บทที่ 4 ตอนที่ 1

1774 คำ
“ไปๆ เลยค่ะ ไปให้ไกลๆ หนูเลย” ฉันพูดไปตามที่สมองสั่งการ มือไม้ปัดป่ายโบกให้เขาออกห่างจากตัว ยามนี้ศีรษะมันเหมือนจะหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงไว้ด้วยหินผา มือใหญ่ของพี่เพิร์ทพยายามจับแขนฉันไม่ให้แกว่งไปแกว่งมา ฉันยังไม่ยอมมองหน้าเขา ยึดเอาแก้วเหล้าคืนและยกขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว “พอแล้ว...เดี๋ยวก็เมาหรอก” “ไม่เหลือแล้วคุณ!” เสียงแก้วแทรกขึ้นมาทำให้ฉันหันไปมองมันที่สภาพไปไกลกว่าฉันเสียอีก ไม่รู้จะสรุปว่าฉัน...หรือมันกันแน่ที่เครียดหนัก “กลับเถอะ...เดี๋ยวพี่พาไป เมามากแล้วนะเรา” “เฮ้!!คุณจะพาโอลีฟไปไหน มันมากับพวกเรานะ แล้วเด็กคุณล่ะไปไหนซะแล้ว เดี๋ยวก็มีปัญหาหรอก” ทับทิมรีบออกปากปรามทันที เสียงเก้าอี้ครูดไปกับพื้นบอกให้รู้ว่ามันกำลังลุกเดินเข้ามาหาเพื่อกันพี่เพิร์ทออกห่างจากฉัน “ผมมารับแฟนครับ และคิดว่าสถานการณ์แบบนี้เขาไม่ควรอยู่คนเดียวโดยไม่มีผม” “โอลีฟมีพวกเรา มันไม่ได้อยู่คนเดียวค่ะคุณเพิร์ท คุณกลับไปเถอะอย่าให้เพื่อนฉันต้องช้ำใจไปมากกว่านี้เลย” “เรื่องนั้นผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง...ขอตัวโอลีฟนะครับ” ร่างของฉันถูกฉุดให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วแขนใหญ่ก็สอดรัดสะเอวและดึงเข้าหาตัวเขา “ปล่อย...หนูนะ ไอ้คนใช้ผู้หญิงเปลือง...” ปากฉันยังพร่ำไม่เป็นศัพท์ อยากจะผลักและพาตัวเองออกไปจากเขานัก แต่เรี่ยวแรงและสติสัมปชัญญะมันหายไปกับน้ำเมาจนเกือบหมดแล้ว “นี่คุณ!” ทั้งทับทิมและมารีต่างปรี่เข้ามาขวางพี่เพิร์ทที่ลากฉันกลับไม่ยอมปล่อย “ผมจะดูแลโอลีฟเอง ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนค่าอาหารกับเครื่องดื่มมื้อนี้เดี๋ยวผมรับผิดชอบให้ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยดูแลโอลีฟมาตลอด” “ไม่ต้องมาพูดดีเลย คิดจะเอาเงินมาฟาดหัวพวกเราเหรอคะ ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกคุณปล่อยเพื่อนฉันดีกว่าถ้าไม่อยากมีเรื่อง” “เรื่องที่พักคืนนี้ผมจัดการเปิดห้องที่โรงแรม Star Prince แล้วนะครับ เชิญพวกคุณขนของจากที่เดิมเช็คอินเข้าไปพักได้เลย ขาดเหลืออะไรก็แจ้งกับทางประชาสัมพันธ์ ผมสั่งให้เขาดูแลพวกคุณไว้แล้ว ส่วนทริปหน้าเห็นโอลีฟบ่นว่าพวกคุณอยากไปเกาหลี ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับ” “อ่า...” ไอ้มารีถึงกับหูผึ่ง แต่ทับทิมยังหน้านิ่ง...กะพริบตาถี่จ้องพี่เพิร์ทตาเขม็ง ตัวฉันยังดื้อ ผลักบ้างดันบ้าง ตัดพ้อต่อว่าอือออไปตามประสา “คุณ...” “ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ แต่ตอนนี้ผมอยากเคลียร์ปัญหากับเขาโอลีฟกำลังโกรธผม และผมปล่อยให้เธออยู่ห่างไม่ได้...” “เปล่าค่ะ ไม่ใช่เรื่องนั้นแค่อยากถามว่า...เรื่องไปเกาหลีเนี่ยอาทิตย์หน้าเลยได้ไหมคะ เดี๋ยวจะได้ไปลางานล่วงหน้าเลย” “อี...” “มึงหยุดเลยมารีไปดูอีแก้วโน่น...หัวจะคะมำลงถังน้ำแข็งแล้วนั่น” “กูก็นึกว่ารักเพื่อนห่วงเพื่อน ที่ไหนได้...ห่วงทริปเกาหลี...ถุย” “หรือมึงไม่ไป...” “ไปสิ...รอไรอยู่กลับไปนั่งไป ผัวเมียเค้าจะเคลียร์กัน” ทับทิมกับมารีจูงมือหันหัวกลับไปต่อหน้าต่อตาฉัน มือฉันคว้าอากาศขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทรยศ แต่พวกมันไม่ได้สนใจเลย “อย่าดื้อสิ...กลับไปกับพี่” “ไม่เอา...ไม่ไป แก้ว มารี ทับทิม ช่วยกูหน่อยสิ...โธ่!” “ไม่ต้องหาตัวช่วยแล้ว มานี่เลยดื้อดีนัก!!” “ว้าย!” ฉันร้องโวยวายเท่าที่แรงจะมี ซึ่งหาได้เรียกแม้แต่ปรายหางตาของสามเพื่อนตัวแสบให้หันมาแยแสไม่ พวกมันทำเฉยเหมือนฉันไม่มีตัวตน ทริปเกาหลี!! ทำพิษจนได้ ร่างของฉันถูกพี่เพิร์ทจับเหวี่ยงพาดบ่าและหิ้วกระเตงๆ เดินไปแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว แม้ฉันจะไม่ทันสังเกตเพราะความเมาและโมโหแต่คิดว่าทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นจะต้องมองกันเป็นตาเดียวแน่แท้ จากนั้นฉันก็ถูกเหวี่ยงลงบนเบาะรถ พี่เพิร์ทตามมานั่งประกบข้างๆ และสั่งให้คนขับรถพาไปยังที่พัก... เราทะเลาะกันตลอดเส้นทาง ฉันงอแงและโวยวายไม่หยุดปาก บางครั้งก็ร้องคร่ำครวญตามอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่แล้ว ยิ่งได้น้ำเมาเข้าไปก็ยิ่งกระตุ้นทุกความรู้สึกให้แสดงออกอย่างว่าง่าย จนรถจอดในสถานที่แห่งหนึ่ง พี่เพิร์ทอุ้มฉันไว้อีกครั้งพาไปที่ไหนสักแห่ง ชั่วครู่...เขาก็โยนฉันลงบนที่นอนนุ่มๆ “อื้อ...” ฉัน...เมา...หนักมาก!! “ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้ หืม...รู้ก็รู้อยู่ว่าตัวเองคอไม่แข็ง ดูสิ...เมาเละเทะดูไม่ได้เลย” “ก็ไม่ต้องดู ไปดูคนอื่นเลยไป...” ความหงุดหงิดในหัวใจผลักดันให้ฉันพลิกตัวหันหน้าไปอีกทางไม่อยากเสวนากับเขา “หึงพี่เหรอ...หึหึ” ที่นอนยุบลงยวบข้างๆ ตัวฉัน บ่งบอกให้รู้ว่าพี่เพิร์ทกำลังนั่งอยู่ไม่ห่าง มือของเขาลูบขยี้ศีรษะของฉันอย่างมันเขี้ยว ฉันเหวี่ยงแขนปัดออกแต่ไม่ได้หันไปมอง ดวงตาหลับปรือ หนักเนื้อหนักตัวบอกไม่ถูก... “ไปอาบน้ำเถอะ...จะได้หลับสบายๆ” “ไม่เอา!ไม่ต้องมายุ่ง!” “โอลีฟ...วันนี้หนูทำตัวไม่น่ารักเลยรู้ไหม” “จะน่ารักหรือไม่...คุณก็ไม่เคยรักอยู่แล้ว” ฉันสวนกลับด้วยความคิดที่มีอยู่ในหัวทันควัน พี่เพิร์ทดูจะอึ้งไปชั่วขณะ และคว้าตัวฉันยกขึ้นในเวลาต่อมา “ถ้าไม่ไหวพี่จะพาไปอาบเอง...” “ไม่ไปหนูเวียนหัวแล้วนะ เดี๋ยวก็อ้วกใส่หรอก” ฉันบ่นอุบเมื่อพี่ เพิร์ทพยายามถอดเสื้อผ้าฉันออก ปลุกปล้ำพลิกซ้ายพลิกขวาอยู่เป็นนานกว่าจะจัดการมันออกจากร่างไปได้หมด แล้วก็อุ้มพาเข้าห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ฉันรู้สึกขมปากขมคอขึ้นมาจริงๆ เพราะดิ้นไม่ยอมหยุดทำให้ความวิงเวียนมึนงงที่มีอยู่เป็นทุนเดิมก่อปริมาณสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เหมือนมีอะไรตีตื้นอยู่ด้านใน หมุนเวียนเป็นเกลียวสร้างความทรมานให้ยิ่งนัก “อื้อ...ปล่อย จะอ้วก...” “เอาผ้าขนหนูห่มไปก่อนเดี๋ยวพี่ไปหาน้ำมาให้” พูดจบพี่เพิร์ทก็วางฉันลงและคว้าผ้าขนหนูมาคลุมให้ลวกๆ ก่อนที่ฉันจะรีบวิ่งไปหาชักโครกโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายสำรอกเอาน้ำเมาและเศษอาหารน้อยนิดออกมาจนหมด พี่เพิร์ทส่งน้ำมาให้ ฉันไม่รีรอที่จะคว้ามากลั้วปากบ้วนทิ้งก่อนจะดื่มเข้าไปเล็กน้อยเพื่อดับความแห้งผากในลำคอ ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ผ้าขนหนูที่พันรอบกายหลุดลุ่ยลงไปกองอยู่ตรงสะเอว ห้องทั้งห้องหมุนติ้วๆ เอนเอียง ข้างหนึ่งสูงข้างหนึ่งต่ำ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองตกวูบอย่างกะทันหัน “อ่า...อืม...ไม่ไหวแล้ว...” ฉันนอนราบลงทันทีขณะนั้น รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง หูได้ยินพี่เพิร์ทกดชักโครกและหัวเราะเบาๆ ฟังแล้วน่าหงุดหงิด แต่ฉันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แค่จะลืมตาตอนนี้ยังลำบากเลย หัวสมองยังวิงเวียนมึนตึงอย่างหนัก ยกศีรษะไม่ขึ้นเลย “แบบนี้ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานหน่อย...หึหึ...พี่จะเอาไว้แบล็คเมล์ถ้าต่อไปหนูดื้อกับพี่อีก...” “อย่านะคนบ้า...อื้อ!!” สติของฉันยังรับรู้แม้จะไม่มากไม่มายก็ตาม มือพยายามยกห้ามปรามแต่ไม่เป็นผลหรอก เพราะเรี่ยวแรงหดหายหมดสิ้น พานมือจะตกฮวบลงข้างตัวดังเดิม ฉันได้ยินเสียงกดชัตเตอร์สี่ห้าครั้งหลังจากนั้นเขาก็เข้ามาประคองพาฉันเข้าไปในห้องกระจกเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย “นี่แหละที่เขาว่าเมาหัวราน้ำ...น่าตีนักเชียว...” “โอ๊ย!พอแล้ว ไม่เอาแล้ว!” ซ่า! ซ่า!น้ำอุ่นจากฝักบัวไหลซู่ลงมาประพรมใบหน้าของฉัน เข้าจมูกเข้าปาก หาจังหวะหายใจไม่ทัน ร่างเปลือยเปล่าเปียกปอนและเสียดสีกับร่างใหญ่ของพี่เพิร์ทที่ช่วยดูแลฉันจนเสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไม่แพ้กัน “อย่าดิ้นสิโอลีฟเดี๋ยวพี่ก็อดใจไม่ไหวหรอก...” แม้จะเมาแต่ฉันก็จับปฏิกิริยาน้ำเสียงสั่นพร่านั้นได้มือใหญ่ที่ไต่เลื้อยไปตามเรือนร่างของฉันร้อนผ่าวและหยาบกระด้างยิ่งนัก หน้าอกที่ชูชันรับหยดน้ำมันเกร็งเครียดจนน่าอายเมื่อถูกสัมผัสไปทั้งผิวกาย “พอ...แล้วค่ะ...” “อาบน้ำอาบท่าแบบนี้รู้สึกดีขึ้นไหม” เขาถามย้ำ ใบหน้าประชิดเข้าหาหยาดน้ำหยดไหลลงสู่ปลายคางซึ่งครึ้มไปด้วยเคราที่เพิ่งอวดตอ ฉันกลืนนำลายลงคอเหมือนขาดน้ำด้วยความกระหายเหลือแสนแล้วหลบหน้าไม่สบตากับเขา แสงไฟสลัวในห้องนี้ไม่ได้ช่วยปกปิดเรือนร่างของกันและกัน และถึงแม้เราจะมีความคุ้นเคยมากเพียงไร หากแต่พอได้ใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ เคมีบางอย่างก็กระตุ้นให้ยิ่งดึงดูดเข้าหาเสมือนเป็นของใหม่ที่ต่างก็อยากลิ้มลอง “เมาแบบนี้...ต้องยอมให้พี่ลงโทษซะดีๆ” น้ำเสียงพร่าพร่างเข้ามาใกล้ทุกขณะ พร้อมกับริมฝีปากหยักหนาที่ประกบจูบฉันอย่างหนักหน่วงแล้วถอนตัวออกในเสี้ยววินาทีเดียวกันนั้นเช่นกัน สายตาของเขาที่จ้องมาราวหิวโหยเอาหนักหนา ทำให้อุณหภูมิในตัวของฉันพุ่งฉิวร้อนฉ่า เลือดสาวในร่างวิ่งพล่านไปทั่ว แทบจะสลัดความมึนเมาให้สิ้นเป็นปลิดทิ้ง ร่างหนาใหญ่ที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบชิ้น ทว่าเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำเบียดเข้าหาฉันจนสองเต้าแบนบี้ ยอดถันดันพุ่งขึ้นอวดความเกร็งเครียดชัดเจน มือไม้พี่เพิร์ทเริ่มลูบไล้ร่างเปลือยของฉันอีกครั้ง เนื้อสัมผัสเนื้อ...ความอุ่นแผ่ขยายแทรกตัวผ่านสายน้ำเข้าถึงกันและกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม