bc

จอมใจมหาโจร

book_age16+
1.1K
ติดตาม
5.6K
อ่าน
แนวดาร์ก
ดราม่า
หวาน
สาสมใจ
like
intro-logo
คำนิยม

ความแค้นฝังลึกสุดหัวใจ จะจองจำเธอเอาไว้ด้วยบาปที่ตนเองไม่ได้ก่อ

ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ชายหนุ่มปรารถนา...คือสิ่งที่เธอต้องสังเวย

-------------------------------

“กรี๊ด!” เสียงแหลมกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ก็เกิดอาการจุกเจ็บกะทันหัน เธอตื่นจากนิทรากลางคัน ลืมตามองไปรอบๆ อย่างหวาดผวา ร่างของเธอลงมานอนกองอยู่บนพื้นในสภาพมีผ้าห่มห่อพันรอบกาย สายตาสาดมองไปรอบๆ ก็เห็นร่างใหญ่ในฝันร้ายยืนเท้าสะเอวอยู่บนกระท่อมไม้ไผ่เหนือศีรษะของเธอ

“ตื่นได้แล้ว อย่ามาทำตัวขี้เกียจสันลังยาวที่นี่ เธอมีงานต้องทำ”

“...” มาเรียมเริ่มคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ดวงตาแดงกล่ำกลอกกลิ้งคลอหน่วยสติเต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่ได้ฝันไป...ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นก่อนทุกอย่างจะดับวูบมันคือความจริง

เธอได้ถูกพรากเอาความสาวที่ควรหวงแหนไปเสียแล้วด้วยความโหดร้ายทารุณ...

“ไปอาบน้ำ...นี่เสื้อผ้าของเธอ!”

“โอ๊ย!” ยังไม่ทันขาดคำ เสื้อผ้าสีมอซอก็ถูกปาใส่หน้าจนหญิงสาวต้องหันหน้าหลบอัตโนมัติ แต่มันก็ยังโดนอยู่ดี เธอไม่มีเวลาในการตั้งสตินานนัก ร่างเล็กสั่นเทาค่อยๆ คลายผ้าห่มออกแล้วรวบเก็บเสื้อผ้าที่เขาโยนให้มากอดเอาไว้ เหลือบมองผู้ชายที่ทำร้ายเธอซึ่งกำลังก้าวเท้าเหยียบบันไดลงมา เขาเดินผ่านตัวเธอไปแล้วส่งสัญญาณมือให้เดินตาม มาเรียมรู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นให้เธอเลย รอบๆ นี้คงมีคนอื่นๆ ที่เธอพบเจอก่อนหน้าคอยควบคุม

ไม่มีทางที่เธอจะหาทางหนีได้ง่ายๆ เลย หญิงสาวสำรวจพบว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าของตัวเองแล้ว และความรู้สึกก็บอกให้รู้ว่าภายในร่มผ้านั้นไม่มีชุดชั้นในสวมทับแม้แต่ชิ้นเดียว เธอพอจะนึกออกว่ามันถูกเขาทำลายไม่เหลือชิ้นดีตั้งแต่ตอนนั้น ยับเยิน...ไปพร้อมๆ กับชีวิตทั้งชีวิตของเธอ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
วายร้าย ตอนที่ 1
“ที่นี่ที่ไหนกัน...” สายตาหวาดหวั่นกวาดมองไปรอบๆ พลางดิ้นพรวดหลังจากรู้สึกตัวและพบว่าตัวเองถูกมัดมือมัดเท้าอย่างแน่นหนา และนอนอยู่บนพื้นกระดานในสถานที่อันไม่คุ้นเคย ความหวาดกลัวเกาะกินถึงขั้วหัวใจ ความเจ็บปวดตามเนื้อตัวลามระบมจนต้องสกัดกลั้นลมหายใจเพื่อบรรเทาในบางครั้ง เธอหายใจแรง และพยายามขยับไปสำรวจความผิดปกติที่ตัวเองกำลังเผชิญโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ย้อนนึกกลับไปก็จำได้เพียงว่าเธอไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตามปกติ และเอาของมาเก็บไว้กระโปรงหลังรถ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบลง ราวกับว่าความทรงจำถูกตัดตอนไปอย่างน่าพิศวง                                                                             “ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยด้วย!!” เสียงของเธอแหบแห้งแต่ก็ยังพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ สายตาสั่นไหวมองไปรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมที่ตัวเองถูกขังเอาไว้ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่  หญิงสาวรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ว่าเธอไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีแน่นอน มันเกิดอะไรขึ้น...นั่นคือสิ่งที่หัวใจตั้งคำถามและแม้จะทบทวนเท่าไหร่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้ ปัง! ใบหน้าตื่นตระหนกหันขวับมาตามเสียงประตูที่ถูกผลักเปิดเข้ามาอย่างไม่เบาแรง จนบานประตูซึ่งทำจากไม้ใฝ่นั้น กระแทกเข้ากับฝาผนัง ร่างใหญ่กำยำใช้ผ้าคลุมครึ่งหน้าผมของคนแปลกหน้าดำขลับผูกรวบไว้ด้านหลังยืนเท้าสะเอวบดบังแสงแดดจ้าที่สอดส่องเข้ามา เธอยันกายลุกนั่งแล้วถอยกรูดจนแผ่นหลังสั่นสะท้านชนกำแพง รู้สึกชาวาบไปหมดทั้งตัว ความกลัวเกาะกินหัวใจสุดขีดด้วยรู้ว่าชายผู้นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ดีกับเธอแน่นอน “ฟื้นแล้วเหรอคุณหนูมาเรียม เป็นยังไงบ้างกับบ้านหลังใหม่ ชอบไหม...” น้ำเสียงของผู้ชายร่างใหญ่ห้าวทุ้มน่ายำเกรง บวกกับรูปร่างสูงหนาของเขาด้วยแล้วทำให้หญิงสาวต้องก้มหน้ากลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวั่นใจอย่างยิ่ง “คุณ...เป็นใคร จับฉันมาทำไม” “คำถามคลาสสิกมาก...” “ฉันแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักคุณ คุณคงจับตัวมาผิดคนแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ”                                                                                               “ไม่ผิดถ้าคุณชื่อมาเรียม นิรัตน์วงศา ลูกครึ่งไทยออสเตรเลียพ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก คุณโตที่เมืองนอก เพิ่งมาอยู่ไทยได้ไม่กี่ปีหลังพ่อแม่ตายหมด...พี่ชายชื่อคมพจน์” เขาร่ายประวัติ... คนตัวเล็กกลอกตามองด้วยความแปลกใจ “คุณรู้...” “ก็บอกแล้วว่าไม่ผิดตัว...” “แล้วคุณต้องการอะไร...จะเรียกค่าไถ่งั้นเหรอ ฉัน...ฉันจะโทร.บอกพี่พจน์ให้เอาเงินมาให้เร็วที่สุด แต่คุณต้องรีบปล่อยฉันไปด้วย” มาเรียมต่อรองเสียงสั่น ดวงตาหวาดหวั่นมองร่างใหญ่ที่ย่างสามขุมเข้ามา แล้วห่อตัวลีบราวกับจะหนีเขาพ้น ทั้งที่มือก็ถูกมัดไขว้หลังเสียแน่นหนา “ไม่ได้อยากได้เงิน...เอะอะก็เอาเงินฟาดหัว คนรวยก็แบบนี้แหละนะ” ชายหนุ่มนั่งยองลงตรงหน้าใช้มือจับปลายคางเสยขึ้นให้เธอมองหน้าเขา ผิวของเธอขาวผุดผ่องเนียนละเอียดเหมือนเนื้อเด็กอ่อน ยิ่งได้ยลโฉมชิดใกล้...ก็ยิ่งปลุกปั่นความรู้สึก “อยาก...อยากได้อะไร” “อยากได้เธอ อยากเป็นผัวเธอ”                                     “แก!...” สรรพนามจากเสียงใสเปลี่ยนไปในทันที เธอสะบัดหน้าออกจากมือของเขา มองเห็นในแววตานั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยสาแก่ใจ... “เรียกผัวสิ ฝึกเอาไว้...นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันอยากได้”                   “อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ...ไม่อย่างนั้นแกไม่ตายดีแน่ ยังไงที่บ้านฉันก็ต้องให้คนตามฉันจนเจอ”                                                       “กว่าจะเจอเราคงได้สนุกกันหลายยกเลยเชียวล่ะ หึ หึ” “ทุเรศ! อย่ามาหยาบคายกับฉันนะ” ใบหน้าของเธอเห่อแดงขึ้นมาเป็นริ้วๆ ด้วยความโกรธ หายใจหอบแรง พยายามใช้มือแกะเชือกที่ถูกรัดอยู่ด้านหลังไปพลาง  ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นใครและเกิดอะไรขึ้น เธอจะต้องหนีไปจากที่นี่ให้ได้ “แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับคนอย่างเธอมาเรียม...ยังมีอะไรอีกเยอะที่ฉันอยากตอบแทนให้ตระกูลของเธอจำไปจนถึงวันสิ้นโลก!” มือใหญ่คว้าจับปลายคางมนแล้วบีบแรงจนแก้มนวลบิดเบี้ยวไปตามนิ้ว มาเรียมดิ้นรนแต่ไม่อาจต้านแรงของเขาได้ “อ่อย...” เธอครวญเสียงออกมาได้เพียงแผ่วเบาและไม่เป็นศัพท์เพราะถูกบีบแก้มจนปากเจ่อ “ปากดีแบบนี้อยากรู้นักจะครางดีขนาดไหน...” ริมฝีปากหยักหน้าแสยะยิ้มเย้ยหยัน แววตาดุดันแฝงไว้ด้วยความอาฆาตอย่างน่ากลัว รูปลักษณ์ของเขาเสมือนปีศาจเสียมากกว่าจะเป็นมนุษย์ปุถุชน “เราไม่เคยรู้จักกัน อย่าทำอะไรฉันเลย ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ” เธอเจรจาเสียงสั่นเมื่อนิ้วใหญ่คลายออกจากการบีบจับ สายตามองไปตามฝ่ามือสากๆ ที่ไล่คลึงลูบพวงแก้มของเธอแทน “เรากำลังจะได้ทำความรู้จักกัน...อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียว” “ว้าย!” มาเรียมเบี่ยงตัวหนีทันทีเมื่อมือของเขากระชากขอเสื้อของเธอฉีกขาดเป็นทางยาวลงมา เปิดเผยเปลือยผิวเนื้อส่วนเต้าอวบภายใต้บราสีดำมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ สองมือที่ยังถูกมัดประกบกันอยู่ยกขึ้นมาปิดอัตโนมัติ เธอสั่นงกไปทั้งตัว เมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น “ไม่เลว...” “แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย จับผู้หญิงไม่มีทางสู้มาข่มเหง แถมยังมัดมือมัดตีนขนาดนี้ ฆ่าฉันเลยสิถ้าคิดว่าฉันไปทำอะไรให้แกเจ็บช้ำนักหนา ยังไงฉันก็ไม่มีทางรอดจากโจรถ่อยอย่างแกอยู่แล้ว” ความเจ็บแค้นผลักดันให้เธอกัดฟันกรอดพูดไปอย่างไม่คิด ในขณะที่ร่างใหญ่กำลังโน้มตัวเข้ามาคุกคามกอดคร่อมเอาไว้ “ความเป็นลูกผู้ชายฉันเก็บไว้ใช้กับคนดีๆ ส่วนเธอ...ไม่สมควรได้รับการกระทำนั้นหรอก เข้าใจด้วยเหรอว่าสุภาพบุรุษกับคนดีมีความหมายว่าอย่างไร” เสียงทุ้มเข้มกระซิบริมกกหูแล้วงาบกัดติ่งหูขาวสะอาดจนเธอห่อไหล่หนี                                                                                     ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงความกลัว เธอสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ และสติกำลังกระเจิดกระเจิง                                                                             “อย่า...” “ได้ดมแล้วหอมขนาดนี้ ถ้าได้กิน...มันจะหวานไปถึงไหนกันเชียว” ใบหน้าคมกร้านซุกดันดอมดมตรงซอกคอ สูดเอากลิ่นสาบสาวระคนกลิ่นน้ำหอมราคาแพงเข้าเต็มปอด                                                     เธอ...เกร็งและขยับหนีแม้จะตกอยู่ในวงแขนเขาทั้งตัวแล้วก็ตาม                                                     “มาเรียมในกรงทองล้อมเพชร ต้องมาตกเป็นเมียโจร...ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปมันจะเป็นยังไงหนอ หึ หึ” “ปล่อยฉันนะไอ้เลว!” เธอรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วใช้มือผลักดันร่างของบุรุษนิรนามเต็มกำลัง พลางใช้สองเท้าถีบไปด้วยจนเขาเซล้มไปบนพื้น ร่างเล็กตะเกียกตะกายลุกหนีทันที  แม้รู้ความหวังมีน้อย แต่ด้วยสัญชาตญาณเธอไม่อาจอยู่เฉยรอให้หายนะคืบคลานกลืนกินชีวิตได้ง่ายๆ “กรี๊ด! ปล่อย!” “อย่าเล่นไล่จับเหรอคุณหนู น่าสนุกดีเหมือนกัน” สายตาคมปลาบของเขาจ้องมองเธอ ซึ่งกำลังคลานหนีทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าอับจนหนทางเต็มที เขากระชากร่างเล็กกลับมาพร้อมแก้เชือกที่มัดมือมัดเท้าให้ด้วยความรวดเร็วและหยาบโลน                                                        มาเรียมเม้มริมฝีปากมองเขาแบบงงๆ และตื่นกลัว สับสนกับการกระทำเหล่านั้น                                                                        “ไปสิ...ไปให้ไกล หนีให้รอดแล้วฉันจะไม่รังควานเธออีก แต่ถ้าฉันจับได้ล่ะก็อย่าหวังชีวิตนี้จะได้เห็นเดือนเห็นตะวัน!” เชือกที่ใช้มัดหญิงสาวถูกขว้างไปปะทะกับกำแพงด้วยความแรง มาเรียมสะดุ้งหวาดกลัวแต่ก็พยายามดึงสติพาตัวเองลุกวิ่งไปยังประตูที่แง้มอยู่นั้น ไม่ได้ไกลจากตัวเธอนัก “!!” แต่พอก้าวออกมายังชานไม้ด้านนอกกระท่อม เธอก็ต้องชะงักกึก เมื่อสายตาของชายฉกรรจ์นับสิบกำลังจ้องมาที่เธอด้วยความกักขฬะ มาเรียมหัวใจชาวูบ เย็นเฉียบไปทั้งร่าง พวกเขาดูน่ากลัวไม่ต่างจากคนป่า กลุ่มโจร หรือพวกขี้คุกทั้งหลาย ไม่มีเค้าว่าจะมีความดีใดๆ ติดตัวอยู่เลย “ไงจ๊ะคนสวย...” หนึ่งในนั้นเอ่ยปากขึ้น พร้อมๆ กับเสียงกลั้วหัวเราะ ต่างเอ่ยแซวกันแซ็งแซ่ไม่ขาดปาก “มาเล่นไล่จับกันดีกว่า...”             มาเรียมหันขวับไปตามเสียงที่ดังแทรกมาจากด้านหลังแล้วขยับห่างจากประตูออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่อยู่ด้านในเดินออกมา เขาใช้สองมือค้ำกับขื่อประตู...             “กูจะให้แม่นี่หนี...แล้วพวกมึงก็ไล่จับมาให้กู จับไม่ได้ก็ปล่อย แต่ถ้าจับกลับมาได้ กูให้ต่อจากกูครบทุกคน”                                                “ฮ่า ๆ ๆ” กลุ่มชายฉกรรจ์ที่คาดว่าคงเป็นลูกน้องหัวเราะร่วนถูกใจ แต่คนตัวเล็กกลับยืนสั่นแล้วสั่นอีก เธอกลั้นหายใจและแทบไม่กล้ากระดิกเพราะความกลัว                                                                       “ไปสิ....ไปให้ไกลที่สุด อีกห้านาที ฉันจะตามไปเล่นซ่อนแอบเธอ” ใบหน้าเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มเหมือนรู้มั่นใจเหลือเกินว่าทุกอย่างตกอยู่ในการควบคุมของเขาโดยไม่มีทางผิดพลาด มือใหญ่ผลักไปตรงหัวไหล่มนของหญิงสาว เธอเหลือบมองปราดแล้วหันไปสำรวจเส้นทางพร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปากขบคิด             หากเธอไม่รอด...ก็จะต้องตกนรกทั้งเป็นโดยเงื้อมมือของพวกคนใจทรามเหล่านี้             “!” ริมฝีปากบางเฉียบเม้มเข้าหากันแต่ไม่นึกลังเล เธอรีบกระโจนลงบันไดแล้วสาวเท้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตท่ามกลางสายตาและเสียงหัวเราะที่ดังตามหลัง  เสียงนั้นหลอกหลอนให้เธอกลัวจนสติกระเจิดกระเจิง มุ่งหน้าสู่ป่ารกทึบที่ไม่คุ้นเคย แม้อาจมีอันตรายรออยู่ข้างหน้าแต่ก็คงน้อยกว่าเดรัจฉานในร่างคนเหล่านั้น             “คุณแดน...ถ้าแม่ฝรั่งนั่นหนีหายเข้าป่าไปจะทำยังไงครับ กว่าจะจับตัวมาได้ดักรออยู่ตั้งหลายวัน”             เจ้าของชื่อเล่นสั้นๆ หันมองคนถามแล้วยิ้มมุมปาก สายตายังคงมองไปยังทางที่ร่างเล็กเพิ่งจะวิ่งหายลับไปตามลำเนาไพรที่มีต้นไม้ใบหญ้ารกสูง                                                                            “จะไปได้สักกี่น้ำ...ป่าทางนั้นก็เป็นเหว” เขาหันไปทางขวาเมื่อสื่อถึงทิศทางนั้น แล้วพยักหน้าหันไปทางฝั่งซ้ายแต่สายตาไม่ได้กะพริบเคลื่อนไปจากทิศทางเดิม                                                        “ทางนั้น...ก็เป็นลำธารใหญ่ อีกอย่างแม่นั่นก็ทิ้งร่องรอยให้ตามได้ไม่ยากเสียหน่อย”             “งั้นตามไปเลยไหมครับ นี่ก็จะมืดแล้วเดี๋ยวจะตกใจเสียสติเอาได้นะครับ” อีกคนเสนอความคิดเห็น                                                         “หึ...เป็นบ้าไปเลยก็ดี แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกมันง่ายไป พวกพี่ไปเตรียมหุงหาอาหารกินกันเถอะส่วนแม่นั่นเดี๋ยวฉันจัดการเอง” เขาพูดพลางเดินไปหยิบปืนยาวที่วางอยู่บนแคร่ซึ่งคนอื่นๆ นั่งดื่มเหล้ากันอยู่ ทุกคนหันมองแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร “อย่าเล่นสนุกนานนักนะครับคุณแดนสรวง ในป่าในดงเวลามืดค่ำมันอันตราย”             “อืม...” แดนสรวงเช็กความเรียบร้อยของปืนกระบอกนั้น แล้วยกตั้งขึ้นบนบ่า ก้าวเท้าเร็วไปตามล่าเหยื่อ ที่เขาเพิ่งปล่อยให้หนี  

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook