“ถึงแล้ว...เราจะอาบน้ำที่นี่กัน”
“เรา...” หญิงสาวถามย้ำ มองไปรอบๆ พงไพรที่เต็มไปด้วยต้นไม้รกชัฏ เบื้องหน้าเป็นธารน้ำที่เธอไม่แน่ใจนักว่าใช่ที่เกี่ยวกับเมื่อวานหรือเปล่า
แต่ตรงนี้มีน้ำตกตื้นๆ อยู่ด้วย ถัดลงมาก็เป็นแอ่งคล้ายสระมีก้อนหินน้อยใหญ่กั้นเป็นทำนบคล้ายเป็นฝีมือคนเสียมากกว่า แต่มันคงถูกสร้างไว้นานมากจนตะไคร่จับดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
“ใช่...” ตอบพลางหันมาแสยะยิ้มแล้วถอดเสื้อตามด้วยกางเกงขายาวกองไว้ข้างๆ ตัวทันที มาเรียมยืนอึ้งอ้าปากค้างกับร่างใหญ่เปลือยเปล่าตรงหน้า
“นี่จะบ้าเหรอ...ถอดผ้าทำไม” เธอเอามือปิดตาแล้วหันหลังให้เขาทันที หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายกำลังเกินเข้ามาใกล้และใช้กำลังถอดเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ให้กลายสภาพเป็นเช่นเดียวกับเขา
“กรี๊ด!!”
“อย่ากระแดะไปหน่อยเลยน่า...มีซอกไหนมุมไหนบ้างที่ฉันยังไม่เห็น รีบๆ อาบน้ำจะได้ไปทำกับข้าวให้ทุกคนกิน”
“ฉันไม่ได้ไร้จิตสำนึกไร้ยางอายเหมือนกับแกนี่...ออกไปเลยนะอย่ามาแตะตัวฉัน” มาเรียมเต้นเร่าด้วยความอับอาย แม้เธอจะเติบโตในต่างแดนแต่เธอก็ถูกเลี้ยงดูอย่างคนไทยคนหนึ่ง อีกประการต่อให้เป็นผู้หญิงไทยหรือผู้หญิงชาติไหนๆ ก็คงไม่รู้สึกเฉยกับการเปลือยกายของเพศตรงข้ามซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอย่างแน่นอน
“เสียเวลา...มานี่!”
“ว้าย!” เธอถูกกระชากเข้าหาตัวเขา หญิงสาวดิ้นขลุกขลักขัดขืนเมื่อชายหนุ่มพยายามถอดเสื้อผ้าของเธอทิ้ง มันง่ายดายนักเพราะมีเพียงเสื้อม่อฮ่อมตัวใหญ่กับกางเกงขาก๊วยตัวโคร่ง ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีร่างเล็กก็เปลือยเปล่าหลงเหลือแต่เนื้อแท้
“ก็แค่นี้แหละ หึ...”
“ไอ้...ไอ้บ้า!” มาเรียมกอดกายย่อตัวลงนั่ง ไม่อยากมองเขา ไม่อยากให้เขามอง ไม่รู้ว่าจะต้องทนกับความอัปยศไปถึงเมื่อไหร่
ร่างกายของเธอปวดระบมไปหมด ตามแขนตามขาก็มองเห็นรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ชัดเจน ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายตัวโตๆ ที่ควรปกป้องเพศแม่กลับมาทำย่ำยีโดยไม่นึกละแก่อายใจ
อะไรคือฉนวนความแค้นให้เขาคิดเอาคืนให้เธอเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้...
“ยังไม่รีบลุกอีก หรืออยากเล่นอะไรสนุกๆ ตรงนี้กันก่อน”
“...” เธอเงยหน้าจ้องเขม็ง ลืมไปสนิทว่าร่างบึกบึนนั้นอยู่ในสภาพไหน เธอหันหน้าหลบทันควันริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น ปลายหางตาแลเห็นชายหนุ่มเดินลงลำธารไปตรงบริเวณที่เป็นน้ำตกซึ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าและชำระตามตัวพลางตะโกนขู่เรียกให้เธอรีบตามเขาไป
มาเรียมรู้ว่าเธอคงไม่มีทางเลือกมากนัก...นอกจากตามใจเขาและฆ่าตัวตายไปเสียซึ่งอย่างหลังเธอยังทำใจไม่เข้มแข็งให้กล้าพอ แต่หากถูกกดดันทำร้ายมากเข้ามันก็ไม่แน่เหมือนกัน
หญิงสาวหันซ้ายหันขวามองให้มั่นใจว่าบริเวณนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอกับเขาที่กำลังหันหลังให้ เธอจึงลุกขึ้นอย่างช้าๆ ยังคงงอตัวเพราะความอายแล้วรีบก้าวลงน้ำเพื่อให้สายธารช่วยปกปิดกลืนกายที่เปลือยเปล่า
