“ถึงแล้วครับ” คนขับค่อย ๆ ชะลอจอดก่อนจะยื่นคีย์การ์ดสีดำสนิทส่งให้เธอ “คุณอภิวัฒน์ฝากนี่มาให้ ผมติดต่อพนักงานไว้แล้วเดี๋ยว รปภ. จะพาคุณขึ้นไปห้องคุณออสตินเอง”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” น้ำอิงรับคีย์การ์ดมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ทั้งที่เธอเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาวิธีไหนลากตัวอคินกลับไปที่บ้าน
เมื่อลงจากรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบวิ่งเข้ามาหาเธอก่อนจะพาขึ้นลิฟต์โดยสารไปยังห้องของออสตินซึ่งอยู่ที่ชั้นวีไอพียี่สิบเจ็ด
"เห้อ..." หญิงสาวลอบถอนหายใจเพื่อตั้งสติก่อนจะสอดคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเข้าไปข้างใน
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นความหรูหราภายในไม่แพ้กับคฤหาสน์ของเขาเลยสักนิด เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเทาดำดูทันสมัยแต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก "อีตานี่ต้องเป็นโรคจิตอ่อน ๆ แน่ถึงชอบแต่งห้องสไตล์แบบนี้"
ร่างบางกวาดสายตามองหาเจ้าของห้องแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา เธอจึงถือวิสาสะเดินผ่านทางเดินที่ทอดยาวไปด้านหลังเพื่อเปิดประตูห้องนอนด้วยคิดว่าอคินคงจะอยู่ข้างใน
“ไม่มีแฮะ...” คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากัน เมื่อเข้ามาถึงห้องนอนเธอก็ยังไม่เจอวี่แววของเขา ก่อนจะหมุนตัวกลับออกไป สายตาของเธอดันเหลือบไปเห็นเตียงกว้างที่ติดกับผนังกระจกซึ่งมองทะลุออกไปยังวิวเมืองหลวงเบื้องหน้า มองเห็นแสงไฟระยิบระยับคล้ายกับดาวที่กำลังพร่างพรายอยู่บนดิน
“สวยจัง” มือเรียวลากไล้ไปตามกระจกแล้วเอื้อมไปปิดไฟในห้องนอนเพื่อจะได้เห็นภาพตรงหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น
หญิงสาวค่อย ๆ ทรุดกายนั่งลงบนเตียงเพื่อมองวิวเมืองหลวงแบบที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เตียงสีเทายวบลงทันทีที่เธอทิ้งน้ำหนักตัวลง รู้สึกสบายจนไม่อยากจะลุก ถ้าไม่ได้มาทำงาน ชาตินี้เธอคงไม่มีวาสนาได้เข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
“ถ่ายรูปไปอวดเหนือเมฆหน่อยดีกว่า” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม หยิบมือถือออกมาถ่ายภาพวิวเบื้องหน้าพร้อมกับรูปตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันที่เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังมาจากข้างนอกพร้อมกับเจ้าของห้องที่เปิดประตูเข้ามา
“เออ...กูกลับมารอที่ห้องแล้ว”
“ตาบ้านั่นกลับมาแล้ว” น้ำอิงรีบเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าเมื่อได้ยินเสียงอคินที่กำลังคุยโทรศัพท์กำลังเดินเข้ามาในห้องนอน รีบซ่อนตัวใต้เตียงทันทีเพราะยังไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาโน้มน้าวให้เขากลับบ้านโดยที่เธอไม่ถูกเขาไล่ออกไป “เอาไงดีล่ะเนี่ย”
