วันปัจฉิม
บิ๊กไบค์
ผมเดินนำหน้าแก้มใสมายังตันไม้ใหญ่ข้างๆ อาคารเรียน ผมพยายามรวบรวมความกล้าอยู่นาน กว่าจะกล้าเอ่ยปากบอกกับแก้มใส ยังไงวันนี้ผมก็ต้องบอกกับแก้มใสให้ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไร
“มีอะไรคะ” แก้มใสถามขึ้น
“คือว่า...พี่...”
น่าขายหน้าที่สุดเลย พอถึงเวลาจริง ๆ กลับพูดไม่ออกซะงั้น
“ไม่มีอะไรแก้มไปนะคะ” แก้มใสหันหลังเตรียมจะเดินกลับ
“พี่ชอบแก้ม” พูดออกไปแล้ว
“อะไรนะคะ” แก้มใสหันหน้ากลับมาถามด้วยสีหน้างุนงง
“พี่ชอบแก้มใส ชอบตั้งแต่วันแรกที่เรามาเรียนที่นี่แล้ว” ผมสารภาพออกไป
“แต่แก้มไม่ได้ชอบพี่ค่ะ” แก้มใสตอบอย่างไร้เยื่อใย
ผมก้มหน้าลงมองพื้นอย่างสลดที่ต้องมาผิดหวังตั้งแต่ครั้งแรกยังไม่ได้เริ่มอะไรด้วยซ้ำ
“พี่ก็ดีนะ แต่ว่าแก้มมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ผมเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าเรียวได้รูป
“มันเป็นใคร” ผมถามด้วยอารมณ์หงุดหงิดนิดๆ
“พี่อยากรู้จริงๆ เหรอ” แก้มใสยืนกอดอกจ้องหน้าผม
“ใช่”
“แก้มชอบพี่โต้งค่ะ”
นี่แก้มใสชอบไอ้โต้งเหรอเนี่ย นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็เพื่อนตัวเอง
“ชอบเถื่อนๆ แบบไอ้โต้งเหรอ” ผมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีนนิดๆ ไม่อยากจะสุภาพกับเธอเท่าไหร่แล้วตอนนี้ เพราะมันไม่ได้ผล
“ค่ะ ชอบมากด้วย” แก้มใสเชิดหน้าตอบอย่างเย้ยหยิ่ง
แบบนี้สิ ค่อยน่าตื่นเต้นหน่อย ที่ผมเลือกที่จะปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพเพราะคิดว่าผู้หญิงเรียบร้อยอย่างแก้มใสน่าจะชอบ แต่ผมคิดผิด
“ไอ้โต้งมันก็มีคนชอบอยู่แล้วเหมือนกัน ไม่ใช่เธอด้วย”
แก้มใสแสดงแววตาความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ใครคะ”
“จะอยากรู้ไปทำไม” ผมยืนกอดอกจ้องมองเธอกลับบ้าง
“ไปเป็นมารขวางความรักของพวกเขามั่งคะ”
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินความคิดสกปรกแบบนี้ออกจากปากผู้หญิงงที่ผมมองว่าน่ารักและใสซื่อ
“อย่ารู้เลย รู้แค่ว่า... ไอ้โต้งมันไม่มีวันชอบเธอ ...ก็พอแล้ว” ผมพูดด้วยความซะใจนิด ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ แก้มรอได้ นานแค่ไหนแก้มก็จะรอ... แค่พี่โต้งคนเดียว” แก้มใสพูดเหมือนจะร้องไห้ ความเย้ยหยิ่งเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ ไม่สนุกแล้วล่ะ
“ทำไมไม่มองคนที่เขามองเธอบ้าง” ผมลองเชิงถามเธออีกครั้ง
“ก็คนมันชอบไปแล้วนี่ค่ะ เข้าใจไหม...” พูดจบแก้มใสก็หันหลังเดินหนีผมไปทันที
นั่นสินะ ก็คนมันชอบไปแล้ว จะเปลี่ยนใจง่าย ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้เร็วขนาดนั้น ผมยืนมองร่างบางเดินกลับไปหาเพื่อนของเธอ แล้วทั้งสองก็เดินไปยังอาคารเรียนของตัวเอง