บทที่ 3

1224 คำ
พิมพ์นารารีบหยิบผ้าคลุมไหล่ ซึ่งพับเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย ออกมาคลุมหัวไหล่เพื่อปกปิดหน้าอกขาวผ่องอวบอิ่มของตนเอง ให้รอดพ้นจากสายตาของชายหนุ่มที่ชื่อรังสิมันต์ ซึ่งกำลังจ้องมองด้วยแววตาเป็นมันหื่นกระหาย ลลินถึงกับหน้าตึงด้วยความโกรธ เมื่อมองตามสายตาของชายคนรัก ที่กำลังจ้องมองพิมพ์นาราอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย หญิงสาวรีบเบียดหน้าอกอวบอั๋น แทบล้นเสื้อเกาะอกให้แนบชิดกับต้นแขนของหนุ่มคนรัก จากนั้นก็ซบหน้าลงกับอกกว้างในชุดสูทหรู พร้อมกับเงยหน้าขึ้นทำตาปริบๆ เอ่ยฉอเลาะเสียงหวาน เพื่อดึงความสนใจของรังสิมันต์ให้มาอยู่ที่ตัวเธอแต่เพียงผู้เดียว “ดาร์ลิ่งขา...ไปกันหรือยังคะ เดี๋ยวพวกพี่ๆ นักข่าวจะรอนานนะคะ” “ครับๆ ไปกันเลยครับ” รังสิมันต์สะดุ้งรู้สึกตัว เมื่อความนุ่มนิ่มของหน้าอกอวบอิ่ม ที่เคยลองลิ้มชิมกินมาหลายครั้งแล้ว ได้บดเบียดเข้ามาที่ต้นแขนของตน กลิ่นน้ำหอมหวานเอียนติดฉุนเล็กน้อยกอปรกับน้ำเสียงฉอเลาะ ริมฝีปากบางเฉียบเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด ที่กำลังเผยอขึ้นน้อยๆ ทำให้เขารู้สึกตัวรีบหันมาสนใจคนในอ้อมแขนอีกครั้ง และก่อนจะเดินพ้นจากห้องหรูตามแรงฉุดของลลิน รังสิมันต์ได้หันมามองพิมพ์นาราด้วยสายตาละห้อย รู้สึกเสียดายของดีๆ ที่ถูกเจ้าของได้เอาผ้าคลุมไหล่มาปิดบังไว้เสียมิด “ไอ้ผู้ชายตัณหากลับ” พิมพ์นารางึมงำด่าตามหลัง เมื่อคนทั้งสองที่สมกันอย่างกับผีเน่าโลงผุได้เดินพ้นห้องไปแล้ว กระเป๋าสัมภาระสำหรับการแต่งตัวของลลิน ที่มีถึงสองใบใหญ่ๆ ซึ่งนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ทำให้พิมพ์นาราต้องถอนหายใจยาว กระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวถึงสองใบใหญ่ ดูออกจะมากเกินไปสำหรับการไปเดินแบบในแต่ละครั้ง ลลินคงไม่สนใจหรอกว่าตัวเธอนั้นเอากระเป๋าสัมภาระไปมากเกินควร เพราะภาระทุกอย่างได้ตกมาอยู่ที่คนรับใช้สารพัดประโยชน์อย่างพิมพ์นารา ที่ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างราวกับเป็นภารโรงแก่ๆ ในโรงเรียนประถม พิมพ์นาราเป่าลมออกจากปาก ขณะก้มลงคว้ากระเป๋าทั้งสองใบมาไว้ในอุ้มมือ จากนั้นก็รีบเร่งเดินออกจากห้องชุดภายในคอนโดหรู แล้วกดเรียกลิฟท์ลงไปยังชั้น G ของคอนโด ลลินกับรังสิมันต์นั่งรอพิมพ์นาราอยู่ภายในรถเบนซ์คันงาม ซึ่งติดฟิล์มค่อนข้างมืด จนคนภายนอกมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรถ ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้นั่งรอพิมพ์นาราเฉยๆ แต่มีการแสดงบทรักแลกจูบแลกลิ้นกันแบบถึงพริกถึงขิงโดยไม่สนใจใคร ขนาดว่าพิมพ์นาราเคาะกระจกรถเป็นนาน แต่ทั้งสองคนก็ไม่สนใจ ผ่านไปเกือบสิบนาที กว่ารังสิมันต์จะปลดล็อกประตูรถให้ และเมื่อรถเบนซ์ได้เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ มุ่งหน้าไปยังร้านอาหารชื่อดังย่านธุรกิจของเมืองไทย ลลินก็ยังแสดงบทรักต่อรังสิมันต์ไม่เลิก ไม่รู้สึกอายพิมพ์นาราที่นั่งอยู่ทนโท่ทั้งคนที่เบาะหลัง ‘แวะเข้าโรงแรมก่อนไหมคุณลิลลี่’ พิมพ์นาราอยากตะโกนถามดังๆ อย่างที่ใจนึกคิด รู้สึกอับอายที่ต้องมาทนเห็นภาพทุเรศบาดตาเช่นนี้ เธอไม่เข้าว่าทำไมลลินถึงได้ปล่อยตัวให้ผู้ชายได้กอดจูบง่ายๆ แบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะ! ลลินจะทำอะไรก็เรื่องของเธอ สิ่งที่หญิงสาวต้องการอย่างเดียวคืออย่าให้พวกผู้ชายเหล่านี้มายุ่งกับเธอ เหมือนคนที่ผ่านๆ มาซึ่งพอลลินเผลอ ก็มักจะเสนอค่าตัวแพงลิบลิ่วให้เธอไปบำเรอสวาทให้ และสิ่งที่ผู้ชายเหล่านั้นได้รับคือฝ่ามือหนักๆ ที่เธอตวัดตบไปบนใบหน้าอวบอูมของพวกมันเต็มแรง “เฮ้อ...คิดถึงคุณรามิลจัง” พิมพ์นาราพึมพำออกมาเบาๆ อย่างลืมตัว และสิ่งที่ได้รับจากความเผอเรอในครั้งนี้ คือกล่องกระดาษทิชชู่ที่ถูกเขวี้ยงมาใส่ใบหน้างามลออของเธออย่างจัง “นังพิม!” ลลินสบถลั่น พร้อมกับคว้ากล่องกระดาษทิชชู่เขวี้ยงใส่คนที่นั่งเบาะหลัง ใบหน้างามที่ตกแต่งมาอย่างดีบูดบึ้ง ถลึงดวงตาเขียวปั้ดใส่คนที่เป็นขี้ข้า “ถ้าแกไม่อยากลงไปเดินอยู่กลางถนนท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง ก็หุบปากของแกไว้ซะ อย่าพูดถึงไอ้บ้านนอก ไอ้ไก่อ่อนคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก” ‘พิมอยากไปเดินตากแดดมากกว่ามานั่งมองคุณลิลลี่แสดงหนังสดแบบนี้’ พิมพ์นารากัดเม้มริมฝีปากแน่น ยกมือคลึงตรงพวงแก้มที่แดงก่ำ เพราะถูกกระแทกด้วยกล่องกระดาษทิชชู่ ในใจนั้น อยากให้ตนเองมีความกล้าสักนิด กล้าที่จะพูดออกไปดั่งที่ใจได้นึกคิด “พิมขอโทษค่ะ พิมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณลิลลี่อารมณ์เสีย” ความอ่อนแอที่ยังครอบงำหญิงสาวอยู่ ทำให้พิมพ์นาราต้องหลุดปากพึมพำขอโทษอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ใช่คนผิด และขณะเอ่ยขอโทษอีกฝ่าย พิมพ์นาราก็นึกถึงบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา อารมณ์ดี ที่ชื่อรามิล ซึ่งเป็นคู่ควงคนล่าสุดของลลิน รามิลไม่ได้มาที่คอนโดของลลินเป็นเดือนแล้ว ทำให้หญิงสาวอดที่จะคิดถึงชายหนุ่มไม่ได้ รามิลเป็นชายหนุ่มคนเดียวภายในคู่ควงนับสิบของลลิน ที่ไม่เคยมองเธอด้วยสายตาจาบจ้วงหยาบคาย ไม่เคยดูถูกเธอด้วยการเอาเงินฟาดหัวเพื่อชวนขึ้นเตียง และทุกครั้งที่มาหาลลิน รามิลมักจะซื้อขนมติดไม้ติดมามาฝากเธอเสมอ พิมพ์นาราเหลือบสายตามองนางเอกสาว พลางนึกตั้งคำถามอยู่ในใจว่าทำไมคนดีๆ อย่างคุณรามิล ถึงได้ถูกลลินสลัดทิ้งได้ “ถ้าแกไม่อยากเจอดีอีกก็หุบปากให้สนิท แล้วตอนที่ฉันแถลงข่าว แกก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น หน้าที่ของแกคือคอยตอบคำว่า ค่ะ อย่างเดียว” ลลินสั่งเสียงห้วน นางเอกผู้แสนดีและหน้าสงสารในจอเงินได้กลายร่างเป็นเสียยิ่งกว่านางมารร้าย เมื่อได้อยู่นอกจอ “เดี๋ยวพิมรออยู่หลังเวทีก็ได้ค่ะคุณลิลลี่” พิมพ์นาราพยายามบอกให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี ซึ่งรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ลลินไม่เคยพอใจในสิ่งที่เธอทำให้เสียยิ่งกว่าขี้ข้า เธอเป็นคนผิดเสมอในสายตาของหญิงสาวผู้นี้ “ไม่! วันนี้แกต้องนั่งใกล้ๆ ฉันตอนที่ฉันแถลงข่าว เพราะวันนี้ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้แกด้วย” ลลินคลี่ยิ้มอย่างมาดร้าย เธอมองคนที่นั่งหน้าซีดอยู่ที่เบาะหลังนิดหนึ่ง ก่อนจะสะบัดหน้าหนี เกลียดและอิจฉาคนที่เป็นขี้ข้าของเธอที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหน พิมพ์นาราก็ดูสวยหวาน น่าพิศน่ามองไปหมด ใบหน้ารูปไข่อิ่มเอิบงามลออ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางใดๆ เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม