โสนพาน้ำอิงขึ้นมาล้างแผลบนห้อง หญิงสาวได้แต่ขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจ ไม่คิดว่าการทำงานในวันแรกจะถูกอคินเล่นงานจนสาหัสขนาดนี้ กว่าจะเคี่ยวเข็ญให้เขายอมเรียนต่อเธอคงพิการซ้ำซ้อนหรือไม่ก็ต้องนอนติดเตียงแน่ ๆ
“หนูไม่แปลกใจแล้วล่ะค่ะว่าทำไม คุณอภิวัฒน์ถึงเปลี่ยนพี่เลี้ยงเป็นว่าเล่นขนาดนี้”
“นั่นแหละค่ะ ป้าบอกแล้ว ว่าอยู่ไปคุณก็จะรู้เอง” อีกฝ่ายตอบในขณะที่บรรจงล้างแผลให้อย่างเบามือ “จะว่าไป คุณเป็นคนแรกเลยนะคะที่กล้ากระตุกหนวดเสืออย่างนั้น พี่เลี้ยงคนก่อน ๆ ไม่มีใครกล้าเถียงคุณออสตินเธอเลยสักคน”
“เขาถึงได้ติดนิสัยแบบนี้ไงคะ ป้าคอยดูนะ หนูนี่แหละจะเป็นพี่เลี้ยงคนสุดท้ายที่ต้องกำราบหมอนั่นให้ได้” น้ำอิงตอบด้วยแน่วแน่ สายตาทอดมองออกไปยังสนามหน้าบ้าน เห็นครามกำลังอาบน้ำให้เจ้าขนมเธอจึงหันไปเอ่ยถามโสนอีกครั้ง “ทำไมเจ้าขนมถึงยอมให้ครามเข้าใกล้ได้ ทั้งที่ไม่ใช่เจ้าของล่ะคะ”
“ก็ครามเขาช่วยเลี้ยงมันตั้งแต่คุณออสตินพามาใหม่ ๆ นอกจากคุณออสติน ก็มีแต่ครามนี่แหละที่เจ้าขนมมันยอมเล่นด้วย ส่วนป้า แค่เห็นหน้ามันก็รีบวิ่งหางจุกตูดแล้ว”
“แสดงว่าขนมมันกลัวป้า...แล้วป้าทำยังไงให้มันกลัวเหรอคะ”
“ไม่รู้สิ ป้าเองก็กลัวมัน แค่เดินเฉียดกันป้าก็ตะโกนไล่มัน มันอาจจะไม่ชอบเสียงดัง มันก็เลยไม่ชอบเข้าใกล้ป้า”
“งั้นเหรอคะ...หนูว่าหนูพอมีวิธีผูกมิตรกับมันแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มพรายเมื่อนึกบางอย่างออก
พอถึงเช้าของอีกวันเธอก็รีบลงไปหาเจ้าขนมตั้งแต่เช้า ครามที่กำลังเปิดบ้านให้มันออกมาจึงต้องหยุดชะงักเพราะกลัวว่าเจ้าขนมมันจะไล่งับเธอเหมือนเมื่อวาน
“คุณน้ำมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ฉันจะมาช่วยดูเจ้าขนมน่ะค่ะ” เธอตอบพลางหันไปจ้องหน้าเจ้าขนมผ่านกระจกใส แค่เห็นหน้าเธอมันก็ส่งเสียงเห่าขึ้นมาทันที
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
“จะดีเหรอครับ” ครามถามย้ำอีกครั้ง “เดี๋ยวมันก็วิ่งไล่กัดคุณเหมือนเมื่อวานอีก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันยังอยู่ที่นี่อีกนาน ยังไงก็ต้องทำความคุ้นเคยกับมัน ถ้าไม่เริ่ม เราก็ต้องเป็นคนแปลกหน้าแบบนี้ต่อไป” น้ำอิงให้เหตุผลจนครามนึกใจอ่อนจึงยอมปล่อยเจ้าขนมออกมา วินาทีแรกที่เป็นอิสระ มันก็วิ่งออกมาหาเธอทันที แต่ครั้งนี้หญิงสาวกัดฟันแน่น ไม่ยอมวิ่งหนีเหมือนครั้งก่อน ๆ
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” มันวิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าแล้วอ้าปากเห่าด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร โชคดีที่ครามรีบเข้ามาใส่สายจูงเอาไว้ไม่งั้นมันได้งับขาเธอแน่ ๆ
“ผมว่าไม่ได้ผลหรอกครับ คุณรีบเข้าบ้านเถอะ”
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” เจ้าขนมยังเห่าไม่หยุด มันพยายามฝืนแรงที่กำลังรั้งอยู่วิ่งมาหาน้ำอิง หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียง
“หยุดนะเจ้าขนม!”
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” มันยังอ้าปากเห่าไม่ยอมหยุดตามคำสั่ง เธอจึงต้องตะโกนด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเล็กน้อย
“ฉันบอกให้แกหยุดไง ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปทำร้ายแกได้ยังไง หยุดเห่าเดี๋ยวนี้นะ”
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” เป็นอีกครั้งที่มันไม่ยอมฟังเสียงเธอ เมื่อเห็นว่าตะโกนต่อไปก็คงจะไร้ผล หญิงสาวจึงหยิบของเล่นชิ้นโปรดของมันติดมือมาแล้วบอกให้ครามปล่อยเชือก
“ปล่อยมันเถอะ ฉันว่ามันไม่กัดหรอก”
“คุณแน่ใจนะครับ”
“เออน่า...” เธอขอร้องก่อนที่ครามจะยอมปล่อยเชือก หญิงสาวจึงหลอกล่อมันด้วยของเล่นก่อนจะวิ่งไปที่สนามหญ้า พอมันเข้ามาใกล้เธอก็ปาของเล่นไปอีกทาง ทำให้เจ้าขนมละจากเธอแล้ววิ่งไปคาบของเล่นชิ้นนั้นกลับมาให้
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
“หือ....แกไม่ได้ดุอย่างที่คิดเลยนี่ ที่แกไล่ฉันเพราะแกอยากให้ฉันเล่นด้วยใช่ไหมล่ะ” น้ำอิงรับของเล่นจากปากของมันก่อนที่เธอจะวิ่งกลับไปที่บ้านหยิบอาหารให้เป็นรางวัล “เก่งมากเลยเจ้าขนม แกน่ารักอย่างนี้ ไม่เห็นต้องดุเหมือนเจ้านายแกเลย”
มือเรียวลูบไล้บนศีรษะของมันแผ่วเบาในขณะที่มันก้มลงกินอาหารจนครามนึกแปลกใจ
“แปลกมากเลยนะครับ ผมเห็นมันเห่า คิดว่ามันจะกัดเลยไม่กล้าปล่อยไป พี่เลี้ยงคนก่อนที่มาก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มันเลยสักคน”
“ฉันเองก็ไม่ชอบหมาหรอก เมื่อคืนไปหาอ่านข้อมูลมา เขาบอกว่าที่มันเห่ามันอาจจะแค่เล่นกับเรา มันไม่ได้ดุอย่างที่คิดเลย...ใช่ไหม” ประโยคหลังเธอหันไปคุยกับเจ้าขนมที่กำลังอิงแอบซบใบหน้าลงบนขาเรียว ท่าทางขี้อ้อนจนเธอต้องเอื้อมมือไปลูบไล้มันอย่างนึกเอ็นดู “เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ”
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” มันเห่าตอบรับกลับมาพร้อมกับลากลิ้นเลียไปบนใบหน้าเป็นการสานสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ท่าทางที่แสนอ่อนโยนของน้ำอิงทำให้ครามแอบอมยิ้มออกมา อยู่ ๆ หัวใจของเขาก็วูบไหวจนต้องรีบเสมองไปทางอื่น
“ว่าแต่...เจ้านายของเจ้าขนมจะกลับมาวันไหนล่ะเนี่ย” หญิงสาวบ่นพึมพำด้วยสีหน้าคิดหนัก แผนการสร้างมิตรภาพกับเจ้าขนมผ่านไปได้ด้วยดีแต่อคินกลับไม่ยอมกลับมาเสียนี่
“ผมเองก็ไม่รู้หรอก บางทีก็หายไปเป็นอาทิตย์เลย”
“เป็นอาทิตย์เลยเหรอ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ฉันจะได้เริ่มงานกันล่ะ” น้ำอิงกุมขมับ งานช้างแบบนี้ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำค่าตอบแทนถึงได้มากมายนัก
“ขนาดคนก่อน ๆ ที่มา ยังไม่มีใครทนได้เลยสักคน ส่วนใหญ่ก็ออกไปตั้งแต่เห็นเจ้าขนมแล้วล่ะครับ”
“ฉันไม่ไปหรอกนะ ตอนนี้ฉันกับเจ้าขนมเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ด่านต่อไปก็แค่ลากเจ้านายมันกลับมาให้ได้” เธอตอบด้วยเสียงหนักแน่น ก่อนจะหันไปเอ่ยถามครามอีกครั้ง “นายรู้หรือเปล่าว่าคอนโดฯ หมอนั่นอยู่ที่ไหน”
“นี่คุณจะตามไปเหรอครับ”
“ใช่ ฉันจะตามไปลากเขากลับมา ฉันรับปากคุณอภิวัฒน์ไว้แล้ว ยังไงก็ต้องทำให้ได้”
“คุณเป็นคนแรกเลยนะครับที่จริงจังขนาดนี้”
“ฉันรับเงินมาแล้ว ต้องจริงจังสิ” เธอตอบด้วยสีหน้าฉายแววมุ่งมั่น “ว่ายังไงล่ะ นายรู้หรือเปล่า”
“ผมไม่รู้หรอกครับ แต่คุณท่านน่าจะรู้”
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ต้องรีบหาทางพาอีตานั่นกลับมาได้” หญิงสาวกำมือแน่นทำท่าจะลุกเดินจากไป แต่กลับถูกเจ้าขนมคาบชายเสื้อเอาไว้
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”
“สงสัยมันจะไม่อยากให้คุณไปน่ะครับ” ครามสันนิษฐานพลางช่วยแยกเจ้าขนมให้ออกห่าง
“ถ้างั้นฉันรอที่นี่อีกสองสามวันก็ได้ ระหว่างนี้ฉันเล่นกับแกเพื่อกระชับมิตรก่อนก็แล้วกัน เผื่อวันหนึ่งฉันอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากแก” มือเรียวลูบหัวของเจ้าขนมก่อนจะหยิบของเล่นขึ้นมาเล่นกับมันอีกครั้ง
เสียงหัวเราะชอบใจของเธอทำให้บรรดาแม่บ้านรวมถึงโสนต่างพากันออกมาดูด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าจะหญิงสาวเข้ากับเจ้าขนมได้โดยไม่ได้ลาออกไปตั้งแต่วันแรกเหมือนคนก่อน ๆ
โสนตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าไว้ให้น้ำอิงเหมืนอนเช่นทุกวัน แม้ว่าน้ำอิงจะไม่ได้เริ่มงานแบบจริงจังแต่การที่หญิงสาวเข้ากันได้ดีกับเจ้าขนมมันก็ทำให้ทุกคนในบ้านต่างมี ความหวังว่าเธอจะเปลี่ยนอคินให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนได้
หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ น้ำอิงก็ไปเล่นกับขนมเพื่อรอให้อคินกลับมา แต่รอจนตะวันลาลับขอบฟ้า เวลาล่วงเลยมาจนถึงสามทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับ ความอดทนของเธอก็ขาดสะบั้นลงในที่สุด
หญิงสาวรีบต่อสายขอความช่วยเหลือจากอภิวัฒน์ทันทีเพราะไม่อาจจะปล่อยให้เวลามันผ่านเลยไปได้
“สวัสดีค่ะคุณอภิวัฒน์”
(มีอะไรเหรอ ถึงได้โทรมาดึก ๆ ดื่น ๆ หวังว่าหนูคงไม่ได้จะลาออกหรอกนะ) อีกฝ่ายตอบกลับมาทันทีที่รับสาย
“หนูแค่จะโทรมาขอที่อยู่คอนโดฯ ออสตินน่ะค่ะ คุณลุงส่งให้หนูหน่อยได้ไหมคะ”
(หนูไม่ต้องไปเองหรอก เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับ) อภิวัฒน์ได้ยินดังนั้น เขาก็แอบดีใจที่น้ำอิงยังไม่ยอมถอดใจ อะไรที่ช่วยได้เขาก็ยินดีจะอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว
หญิงสาวกดวางสายไป รีบแต่งตัวเพื่อรอให้รถมารับถึงหน้าบ้าน พอเห็นว่าเธอกำลังจะออกไป โสนจึงเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย
“คุณน้ำจะออกไปไหนเหรอคะ”
“จะไปตามออสตินน่ะค่ะ ถ้าเขาไม่ยอมกลับมาแบบนี้ หนูก็คงเริ่มงานไม่ได้” เธอให้เหตุผลในขณะที่ก้มลงสวมรองเท้าผ้าใบคู่ใจ
“คุณรู้เหรอคะว่าคอนโดฯ คุณออสตินอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้หรอกค่ะ แต่คุณอภิวัฒน์จะส่งคนมารับ หนูไปก่อนนะคะ” น้ำอิงโบกมือลาเพื่อออกไปรอรถที่หน้าประตูรั้ว จากนั้นเพียงไม่นานรถของอภิวัฒน์ก็มาถึง หญิงสาวจึงรีบกระโดดขึ้นไปก่อนที่คนขับรถจะพาเธอไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งเป็น คอนโดฯ หรูใจกลางกรุง หนึ่งในโครงการของอภิวัฒน์ที่มอบให้แมรี่ภรรยาผู้ล่วงลับเป็นคนดูแล พอเธอตายจาก ทรัพย์สินทุกอย่างจึงตกเป็นของทายาทคนเดียวอย่างอคินโดยปริยาย