มือเรียวยกมือขึ้นกุมขมับ เพราะเอาแต่เล่นจนไม่เตรียมการอะไรไว้ พอเห็นอคินเดินเข้ามาทรุดกายนั่งลงบนเตียงกว้างเธอจึงเลื่อนมือมาปิดปากตัวเองไว้แทนเพราะกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียง
“มึงรีบจัดการให้กูหน่อยก็แล้วกัน เอาให้เด็ดเลยนะเว้ย” อคินยังคงคุยโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เขาเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างออกมาจากลิ้นชักข้างเตียงก่อนจะเผลอปล่อยมันหลุดมือเพราะความเมา
“อ๊ะ!” น้ำอิงสะดุ้งตกใจจนศีรษะกระแทกกับเตียง พอเห็นซองสีทองที่ตกอยู่เบื้องหน้าเธอจึงรีบถอยกรูดไปด้านหลังทันทีเพื่อไม่ให้อคินสังเกตเห็น โชคดีที่เขาเมาหนักจนไม่ได้ยินเสียงร้องของเธอเมื่อครู่นี้
“เออ บอกไปเลยว่าเท่าไหร่กูก็ยอมจ่าย คิวยาวแค่ไหนกูก็รอ ขอให้มาก็พอ” เขากำชับกับปลายสายก่อนจะกดวางไปแล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้างเพื่อรอให้เพื่อนนำของหวานมาส่งให้ถึงห้อง
เมื่อความเงียบย่างกรายเข้ามา คนที่แอบหลบอยู่ใต้เตียงจึงค่อย ๆ กระเถิบออกไปทางด้านข้าง ดวงตาคู่สวยมองฝ่าความมืดออกไปก็เห็นว่าอคินกำลังนอนหลับอยู่ เธอจึงรีบย่องไปเปิดประตูเพื่อจะออกไปตั้งหลัก แต่ทว่าทันทีที่เสียงปลดล็อกมันดัง คนที่กำลังนอนหลับอยู่ก็ผงกศีรษะขึ้นมาทันที
“มาแล้วเหรอ เร็วกว่าที่คิดไว้อีกน่ะเนี่ย ไหนบอกว่าคิวยาวไง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยอาการงัวเงีย พอรู้ตัวว่ากำลังจะถูกจับได้ น้ำอิงจึงรีบเปิดประตูพรวดออกไป แต่อีกฝ่ายก็ดันคว้าร่างของเธอไว้ได้เสียก่อน “จะรีบไปไหนล่ะ เรายังไม่ได้เริ่มกันเลยนะ”
“เห้ย!” น้ำอิงสะดุ้งสุดตัวเพราะสัมผัสได้ว่าฝ่ามือใหญ่กำลังบีบเฟ้นตรงหน้าอกหน้าใจ พยายามจะดิ้นหนีแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้เลย
“อา...นุ่มดีจัง”
“ปล่อยฉันนะออสติน ฉันไม่ได้มาขายตัวนะ ปล่อยสิ” หญิงสาวพยายามปัดป่ายวงแขนที่กอดรัดร่างของเธอออก แต่ดูเหมือนว่าคนที่กำลังเมาไม่ได้สติจะไม่ยอม เขายิ่งกอดร่างบางกระชับแน่นขึ้นในขณะที่ฝังใบหน้าลงบนซอกคอขาวระหงก่อนจะออกแรงเหวี่ยงร่างของเธอไปบนที่นอนจนรู้สึกจุก
“เล่นตัวฉิบหาย ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันจ่ายให้เธอไม่อั้นแน่”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มาขายตัว อีตาบ้านี่ ทุเรศที่สุดเลย” น้ำอิงรีบถอยกรูดจนแผ่นหลังแนบชิดกับผนังกระจกใส เห็นอคินก้าวตามขึ้นมาพร้อมกับกระชากเสื้อเชิ้ตของตัวเองจนกระดุมขาดวิ่น เผยให้เห็นแผงอกกว้างและกล้ามหน้าท้องเป็นลอนคลื่น เธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว รีบเบี่ยงตัวลงจากเตียงเพื่อหาทางเอาตัวรอด
“จะไปไหน”
“กรี๊ด!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเขาตวัดข้อเท้าของเธอแล้วกระชากเข้าไปหาจนเธอล้มลงนอนหงาย เขาจึงรีบเข้ามาคร่อมร่างของเธอไว้ “ตั้งสติหน่อยสิออสติน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ ปล่อยฉัน!”
“ฮ็อตเนิร์ดซะด้วย น่าสนใจแฮะ” เขาคลี่ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสวมแว่นสายตาเลนส์ใส ไม่ได้สนใจในสิ่งที่น้ำอิงบอกเลยสักนิด
“ฮ็อตเนิร์ดบ้าบออะไร ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นพี่เลี้ยงของนายไง นายทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ อีตาบ้า!”
“นี่คงเป็นลูกเล่นใหม่ของเธอสินะ อยากเล่นบทบาทสมมติเหรอ เอาสิ ฉันเองก็ชอบเหมือนกัน”
“ไปกันใหญ่แล้ว ฉันไม่เล่นอะไรกับนายทั้งนั้น ปล่อย!” มือเรียวทุบลงบนอกกว้างพัลวันเมื่ออคินโน้มลงมาใกล้เธอจึงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าเขาเต็มแรง
เพี๊ยะ!
“ตั้งสติหน่อยสิ นายเมาจนแยกแยะอะไรไม่ออกแล้วนะออสติน”
“เหอะ...” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ลากลิ้นเลาะเล็มลงบนมุมปาก ตอนแรกเธอคิดว่าจะเรียกสติเขาให้กลับมาได้ ไม่คิดว่าอยู่ ๆ เขากลับรวบข้อมือของเธอแล้วกดไว้เหนือศีรษะแทน “ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก เดี๋ยวเฮียจัดให้”
“นายบ้าไปแล้วหรือไงออสติน ปล่อยฉันนะ...อื้อ...” คำขอร้องถูกกลืนหายไปเมื่ออีกฝ่ายบดขยี้ปิดปากของเธอไว้พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่บีบเฟ้นลงบนเต้างามผ่านเสื้อตัวใหญ่นั้นเต็มแรง “อื้อ...”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาก้าวล้ำ ฝ่าด่านปราการเข้ามาหยอกเย้ากับลิ้นเล็ก ดูดดึง ขบเม้มจนได้ยินเสียงฉ่ำแฉะดังลอดออกมา
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...” น้ำอิงครุ่นคิด พยายามตั้งสติออกแรงดิ้นหนีจนมือเรียวทั้งสองเป็นอิสระ เธอจึงทุบลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อร้องขอให้เขาหยุด
“อะไรนักหนาวะ!” อคินสบถลั่น ตอนนี้เขาถูกพิษน้ำเมาเข้าครอบงำ จนความต้องการมันประทุ ยากที่จะหยุดได้แล้ว “จะเล่นตัวอัพราคาหรือไง ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าเธอทำดี ฉันจ่ายไม่อั้นแน่”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มาขายตัว อื้อ...” เป็นอีกครั้งที่เขาปิดปากของเธอไว้ด้วยความรำคาญ พอหญิงสาวตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเขาจึงรีบกระชากเสื้อเชิ้ตของเธอออกจนเผยให้เห็นอกนุ่มนิ่มภายใต้บราตัวน้อย
น้ำอิงตัวสั่นไปทั้งร่าง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเพศตรงข้ามก้าวล้ำเข้ามาถึงขนาดนี้ มือเรียวถูกเขาจับไพล่หลังเอาไว้ในขณะที่ยังบดขยี้ริมฝีปาก ดูดดึงความหอมหวานอย่างไม่ปรานีจนหญิงสาวรับรู้ได้ถึงรสชาติข่มเฝื่อนของเหล้ากลิ่นแรงและเลือดปะปนกัน รู้สึกเวียนหัวเหมือนจะเมาไปกับเขาด้วย
“ฮึก ๆ ฮือ...” เสียงสะอื้นดังลอดออกมาทำให้อคินต้องหยุดชะงัก เขาละจากริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเลื่อนมือค่อย ๆ ถอดแว่นของเธอออก มองเห็นหยาดน้ำใส ๆ คลึงอยู่ที่กระบอกตาจึงปาดเช็ดมันออกให้อย่างเบามือ
“ร้องไห้ทำไม อย่าบอกนะว่าเพิ่งจะมารับงานครั้งแรก” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม พยายามปรับโฟกัสมองใบหน้าของอีกฝ่ายแต่สายตาก็พร่าเลือนจนมองเห็นแค่ราง ๆ เท่านั้น “เธอไม่ต้องกลัวหรอกนะ เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ทำให้ใครตายหรอก ฉันสัญญาว่าฉันจะทำให้เบาที่สุด”
เขาให้เหตุผลอย่างคนเอาแต่ใจ ทำให้คนที่นอนอยู่ใต้ร่างตวาดกร้าวออกมาอีกครั้งเพราะคิดว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
“อีตาบ้า ปล่อยฉัน...อ๊ะ!” น้ำอิงสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อฝ่ามือใหญ่บีบลำคอของเธอไว้แล้วกดลงบนที่นอนเพื่อล็อกไม่ให้ดิ้นหนี “ปล่อยฉันนะออสติน ปล่อยสิ...”
“ปากเก่งอย่างนี้แสดงว่าไม่กลัวแล้วสินะ”
“นะ...นั่นนายจะทำอะไร” หญิงสาวผวาวาบ เห็นเขาเลื่อนมืออีกข้างไปหยิบซองสีทองที่หล่นอยู่ข้างเตียงมาวางไว้ จากนั้นจึงกระชากกระโปรงทรงเอของเธอออกจนมันหลุดจากปลายเท้าไปพร้อมกับชั้นในตัวน้อย
ความเย็นที่ตกกระทบลงบนผิวกายทำให้คนใต้ร่างตัวแข็งทื่อ มือที่จับข้อมือของเขาไว้ก็เลื่อนลงไปปิดจุดสงวนกลางกายไว้ทันที
“มันจะมากไปแล้วนะ อ๊าย...” เธอร้องเสียงหลงอีกรอบเมื่อเขาปล่อยมือจากลำคอแล้วจับขาเรียวให้อ้าออกจากกัน จัดท่าทางให้อยู่ระดับที่พอเหมาะก่อนที่เขาจะรูดซิปกางเกงขายาวออก “นายตั้งสติหน่อยสิ นี่ฉันเอง น้ำอิงไง ฉันมาเป็นพี่เลี้ยงของนาย...ไม่ได้มาขายตัว ปล่อยฉันไปเถอะนะ”
“ใจเย็นแม่สาวน้อย...” อคินไม่ได้สนใจจะรับฟังในสิ่งที่น้ำอิงพยายามจะบอก เขาหยิบซองถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกมันด้วยปากแล้วจับเอาความใหญ่โตที่กำลังพองตัวออกมาจากกางเกง “ใส่ยากจัง...”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำเพราะตาพร่าเลือนจนมองเห็นความใหญ่โตของตัวเองไม่ชัด
“ออสติน...” น้ำอิงตัวชาหนึบ ทันทีที่เห็นเครื่องหมายของบุรุษเพศปรากฏแก่สายตาเป็นครั้งแรก เธอจึงตั้งสติแล้วผลักเขาออกไปจนอคินล้มลงหงายหลัง เครื่องมือป้องกันในมือก็ร่วงหล่นลงพื้นด้วย
มาถึงขั้นใส่ถุงแบบนี้เขาคงไม่ได้แค่ขู่แน่ ๆ
“บ้าจริง...” มือเรียวรีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองแล้ววิ่งไปที่ประตู วินาทีที่กำลังเอื้อมมือไปเปิด ข้าสองข้างของเธอก็ลอยละลิ่วเพราะถูกเขาอุ้มแล้วเหวี่ยงลงบนเตียงอีกครั้ง
“เล่นตัวขนาดนี้ งั้นก็ไม่ต้องใส่
มาถึงขั้นนี้แล้วคิดว่าจะได้หรือจะอด 55555
มีคนอ่านไหมค้าาา ขอคนละเมนต์ได้มัั้ย
ตอนหน้าจะได้มาไวๆ