ลูกติดเมียพ่อ
ตอนที่1
งานแต่งของจรัญกับเอมอรหญิงสาววัยสี่สิบที่บอกว่าตัวเองมาจากตระกูลผู้ดีเก่าเกิดขึ้นหลังจากที่ขวัญฤดีภรรยาตามกฎหมายเสียชีวิตได้เพียงหนึ่งเดือน...
“นั่นใครวะไอ้โอม”
“ลูกติดเมียพ่อกู”
“ไอ้เหี้ย สวยฉิบหาย ล่อแม่งเลย” วายุกระซิบพูดกับลูกชายเจ้าของบ้านที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
“กูไม่เอาขยะมาทำเมียหรอก”
“ก็ไม่ต้องทำเมียสิวะ ไหนๆก็เข้ามาอยู่ด้วยในบ้านแล้วจัดแม่งเลย”
“มึงอยากเอามั้ยล่ะ”
“ช่างกล้าถาม” ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากันอย่างรู้ใจ ภายใต้รอยยิ้มของพวกเขานั้นตรงข้ามกับสิ่งที่พระเจ้าให้มาเสียเหลือเกิน ...
หนึ่งเดือนต่อมา...
บ้านเกียรติพิพัฒน์ที่เคยเงียบสงบบัดนี้กลายเป็นเพียงอดีตตอนที่ขวัญฤดียังมีชีวิตอยู่
“รถคันใหม่นั่นของใครครับป้าแตง” องศาในอาการมึนเมาเล็กน้อยชี้ไปที่โรงจอดรถที่มีรถคันนั้นเคียงข้างกับรถของเขา
“เอ่อ...คุณโอมคะป้าว่า..”
“รถใครครับป้าแตง” แม่บ้านวัยอาวุโสขนลุกเกรียวเพราะรู้ดีว่าในน้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร
“ระ..รถคุณรินค่ะ คุณท่านเพิ่งซื้อ...” ร่างสูงแสยะยิ้มก่อนจะมองไปที่รถหรูป้ายแดงและทำในสิ่งที่แม่บ้านคิดเอาไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเกิด
เพล้ง!
“คุณโอม!”
เสียงสัญญาณรถดังแข่งกับเสียงร้องของแม่บ้านให้วุ่น แต่มือตีกลับทิ้งเสียมไว้ข้างตัวรถและปล่อยให้ความวุ่นวายเป็นเรื่องที่เกิดในโรงจอดรถเท่านั้น
“แกทำอะไร ไอ้โอม!” จรัญออกมาจากห้องนอนพร้อมกับภรรยาของเขาตวาดใส่ร่างสูงเสียงดังลั่น ก่อนที่สัญญาณกันขโมยที่ดังในตอนแรกจะสงบลงในที่สุด
“แค่เชยชมรถคันใหม่ของน้องสาวผมก็เท่านั้นเอง”
“อันธพาล” ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินไปยังห้องนอนของตัวเองชะงักเท้า ก่อนจะหันมายิ้มเย็นยะเยือกให้เอมอร
“ระวังไว้ให้ดี ต่อไปจะไม่ใช่แค่รถ”
“ขู่ฉันหรอคะ คุณโอม” ต่อหน้าสามีเธอยังจำเป็นต้องให้เกียรติลูกชายของเขา แต่ลับหลังก็เปลี่ยนสรรพนามให้อย่างแสนชัง
“ขู่ครับ ผมไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก” (แต่กับอีกคนไม่แน่)
“แกเข้าห้องไปได้แล้วไป”
“คุณคะ คุณโอมทุบรถของลูกอรนะคะ! คุณต้องจัดการ”
“เอาน่า เดี๋ยวซื้อให้หนูรินใหม่ก็ได้” คำตอบของสามีทำให้เอมอรบิดยิ้มอย่างเยาะเย้ย เอาสิ มันทุบอีกก็ซื้อใหม่อีก ดูซิใครจะชนะ
“อยู่ให้ไหวก็แล้วกัน”
.....
วันต่อมา
นักศึกษาหนุ่มปีสี่ที่แต่งกายยังไม่เรียบร้อยเท่าไรนักลงมาจากชั้นสองของบ้านก็พบกับความไม่น่าอภิรมย์ใจแต่เช้าตรู่ สองแม่ลูกนั่งเสนอหน้าอยู่บนโต๊ะอาหารแต่ก็ช่างเถอะ อย่างไรเขาก็ไม่แตะมื้อเช้าอยู่แล้ว หรือวันนี้จะเปลี่ยนใจดี?
“โอม ไม่กินข้าวพร้อมพ่อสักมื้อหรอ”
“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมอยากจะกินข้าวที่บ้านตัวเองบ้างเหมือนกัน” แม่บ้านมองตากันเลิ่กลั่กไม่ใช่ว่าวันนี้พวกเธอต้องเก็บถ้วยชามที่ร่วงแตกระระนาวหรอกนะ
“รินขอตัวนะคะ วันนี้ต้องเตรียมพรีเซนต์งานกับเพื่อนค่ะ”
“เดี๋ยวสิ รถพังไม่ใช่หรอ ไปพร้อมพี่ดีกว่า” หัวใจของรินรดาสั่นคลอนเมื่อข้อมือของเธอถูกเขากำไว้แน่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเนื้อต้องตัวเธอ
“ไม่รบกวนคุณโอมดีกว่าค่ะ”
“เดี๋ยวคนขับรถจะไปส่งยัยรินเอง คุณโอมปล่อยลูกสาวฉันด้วยค่ะ” ชายหนุ่มยอมปล่อยข้อมือของรินรดาก่อนจะมองแม่ของเธอด้วยสายตาที่ใครเห็นก็รู้ว่าดูถูกกันขนาดไหน
“ก่อนหน้านี้อยู่กันยังไงนะครับ อ่อ... คนไม่เคยมี ผมเข้าใจว่าพอได้มีแล้วความสบายมันทำให้กระแดะกันขึ้นมา”
“ไปเรียนได้แล้วยัยริน ให้คนขับรถไปส่ง”
“ค่ะ” รินรดาตอบรับคำสั่งของแม่ก่อนจะเหลือบมององศาที่มองเธอด้วยสายตาเย้ยหยันอยู่ก่อนแล้ว
“ไปครับคุณริน”
“ค่ะ”
“คุณโอมนี่เอาแต่ใจจังเลยนะคะ ไม่รู้ว่าคุณขวัญเลี้ยงคุณมายังไง”
เพล้ง! กรี๊ดดดด!!!
“ไอ้โอม!” ถ้วยใส่แกงจืดร้อนฉ่าถูกชายหนุ่มปัดจนร่วงใส่ตัวของเอมอรสร้างความตกใจให้ทุกคนในที่นี้โดยเฉพาะจรัญประมุขใหญ่สุดของบ้าน แต่คนทำหาได้มีแก่ใจจะเหลือบมองภรรยาของเขาสักนิดแถมยังออกจากบ้านไปราวกับไม่ได้เพิ่งทำให้ใครเจ็บตัว
.....
วิทยาลัย
“กรี๊ดดดด!!”
เอี๊ยดดดด
“ริน! เป็นอะไรมั้ย” พิมประภารีบเข้ามาหาเพื่อนที่ล้มลงกองอยู่หน้ารถหรู ดูก็รู้ว่าคนขับตั้งใจ
รินรดาตกใจจนตัวสั่นเทาหากเขาไม่เบรกเธอต้องเจ็บมากแน่ๆ
บรื้นนนน
“เฮ้ย! ขอโทษสักคำก็ไม่มีไอ้บ้าเอ้ย!”
“ช่างเขาเถอะพิม”
“ริน! เจ็บมากมั้ยมาพี่ช่วย” ติณภพพยุงหญิงสาวที่ยังอยู่ในอาการตกใจให้ลุกขึ้นยืน แต่เพราะยังอกสั่นขวัญหายทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินไปจากตรงนี้ไหว
พรึ่บ!
“พี่ต่อคะ!”
“เดี๋ยวรถคันอื่นจะมาชนอีกหรอก” ติณภพตัดสินใจอุ้มหญิงสาวรุ่นน้องที่สติกระเจิดกระเจิงไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ซึ่งการกระทำของพวกเขามีอีกคนมองเห็นมันจากกระจกรถ
“หึ”