เมื่อน้ำปริ่มสะเอวเธอก็หย่อนตัวลงนั่ง น้ำเย็นยะเยือกท่วมร่างทีละน้อยจนสั่นสะท้าน บาดแผลที่ถูกกิ่งไม้ใบหญ้าขีดข่วนเริ่มแสบแปลบ
บางทีไม่ต้องฆ่าตัวตาย เธอก็อาจจะถูกทรมานจนสิ้นใจในเร็วๆ นี้
“นี่เธอ...น้ำตื้นขนาดนั้น วันนี้จะอาบสะอาดไหม” เสียงห้าวทุ้มตะโกนฝ่าเสียงน้ำที่กระเซ็นแซ็งแซ่ ในน้ำเสียงบ่งบอกถึงความรำคาญใจ
“จะให้สะอาดยังไง ครีมอาบน้ำก็ไม่มี อะไรก็ไม่มีสักอย่าง”
“ยังจะเถียง! แผลทั้งตัวแบบนั้น แค่น้ำเย็นๆ ก็จะตายแล้วมั้ง” เขากล่าวเหมือนล่วงรู้ถึงอาการของเธอ แล้วหันหลังให้เพื่อที่มาเรียมจะได้ไม่ต้องอิดออดขัดเขินมากนักเมื่อสัดส่วนสล้างของเธอโผล่พ้นจากผิวน้ำ
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ...เขาได้ยินเสียงบางอย่างกระทบผิวน้ำแล้วลากใกล้เข้ามา และหยุดอยู่ห่างพอประมาณ สัญชาตญาณป่าของแดนสรวงไม่แพ้พรานเจ้าถิ่น
เขาใช้ชีวิตบนผืนป่าแห่งนี้มาแสนนานเสียจนป่าเปรียบเสมือนจิตวิญญาณไปแล้ว แม้เพียงใบไม้ไหวหนักเบาก็ยังรู้ถึงความแตกต่างและลางบอกเหตุ จึงไม่ได้นึกกลัวการถูกประทุษร้ายเอาคืนจากหญิงสาวแม้แต่น้อย
“กรี๊ด!!” มาเรียมกรีดร้องลั่นแล้วน้ำเสียงของเธอก็หายจมหายไปในน้ำเมื่อร่างถูกเหวี่ยงเต็มแรงจนเสียการทรงตัวและล้มลงในสระ ก้อนหินขนาดพอเหมาะหลุดหล่นจากมือเธอตะเกียกตะกายผุดโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อหายใจ มือเล็กปัดป่ายผมที่สยายปิดใบหน้าพลางสำลักน้ำเนื่องจากน้ำเข้าปากโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว
“คิดว่าฉันโง่ให้ตีหัวได้ง่ายๆ งั้นเหรอ หึ...เธอยังต้องเรียนรู้อีกเยอะมาเรียม อันดับแรก”
“ว้าย! ฉันเจ็บ!” มือเรียวที่เต็มไปด้วยบาดแผลขีดข่วนถูกดึงกระชากเข้าหาเขา เธอไม่กล้าสบตาเข้มขรึมนั่นมากนัก เพราะแววตาดุดันของเขาไม่เหมือนแววตาของคนแม้แต่น้อย แต่เหมือนสัตว์ร้ายเสียมากกว่า
“เธอต้องรู้ว่าที่นี่ฉันเป็นใหญ่ และฉัน...เป็นผัวเธอ...”
“แกทำลายฉัน...แกมันเลว” ดวงตากลมมนของมาเรียมแดงก่ำคลอหน่วยหยาดน้ำ เธออยากฆ่าผู้ชายตรงหน้านี้ให้ตายคามือเสียเหลือเกิน การไม่มีเขาอยู่ร่วมลมหายใจคงเป็นความสุขที่สุดในชีวิต
“งั้นก็ยินดีด้วยนะที่ได้ผัวคนแรกก็สารเลวขนาดนี้ น้อยคนจะซวยอย่างเธอ”
“อย่ามาพูดพล่อยๆ!”
“อะไรคือพูดพล่อยๆ ที่ว่าฉันเป็นผัวเธอน่ะเหรอ” เขาถาม ใบหน้ายังแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มแสยะร้ายกาจ
“ใช่...”
“สงสัยตอนสลบจะลืมไปแล้วว่าถูกเอายังไง ไม่เป็นไร...ฉันจะทบทวนใหม่ให้ก็ได้ ครั้งนี้จะไม่ให้สลบจะได้จำทุกวินาที”
“อื้อ!!” มาเรียมออกแรงดิ้นจนน้ำกระเซ็นกระจายเมื่อชายหนุ่มใช้มืออีกข้างจับบีบปลายคางของเธอแล้วโน้มใบหน้าคมกร้านเข้าหา ริมฝีปากซีดสั่นประกบถูกบดขยี้จนเจ็บแปลบ
แดนสรวงรุกจุมพิตร้ายหนักหน่วง ดันให้ร่างเล็กเซไปถอยหลังไปพิงก้อนหินใหญ่ซึ่งถูกนำมาวางเรียงเป็นทำนบกั้นน้ำเพื่อเอาไว้ใช้อาบ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความปรารถนาในตัวเขามันกำลังเรียกร้องมาเรียมให้เข้ามาเติมเต็ม
รสชาติความสุขแทบสำลักที่ยังไม่รู้จักอิ่มเอมมันแล่นพล่านอยู่ในตัวตลอดเวลาตั้งแต่เขาใช้กำลังข่มเหงเธอจนสำเร็จเมื่อวาน กระหายหิว...เหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกขังให้อดอาหารมาแรมปี