ติณณภพมองตามน้องสาวก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิท เขามองปราดเดียวก็รู้ว่ารัชชานนท์กำลังคิดอะไรอยู่
“มองขนาดนี้ ขออนุญาตพี่ชายเขาหรือยังครับคุณหมอแบงค์”
คิ้วหนาที่พาดผ่านดวงตาคู่คมของรัชชานนท์เลิกขึ้นเล็กน้อย “งั้นกูขอฝากตัวเป็นน้องเขยมึงเลยแล้วกัน”
“เฮ้ย! ไวไปไหมวะ มึงพึ่งรู้จักเบลล์ได้ไม่ถึงชั่วโมง นี่จะฝากตัวแล้วเหรอ”
รัชชานนท์อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยักคิ้วทำท่ายียวนใส่ว่าที่พี่เขยในอนาคต “ยุคนี้มันยุคสี่จี ทำอะไรชักช้า เดี๋ยวก็ไม่ทันกินกันพอดี”
“แหม! แบบมึงก็เร็วไปครับเพื่อน กูขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ น้องกูไม่ใช่ผู้หญิงที่มึงคิดจะมาทำระยำตำบอนใส่ได้ง่ายๆ” แม้จะรู้ว่าพื้นฐานของเพื่อนสนิทเป็นคนจิตใจดีและไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้แบบพ่อของหลานสาว แต่กระนั้นเขาก็ต้องแกล้งขู่เอาไว้ก่อน
“เออน่า.. ถึงกูจะดูแรดๆ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายกินไม่เลือก”
“ให้มันจริง กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ยัยเบลล์น่ะ เห็นอ่อนหวานแบบนี้ เวลายัยนี่โหด มึงเตรียมตัวหาที่หลบภัยได้เลย”
“ครับคุณพี่เขย ว่าแต่กูขอถามเรื่องพ่อของหนูใบบัวได้ปะ”
พอได้ยินเพื่อนสนิทพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งสีหน้าและแววตาของติณณภพฉายแววเกลียดชังและเจ็บปวด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาในวันนั้น มันยังคงติดอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม
นีรนาราไม่แม้แต่จะปริปากบอกว่าใครเป็นพ่อของลูก หากแต่เขาแอบสืบแบบลับๆ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาตัวไอ้ชั่วนั่น ยิ่งไล่ตามหาความจริงและล่วงรู้มากขึ้นเท่าใด หัวใจของคนเป็นพี่ชายที่กลายมาเป็นผู้นำครอบครัวแทนพ่อที่ลาจากก่อนวัยอันควร เจ็บปวดจนแทบสลาย..
“ไอ้ตัวเงินตัวทองนั่นน่ะเหรอ ฮึ! กูเสียใจเหลือเกิน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ กูคงประเคนลูกปืนให้มันรับประทาน”
“เลิกกันเพราะมือที่สาม?” รัชชานนท์ฟังเพื่อนพูดก็พอจะเดาได้ถึงสาเหตุที่ทำให้นีรนาราต้องกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นทุกวันนี้
“มันกลับไปเอากับเมียเก่า”
“ร้ายแรงอยู่นะ แล้วเขาไม่กลับมาง้อน้องมึงบ้างเลยเหรอวะ อย่างน้อยก็มีลูกด้วยกันเลยนะเว้ย”
ติณณภพถอนหายใจ “น้องกูตัดการติดต่อกับมันทุกช่องทาง ย้ายกลับไปคลอดลูกที่บ้าน จนป่านนี้มันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองมาไข่ทิ้งไว้ที่น้องสาวกู แต่ก็ดีแล้วแหละ คนเลวๆ อย่างนั้น ไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อของหลานกูหรอก”
ยิ่งฟังยิ่งสงสาร แม้นีรนาราจะดูสดใส แต่ภายในใจไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนกำลังเผชิญและแบกรับกับความรู้สึกอะไรอยู่บ้าง
“หลานมึงนอนยัง พากูไปหาหน่อยสิ”
ติณณภพเหลือบมองรัชชานนท์เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม “ตกลงคือมึงเอาจริงเหรอวะ?”
“ยิ่งกว่าจริง”
นักศึกษาแพทย์นีรนาราในวัยยี่สิบเอ็ดปี ยังคงตราตรึงใจในความทรงจำจนถึงทุกวันนี้ รอยยิ้มสดใส แววตาเป็นประกายของเจ้าหล่อน เขายังคงจำได้ไม่เคยลืม ตอนนั้นอะไรหลายๆ อย่างก็ยังไม่เป็นใจให้เขาซึ่งเป็นนายแพทย์ที่อายุห่างกับเจ้าหล่อนเกือบหนึ่งรอบได้เข้าไปทำความรู้จักสาวน้อยนักศึกษา ทว่าในยามนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็ถือว่าโสดด้วยกันทั้งคู่ อายุและหน้าที่การงานของหญิงสาวก็กำลังเหมาะที่จะเลือกคู่ครอง ส่วนเขาเองก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาว่าโคแก่อยากจะเขมือบหญ้าอ่อนโดยที่ไม่กลัวคุก เพราะถึงแม้ช่องว่างระหว่างอายุของเขาและสาวเจ้าจะไม่ลดลง กระนั้นมันก็คงดีกว่านายแพทย์วัยสามสิบไปจีบสาวมหาวิทยาลัยลัยอยู่หรอกกระมัง
“เออดีแฮะ กูไม่คิดว่าพวกมึงจะสปาร์กกันเร็วขนาดนี้ เหลือเชื่อว่ะ”
“มึงเคยได้ยินคำว่าพรหมลิขิตไหม” ส่วนเขานั้นหรือ.. เชื่อสนิทเลยล่ะ ถึงแม้จะมีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่คนที่สามารถตราตรึงหัวใจไว้ได้ตั้งแต่แรกเห็นนั้นน้อยนัก หรืออาจจะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้นอกจาก..
..นีรนารา..
“กูจะอ้วกว่ะ” ติณณภพรู้สึกตามที่ตนพูดออกไปจริงๆ
“สี่ปีก่อน กูเคยเจอน้องมึงที่งานแพทย์สัมพันธ์”
“แล้วอย่าบอกนะว่ามึงตั้งใจจะเขมือบน้องกูตั้งแต่ตอนนั้น” ติณณภพเอ่ยถามขำๆ แต่..
“ใช่ แต่ตอนนั้นโอกาสมันยังไม่ได้”
“ถามจริง? มึงอย่ามาละครหน่อยเลยน่าไอ้หมอ กูว่ามึงจำคนผิดหรือเปล่า ตั้งสี่ปีเชียวนะ ไม่ใช่สี่วัน มึงยังจำหน้ายัยเบลล์ได้อยู่อีกเหรอ”
รัชชานนท์เห็นสายตาเพื่อนก็รู้แล้วว่าติณณภพนั้นไม่เชื่อคำพูดของตน ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่คนสมัยนี้เรียกขานว่าไอแพดออกมาจากกระเป๋าเป้ ก่อนจะปลดล็อกหน้าจอแล้วเปิดโปรแกรมที่ใช้สำหรับบันทึกภาพถ่าย
“น้องมึงใช่คนนี้หรือเปล่าล่ะ”
ติณณภพชะโงกหน้าไปมองภาพถ่ายบนหน้าจอไอแพด แล้วก็พบว่าชะนีน้อยที่กำลังฉีกยิ้มแฉ่งคือน้องสาวของตนจริงๆ
“โอ้โห! นี่มึงคลั่งยัยเบลล์ถึงขนาดเก็บรูปถ่ายไว้ตั้งสี่ปีเลยเหรอวะ” ชายหนุ่มพูดพลางยกมือทาบอกประกอบคำพูดของตน
รัชชานนท์ยิ้มจนตาหยี “เออดิ”
“แต่น้องกูมีลูกแล้วนะ ไม่ใช่สาวโสด”
ติณณภพลองถามหยั่งเชิงเพื่อนสนิทดู ความรักความชอบมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของการคบหาดูใจ หลังจากนั้นมันต้องมีปัจจัยอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของคนทั้งคู่ และอะไรก็คงไม่เท่ากับการที่นีรนารามีลูกติด
“อดีตมันย้อนกลับไปแก้ไขได้ที่ไหนกัน แค่เบลล์ต้องเสียใจกับเรื่องที่พ่อของลูกทำแบบนั้น มันก็แย่มากพอแล้ว กูไม่ใจร้ายพอที่จะซ้ำเติมเขาได้หรอก”
เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อนีรนาราคือประทับใจในสิ่งที่ตามองเห็น ใบหน้า รอยยิ้ม รูปร่าง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นองค์ประกอบภายนอกทั้งหมด ถ้าในอนาคตนิสัยใจคอและการใช้ชีวิตของเขาและหญิงสาวสามารถเข้ากันได้ดี ตัวเขาเองก็ไม่มีปัญหา เรื่องที่เจ้าหล่อนมีลูกสาวพ่วงมาด้วยหนึ่งคน
“ดีซะอีก มึงก็รู้นี่ว่ากูเป็นคนชอบเด็ก”
ติณณภพทั้งดีใจและโล่งใจ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ “ถ้ามึงเจอหลานกูจริงๆ แล้วมึงจะหลงรักเด็กมากกว่าเดิมอีก ไปหาใบบัวกันเถอะ”