ถ้าเราเป็นคู่กัน

1262 คำ
ล่าหัวใจนายอัศวิน ผ้ายับที่พับไว้เขียน บทที่ 6 *ที่ศาลาริมน้ำ* บรรยากาศยามสาย เสียงนกน้อยร้องดังอยู่บนต้นไม้ ในลำคลองน้ำใสวิ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หมู่เกาะผักตบชวาลอยเคว้งชูช่อดอกสีม่วงกระจายทั่วพื้นที่ มองดุคล้ายกับดอกลาเวนเดอร์เมืองไทยก็ไม่ปาน สายลมโชยอ่อนพัดมากระทบหน้าทำให้ผมของฉันที่ปล่อยยาวสลายปลิวพริ้วไปกับแรงลม “พี่ต้องกลับแล้วนะ” มือทั้งสองข้างของพี่เลโอจับมือของฉันไว้แน่นทั้งสองข้างก่อนจะยกมันขึ้นไปทาบที่แผ่นอกกว้างของเขา “ ทำไมถึงรีบกลับล่ะ ยังไม่ครบ 2 อาทิตย์เลย” ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสนวิงวอนเชิงว่าร้องขอให้พี่เขาอยู่ต่อ สายตาของเราประสานกัน ทุกอย่างรอบตัวประหนึ่งว่าหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหว แสงระยิบระยับของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องมาจากผืนน้ำ เพิ่มมิติให้กับบรรยากาศรอบตัวเราราวกับอยู่ในห้วงของนิทรา “พี่มีธุระต้องรีบไป” พี่เลโอตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สายตาของเขาบ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากกลับไปเลยแม้แต่ด้วย แต่เพราะมีเหตุจำเป็นทำให้ต้องจากฉันไปทั้งที่ใจยังอยู่ “แล้วพี่จะกลับมาอีกหรือป่าว” น้ำเสียงของฉันในตอนนี้สั่นพร่าด้วยว่ากำลังจะร้องไห้ ตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว ก่อนที่มันจะค่อยๆ มองเห็นพร่ามัวเนื่องจากน้ำตาที่รินไหลออกมาอาบนองทั่วแก้ม ฉันไม่กล้าปล่อยมือจากเขาเลยฉันกลัวว่าเขาจะจากไปแล้วไม่กลับมาอีก “ ถ้าเราเป็นคู่กัน สักวัน โลกจะหมุนพวกเรากลับมาเจอกันอีก” พูดจบมือหนาของพี่เลโอก็ค่อยๆ ปล่อยออกจากมือฉัน พี่เลโอค่อยๆ หันหลังเดินออกจากศาลาไปฉันเพียงแต่มองตามและภาวนาว่าเขาจะหันกลับมา ไม่นะ!! ฉันรีบวิ่งตามไปกอดร่างสูงที่ยืนหันหลังให้กับฉัน พี่เลโอหยุดเดินทันทีเมื่อฉันเข้ามากอดรัดตัวที่เขาไว้ “พี่เลโอ ไม่ไปไม่ได้เหรอ” แขนทั้งสองข้างกอดแน่นขึ้นอีก น้ำตายิ้งรินไหลนองเอ่อจนมองเห็นอะไรไม่ชัดนัก พี่เลโอแกะมือฉันออกแล้วหันหน้ากลับมา เขาใช้มือข้างหนึ่งเช็ดน้ำตาบนแก้มของฉันอย่าอ่อนโยน หมู่มวลผีเสื้อสีสันแปลกตาบนวนมารอบ ๆ ตัวเราทั้งสอง “พี่ต้องไปแล้ว” ฉันเงยหน้าจ้องตากับคนใจร้ายที่ไม่ยอมฟังคำร้องขอของฉันแม้แต่น้อย มือหนายกขึ้นปาดน้ำตาที่นองอาบแก้มอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ก่อนจะฝากรอยยิ้มละลายใจทิ้งไว้ให้ยิ่งคิดถึง ฉันจะจดจำภาพรอยยิ้มของพี่เลโอไว้ในใจตราบนานเท่านาน “ ไม่ร้องนะคะคนดีของพี่ กล้วยไม้ของพี่เก่งอยู่แล้วนะ” พี่เลโอกล่าวก่อนที่จะยกดอกชบาสีแดง ที่ฉันเองก็ไม่รุ็เหมือนกันว่าพี่แกไปเด็ดมาตอนไหน เขาค่อย ๆ ทัดดอกไม้ที่หูของฉันอย่างเบามือ "สวยที่สุด" เขาเอ่ยปากชม "แต่ไม้ไม่อยากให้พี่ไปเลย"ใบหน้าของพี่เลโอขยับโน้มต่ำลงมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันเงยหน้าขึ้นรับลมหายใจอุ่นๆ จากปลายจมูกโด่งเป็นสัน หน้าของเราสองคนห่างกันเพียงไม่กี่เซน อีกนิดเดียวจูบแรกของฉันก็จะยกให้กับพี่เขาแล้ว. . . ปัง!! ปัง!! ปัง!! “ไม้เอ้ย! ไม้! ตื่นเร็ว” เสียงของพ่อพาให้ฉันสะดุ้งตัวโยนลุกขึ้นนั่งแล้วลืมตามองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ เชี้ยยยย ฝะ ฝันอะไรเนี่ย เสียงพ่อเรียกดังลั่นปลุกให้ตื่นจากฝันพิลึกบ้าๆ นั่น ฉันลุกขึ้นจากเตียงหันไปมองนาฬิกาบอกเวลาใกล้เที่ยง ตายๆ จะไปเรียนมหาลัยได้มั้ยเนี่ยไอ้ไม้ ก็เมื่อคืนน่ะสิ คิดแต่เรื่องที่เฟิร์นมันเอามาใส่หัวฉันจนนอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็ใกล้เช้าแล้ว ฉันลุกจากเตียงไปเปิดประตู เห็นพ่อหิ้วถุงอะไรสักอย่างแล้วยื่นมาให้ฉัน “อะไรอะพ่อ” โอ๊ยคนกำลังฝัน...ด...ดีหรือเปล่าวะแบบนี้ นี่แันฝันบ้าบอคอแตกอะไรเนี่ย หึ้ย “พ่อเลโอเค้าฝากไว้ให้เมื่อเช้า” ฝะ…ฝาก ทำไมต้องฝากด้วย ปกติก็เจอกันทุกวัน แต่ด้วยความ่วง ฉันก็แค่รับมาแล้วเดินงัวเงียกลับเข้าห้อง อะไรเนี่ย เปิดดูดีกว่า ฉันเปิดถุงดูมันเป็นอัลบั้มรูป...ของฉัน วันที่ไปพายเรือกัน ทำไมฉันรู้สึกใจไม่ดีเลย มันตุ๊มๆต่อมๆ เหมือนจะมีอะไรไม่ดี เหมือนจะมีเรื่องไม่สบายใจ หรือว่าฝันเมื่อเช้านี้... ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้ววิ่งไปที่บ้านพี่เคลียร์เพื่อดูว่าฝันเมื่อเช้ามันเป็นเรื่องจริงหรือป่าว *ที่บ้านพี่เคลียร์* “ ป้าวัน ! ป้าวัน !” พอวิ่งมาถึงหน้าบ้านฉันก็แหกปากเรียกป้าทันที ใจคอไม่ดียังไงก็ไม่รู็ ไม่ใช่ว่าฝันมันจะเป็นจริงขึ้นมาหรอกนะ พี่เลโอคงไม่บอกรหอก “มีอะไรไม้ ร้องซะดังลั่น” ป้าวันเดินออกมาก็บ่นเลย นี่ฉันเสียงดังเกินไปเหรอ ปกติก็ร้องเรียกแบบนี้ไม่ใช่หรือไง “ พี่เคลียร์ล่ะ พี่เคลียร์อยู่ไหนจ๊ะป้า” ฉันไม่กล้าถามตรง ๆ ว่าพี่เลโอกลับไปหรือยัง เพราะมันจะดูไม่งาม แต่ไอ้ที่เก็บเอาหน้าเขาไปฝันเหมือนฉากในละครนั่นมันก็ไม่งามเหมือนกัน หุ้ย!! ไม่เอาไม่คิดถึงสิ!! นี่เรากำลังทำเรื่องสำคัญอยู่นะ (แต่มันก็ไม่พ้นเรื่องผู้ชายไหมอะ) “กลับกันไปแล้ว” พอได้ยินคำตอบมันเหมือนใจตกไปอยู่ตาตุ่ม มันหน่วงใจมากบอกไม่ถูกว่ามันรู้สึกยังไง แต่เหมือนมันอยากร้องไห้ยังไงก็ไม่รู้ ความรู้สึกเหมือนตอนที่ฝันมันจุกอยู๋ที่อก (ตอนฝันมันมีความรู้สึกด้วยเหรอ) “กลับไหนจ๊ะป้า” ฉันถามซ้ำอีกรอบ เพราะอยากแน่ใจ ถึงจะแน่ใจแล้วก็เถอะ แถมยังแอบหวังด้วยว่าอาจจะไม่ใช่กลับกรุงเทพ แต่ถ้าไม่ใช่กลับกรุงเทพ แล้วจะกลับไหนกันล่ะ “กลับกรุงเทพน่ะสิ พอดีเลโอเค้ามีธุระด่วนเลยต้องรีบกลับ” เมื่อป้าวันพูดจบ ใจมันสั่นตัวก็สั่น ชาวืดไปทั้งตัว เวลามันผ่านไปแวบเดียวเอง ทำไมฉันถึงได้ รู้สึก...ใจหายขนาดนี้ เพราะตื่นสายแท้ๆ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เฟส ไลน์ก็ไม่ได้ขอไว้ จะติดต่อพี่เค้าได้ยังไง จะคุยกันได้ยังไง "ถ้าเราเป็นคู่กัน สักวัน โลกจะหมุนพวกเรากลับมาเจอกันอีก" ประโยคนี้ดังก้องขึ้นในหู ฉันเดินจากหน้าบ้านป้าวันมาแอบนั่งซึมที่ริมน้ำ ความรู้สึกมันหน่วงๆ มันเหมือนอยากร้องไห้ แต่มันก็ไม่ร้อง ใจมันวืด วืด วืด เป็นระยะ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่เต้นแปลกไปจากปกติ ช่วงเวลาสั้นๆ มันเป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม