ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ 1

1227 คำ
นีรนารายืนมองสองหนุ่มเล่นกับลูกของตน เจ้าหล่อนไม่รู้จะสงสารเด็กหญิงณาราหรือหัวเราะก่อนดี ก็ดูพี่ชายเธอสิ นั่น! แกล้งหลานโดยที่ไม่ดูเลยว่ายัยหนูกำลังจะเบะปากร้องไห้อยู่รอมร่อ ส่วนอีกคนน่ะหรือ.. ตอนแรกก็เห็นว่าสุภาพเรียบร้อยดีอยู่หรอก แต่ดูตอนนี้สิ “เฮียบูม! คุณหมอ! หยุดแกล้งยัยหนูเดี๋ยวนี้นะ” เธอแกล้งทำเสียงดุ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลแม้แต่นิด “แกล้งอะไรกัน เขาเรียกหยอกหลานให้มีความตื่นเต้น” ดู๊ดู! แย่งของเล่นจนเด็กหญิงณาราจะร้องไห้ ไอ้พี่ชายยังมีหน้ามาบอกว่าหยอกหลานเพื่อ.. ความตื่นเต้น “คุณหมอก็เป็นไปกับเขาอีกคนหรือคะ” รัชชานนท์แทบจะโยนตุ๊กตาที่แย่งจากหนูน้อยณาราทิ้งทันทีที่เห็นแววตาต่อว่าของหญิงสาว “เออ.. พี่แค่.. พี่..” เขาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาแก้ตัวดี อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะทำคะแนนแล้วแท้ๆ แต่กลับมาทำให้แม่ของเด็กหญิงรู้สึกไม่พอใจแทน “พี่ขอโทษ พี่แค่จะหยอกใบบัวจริงๆ น้า.. ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย” เธอรู้.. แต่แค่.. “ยัยเบลล์ เลิกแกล้งไอ้หมอเถอะ ไม่เห็นเหรอว่ามันจะร้องไห้อยู่แล้วน่ะ” ทันทีที่เพื่อนพูดจบ รัชชานนท์ที่ก้มหน้าก้มตารู้สึกผิดก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองนีรนาราทันที “แกล้งพี่เหรอ” ไม่ต้องถามก็รู้ได้ เพราะแววตาเจ้าเล่ห์และเรียวปากอิ่มสวยกำลังเม้มเข้าหากันอย่างพยายามกลั้นขำ ตัวแสบ! “เปล่าซะหน่อย เฮียบูมก็พูดไป” นีรนาราพูดพลางพยายามกลั้นหัวเราะ เจ้าหล่อนหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าหงิกอยู่ข้างติณณภพ “คุณหมอขา หิวข้าวหรือยังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างพยายามงอนง้อและออดอ้อนอยู่ในที ให้ตายสิ! ทำไมเขาถึงแพ้ทางหญิงสาวได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ “ยังไม่เท่าไหร่ครับ” อีกหน่อยจะกินควายได้อยู่แล้ว ประโยคหน้าที่พูดออกไปคือมารยาท แต่ประโยคหลังนี่คือความจริงที่เขากำลังเป็นอยู่ ก็แหม.. พอออกจากคลินิกก็รีบตรงดิ่งมาที่บ้านของติณณภพ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า “คุณแม่กำลังอาบน้ำ ส่วนอาหารและสถานที่ มีน้องกำลังจัดเตรียมให้อยู่ค่ะ รอสักครู่นะคะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงเสร็จ” เธอเอ่ยบอกรัชชานนท์ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ลูกสาวตัวน้อย “มานี่มา ตาใสกริ๊งเลยนะเราน่ะ” คุณแม่คนสวยอุ้มเจ้าตัวเล็กของเธอขึ้นมานั่งบนตัก “แอ๊ๆ “ เด็กหญิงณาราผู้ไม่ยอมอยู่เฉยๆ เจ้าหนูพยายามลุกขึ้นโดยใช้ไหล่ของแม่เป็นหลักยึดไม่ให้ตัวเองล้ม มือน้อยแสนซุกซนจับนั่นจับนี่อย่างพยายามสำรวจ “ใบบัวนี่ยิ้มเก๊งเก่ง เจอหน้าพี่ครั้งแรกก็ยอมให้อุ้ม ไม่ร้องสักแอะ” เขาพูดพลางทำตาหวานเชื่อมส่งให้คุณแม่คนสวยของหนูใบบัว แม้จะเห็นสายตาของชายหนุ่มที่ส่งมา ทว่าเจ้าหล่อนก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ไม่รับรู้ ทั้งที่หัวใจดวงน้อยกำลังสั่นราวกับมีแผ่นดินไหวแปดจุดแปดริกเตอร์ “ใบบัวเข้ากับคนง่าย อยู่กับใครก็ได้ ไม่ร้องไม่งอแง ยกเว้น..” เธอพูดก่อนจะเงยหน้าสบตากับนายแพทย์หนุ่ม “โดนผู้ใหญ่บางคนแกล้ง” หนุ่มหน้าหยกอมยิ้ม “ผู้ใหญ่ที่ไหน ทำไมช่างใจร้ายแกล้งเด็กน้อยได้ลงคอ” “นั่นสิคะ ผู้ใหญ่ใจร้าย” ติณณภพมองเพื่อนสนิทและน้องสาวของตนสนทนาหยอกล้อกันไปมาด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ ด้วยว่าตัวเองเป็นคนพาทั้งคู่ให้มารู้จักกันแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายถูกทิ้งไว้กลางทาง ไม่มีใครสนใจไยดี ไม่แม้แต่จะหันมามอง ฮึ! มันน่านัก “ใบบัว มาหาลุงมา” คุณลุงขี้งอนหันไปพูดกับหลานสาว เด็กหญิงณาราซึ่งกำลังคลานต้วมเตี้ยมอยู่บนพื้นไม่ได้ทำตามที่คุณลุงบอกแต่อย่างใด หนูน้อยหยิบนั่นจับนี่ขึ้นมาเล่นตามประสา คนเป็นลุงทำท่าฮึดฮัดอย่างขัดใจ นีรนาราแอบเห็นปฏิกิริยาของคนแก่ขี้งอนก็นึกรู้ว่าติณณภพกำลังเป็นอะไร “อยากมีสักคนไหมเฮีย” นีรนาราเปิดบทสนทนากับพี่ชายของตน ในที่สุด! ติณณภพฉีกยิ้มแฉ่ง เมื่อน้องสาวในไส้เริ่มเห็นหัวแล้ว “ไม่ดีกว่าว่ะ เลี้ยงใบบัวช่วยแกนี่แหละ ฉันยังไม่อยากหาบ่วงมาผูกคอตัวเอง” “แต่แม่รออุ้มหลานเฮียอยู่นะ เห็นว่าแม่อยากได้พี่น้ำมนต์มาเป็นลูกสะใภ้อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมเฮียไม่ลองจีบดูล่ะ” ติณณภพทำหน้าขยาดเมื่อนึกถึง ‘ยัยน้ำมนต์นมโต’ ผู้หญิงที่ วันวิสาหมายปองอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ หน้าตาก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่นิสัยนี่สิ.. ..โคตรแสบ! “ให้ฉันเอายัยนั่นทำเมีย ฉันยอมนอนกอดหมอนข้างไปทั้งชีวิตจะดีกว่า” “ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะเฮีย พี่น้ำมนต์ออกจะน่ารัก” นีรนารามองหน้าพี่ชายแล้วรู้สึกหมั่นไส้ อะไรจะรังเกียจเขาได้ขนาดนั้น ท่านอัยการอัปสรสุดาแสนจะเพียบพร้อม ถึงแม้จะแอบปากจัดและกวนตีน (เฉพาะกับติณณภพ) ก็เถอะ ติณณภพเบะปาก “ตรงไหน หาไม่เคยเจอ” “จำคำพูดไว้ดีๆ นะเฮีย อย่าให้เบลล์เห็นแล้วกันว่าวันหนึ่งเฮียไปกอดขาอ้อนวอนขอเขาเป็นแฟนน่ะ” ติณณภพส่ายหัวรัวๆ ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด “ดูปากบูมนะครับ ไม่-มี-ทาง!” “จ้า.. เชื่อจ้า อ้อ! เบลล์ลืมบอก วันนี้แม่ชวนพี่น้ำมนต์มากินข้าวที่บ้านเราด้วยนะเฮีย” “ก็แล้วแต่สิ จะมาบอกฉันทำไม” ใบหน้านิ่งๆ แต่จริงๆ ใจผมสั่น ประโยคนี้เป็นเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา บ้าเอ๊ย! แค่ยัยนั่นจะมา ทำไมก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของผู้ชายหัวใจแข็งแกร่งดั่งหินผา ต้องเต้นตุบๆ ราวกับว่ามีคนเอาค้อนมาทุบรัวๆ แบบนี้ด้วยวะ บ้าบอ! “จ้า.. ก็บอกไปอย่างนั้นแหละ เบลล์รู้หรอกน่าว่าเฮียคงไม่สนใจ” นีรนาราแอบยิ้มคนเดียวเมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างที่มันเล็ดลอดออกมาทางแววตาของพี่ชาย “แล้วนี่หิวกันหรือยัง เบลล์ลงไปดูดีกว่าว่าน้องเตรียมอาหารไปถึงไหนแล้ว” ยังไม่ทันที่นีรนาราจะลุกขึ้น แม่ครัวประจำบ้านอย่างพรพระพายก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน “อาหารเสร็จแล้วค่ะ” น้ำเสียงใสหวานไม่ต่างจากหน้าตาจิ้มลิ้มของสาวน้อยทำเอา รัชชานนท์รู้สึกแปลกใจ เดิมทีเขาคิดว่าแม่ครัวที่นีรนาราพูดถึงคือผู้หญิงวัยกลางคนอย่างที่เห็นทั่วไป แต่นี่ทำไม.. “นี่น้องกวางค่ะ ลูกสาวของเพื่อนคุณแม่ บ้านที่ต่างจังหวัดอยู่ข้างกัน น้องเข้ามาเรียนมหา’ ลัยในกรุงเทพฯ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม