม้แต่นิดเดียว เขาจำเป็นต้องมาเพราะเป็นวันเกิดแม่ แล้วต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นว่าครอบครัวอบอุ่นทั้งที่ความจริงมันพังลงตั้งนานแล้ว
แม่ใช้ชีวิตไปกับปาร์ตี้ดื่มเหล้าเบียร์ตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนพ่อก็มั่วผู้หญิงไปเรื่อยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดที่ใครสักคน เขาไม่เคยเรียกร้องความอบอุ่นจากใครเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่มี
ลูกที่เกิดจากความผิดพลาดใครจะรักลงละ
“ยักษ์มาแล้วเหรอ แม่รอตั้งนานแหนะ แล้วนี่ไปทำอะไรมาห่ะทำไมถึงปากแตก?”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่”
“ถ้าตาเห็นจะว่าได้ว่าดูแลแกไม่ดี”
“งั้นผมจะบอกตาเองว่าพ่อแม่ดูแลผมดีมากครับ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องห่วงหรอก” เห็นไหมละว่าไม่มีใครสนใจเขามากหรอก การที่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพราะพ่อแม่ทั้งนั้นแหละ
งานวันเกิดเต็มไปด้วยไฮโซมากมาย เพื่อนของแม่กับพ่อที่พากับใส่หน้ากากสร้างภาพเข้าหากันตลอดเวลา พริตตี้สวยๆ บางคนที่มาเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากสร้างภาพว่าเป็นลูกชายที่ดีเสร็จก็มานั่งดื่มเหล้าต่อเลย
“ทำไมถึงคิดถึงได้วะพึ่งเจอกันแท้ๆ” พอสมองมันว่างภาพน้องมิลล์ก็ลอยเข้ามาในหัวตลอดเลย เขาควรจะเอายังไงดีนะเพราะว่าน้องสาวเพื่อนเป็นอะไรต้องห้าม แต่คำว่าอยากได้มันก็กึกก้องในใจไม่หยุดนับตั้งแต่เจอหน้า
เขาอยากได้ทั้งตัวทั้งใจไว้คนเดียว