#คุณภามคะขา 12

1826 คำ
#คุณภามคะขา 12 หลังจากช่วงเวลาเช้าฉันไปส่งพี่ภามเข้าสอบและขับรถไปหาพี่คุณ ฉันก็อยากจะตีพี่ชายตัวเองเหลือเกินเพราะเรื่องที่เครียดคือทำให้คนที่ตัวเองชอบเข้าใจผิดฉันเองก็ดุไปหนึ่งรอบถ้วน ถึงกระทั่งช่วงบ่ายฉันเข้าไปรับพี่ภามที่คณะเจ้าตัวหลังจากที่เขาบอกว่าสอบเสร็จแล้ว ขากลับฉันอาสาขับรถเองเพราะอยากให้พี่ภามได้พัก คนบอกไม่ง่วงพอขึ้นรถก็ชวนคุยไม่หยุดกระทั่งถึงคอนโด คนไม่ง่วงเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟาทันที และหลับลึกขนาดที่ฉันช่วยถอดเสื้อตัวนอกของเขายังไม่มีทีท่าจะตื่นแต่ครางอืออาในคอแล้วหลับต่อโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย ช่วยปรับแอร์และเอาผ้าห่มออกมาคลุมร่างให้เขาจากนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายได้พักผ่อนหลังจากที่อดหลับอดนอนมานาน เกือบห้าโมงเย็นพี่ภามรู้สึกตัวตื่นพร้อมกับนั่งมึนงงอยู่บนโซฟา ฉันที่นั่งดูการ์ตูนอยู่บนพื้นหน้าโซฟาได้แต่มองคนเพิ่งตื่นด้วยรอยยิ้มขำ “ปวดหัว” คนเพิ่งตื่นงอแงขยับเข้ามาซบหน้าที่ไหล่ก่อนจะนิ่งเงียบไป “หลับอีกรอบหรือเปล่าเนี่ย” แกล้งเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไป “ยังครับ” “งั้นก็ไปอาบน้ำจะได้ไปหาอะไรกินกัน” “ครับ” คนเพลียจากการสอบขยับลุกออกจากโซฟาเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ส่วนฉันก็นั่งดูอนิเมะต่อ มีวันหยุดก็ขอใช้ให้คุ้มหน่อยแล้วกัน เทอมหน้ายังต้องเจออะไรอีกหนักหน่วง กว่าเราจะมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดก็ทำเอาเหนื่อยเอาการเพราะฉันเลือกร้านไม่ได้ พี่ภามเองก็เลือกไม่ได้ นั่งคิดกันอยู่นานก็ตัดสินใจให้อีกฝ่ายจอดรถหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้แทนเพราะถ้าให้เลือกคงไม่ได้กินกันสักที “พรุ่งนี้อยากไปไหนไหม?” พี่ภามเอ่ยถามระหว่างที่เรากำลังนั่งรอก๋วยเตี๋ยวและเครื่องเคียงอื่น ๆ ที่สั่งไป “ไม่อยากไปจะนอนทั้งวัน พี่น่ะกลับห้องบ้างค้างกับหนูจะสองสัปดาห์แล้วนะ” “ไล่?” พี่ภามทวนถาม “ก็เปล่า อยากให้กลับไปพักบ้าง” “ก็ได้ ๆ พรุ่งนี้แล้วกันวันนี้ไม่อยากขับรถแล้ว” พี่ภามยอมในที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าเขาจะไม่กลับกันนะ เอาเถอะฉันอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ “จะไม่ออกไปไหนใช่ไหม?” สองวันถัดมาพี่ภามเอ่ยถามระหว่างที่ฉันยืนส่งเขาที่หน้าห้อง วันนี้ได้ฤกษ์ที่เจ้าตัวจะกลับห้องแล้วล่ะ หลังจากที่ลีลาอยู่วันสองวัน “ไม่ค่ะ เย็นแล้ว” “เดี๋ยวพี่สั่งมื้อเย็นให้ จะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอกมีอะไรโทรหาพี่ทันทีเข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ พี่เอารถ...” “ไม่ครับ พี่ไม่เอารถไป เดี๋ยวให้เพื่อนมารับเราก็พักเถอะ” “ถึงแล้วบอกด้วยได้ไหม?” เลียบเคียงถาม พี่ภามยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าตกลง เมื่ออีกฝ่ายออกจากห้องฉันก็กลับเข้ามาดูอนิเมะต่อ ฉันปิดเทอมแค่สองสัปดาห์เอง พรุ่งนี้ฉันก็ต้องกลับบ้านด้วยเดี๋ยวพี่คุณจะเข้ามารับไม่ต้องขับรถไปเอง หลังจากพี่ภามออกจากห้องเกือบยี่สิบนาทีอีกฝ่ายก็ส่งข้อความเข้ามาบอกว่าถึงห้องแล้วรวมถึงรูปเจ้าตัวบนเตียงนอน ฉันส่งสติกเกอร์กลับไปจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ จวบจนหกโมงเย็นพี่ภามบอกว่าสั่งอาหารให้แล้วถ้าถึงจะโทรบอกอีกที แม้จะอยู่ห่างกันแต่เขาก็ยังคงสั่งอาหารมาให้เสมอ ขณะที่จะกินมื้อเย็นพี่ภามก็วิดีโอคอลมาค้างสายไว้โดยที่เขาก็กินข้าวสลับกับดูไอแพดเงียบ ๆ ไม่ต่างจากฉันเลยสักนิด ทำไมห้องเขาดูกว้างมากขนาดนั้นนะ เราทั้งสองเงียบแต่ยังค้างสายไว้ต่างฝ่ายต่างทำกิจกรรมส่วนตัว หลังจากกินข้าวเสร็จฉันนั่งกินเค้กที่โต๊ะกินข้าวไม่ลืมหยิบผลไม้ออกมานั่งกินด้วย (กินขนมอีกแล้ว) “ชิ้นแรกของวันไงคะ วันนี้ยังไม่ได้กินเลย” มองสบตากับคนตัวโตที่อยู่ปลายสายและกำลังมองมาด้วยสายตานิ่ง ๆ ข้อตกลงระหว่างเราคือให้ฉันลดขนมและเครื่องดื่มหวาน ๆ ฉันยังจำได้ดี (ชิ้นเดียวนะ หลัง ๆ มากินเยอะเกินไปพี่เป็นห่วง) “รับทราบค่ะ พี่อาบน้ำหรือยัง?” (ยังครับ เพื่อนบอกจะมาหา) “หือ? เพื่อน ๆ พี่อะนะ” ทวนถามมือก็ยื่นไปหยิบพริกเกลือมาจิ้มกับผลไม้หลังจากกินเค้กหมดไปหนึ่งชิ้น (ใช่ครับ ที่จริงก็หาที่ดื่มนั่นแหละแต่ไม่อยากไปร้านมันเลยขอมาที่นี่) “อ๋อ ดื่มก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ” แม้จะอยากถามอีกหนึ่งคำถามแต่ฉันก็ไม่กล้า มันคงดูละลาบละล้วงเกินไปหากจะถามเขาออกไปจริง ๆ (อยากถามอะไรพี่ไหม?) จู่ ๆ พี่ภามก็เอ่ยถามฉันกลับมา คล้ายกับรับรู้สิ่งที่ฉันข้องใจ แต่ว่าฉันน่ะไม่อยากทำให้เขาอึดอัดหรือรู้สึกไม่สบายใจเลย “ไม่มีค่ะ เดี๋ยวหนูต้องวางก่อนนะคะ” (คะขา...) “พี่ภาม หนูไม่มีอะไรถามจริง ๆ แต่จะเก็บของแล้วค่ะพรุ่งนี้พี่คุณจะมารับ ถ้าห้องรกนะหนูโดนบ่นแน่ ๆ เลย หนูไม่อยากโดนบ่น” มองอ้อนหวังให้เขาไม่ถามต่อ พี่ภามมองนิ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ยอมฉันในท้ายที่สุด (ครับ เก็บเสร็จแล้วอาบน้ำนะ โทรมาเช็กพี่ด้วยห้ามลืม) พี่ภามบอกย้ำ ฉันพยักหน้ารับก่อนจะกดวางสายในที่สุด แต่จะให้โทรไปหาเขาน่ะ โทรไปเช็กในสถานะอะไร ทำไมถึงทำเหมือนให้ฉันมีความหวังกันนะ 22.46 น. ฉันที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ออกอาการงุ่นง่าน ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ ในหัวเอาแต่วนเวียนคิดถึงประโยคที่ใครบางคนเอ่ยบอกเมื่อหลายชั่วโมงก่อน “คะขา ทำไมฟุ้งซ่านแบบนี้” เอ่ยบ่นตัวเองอย่างหัวเสีย เพราะสิ่งที่ยังค้างคาภายในใจ อ่านหนังสือก็แล้ว ดูอนิเมะก็แล้ว คุยกับเพื่อนในกลุ่มก็แล้วก็ยังคิดฟุ้งซ่านเช่นเดิม ฉันเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นหยิบรีโมตกดเปิดทีวีจากนั้นก็นั่งดูหนังไปเรื่อย ๆ จวบจนห้าทุ่มครึ่งฉันเพิ่งเข้าใจว่าจิตใจว้าวุ่นเป็นยังไงดูหนังที่ในหัวมีแค่เรื่องใครคนนั้น เมื่อทนความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ไหวจึงตัดสินใจปิดทีวีแล้วหยิบโทรศัพท์เดินกลับเข้าห้องนอน (ช้า...) คำแรกที่ถูกทักทำให้ฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อย ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังรออยู่ “ขอโทษค่ะ” (ไม่ได้ว่าครับ แต่โทรหาปกติสี่ทุ่มก็อาบน้ำเสร็จแล้ว...เปิดกล้องครับ) พี่ภามแอ่ยบอกฉันยกโทรศัพท์ออกห่าง ปลายสายกดเปิดกล้องเป็นวิดีโอคอลแล้วจากนั้นฉันถึงได้เปิดฝั่งตัวเองบ้าง พี่ภามยังสามเสื้อตัวที่เขาออกจากห้องเมื่อช่วงเย็น “ยังไม่อาบน้ำเหรอ?” (ครับ ลงมาห้องข้างล่างน่ะ//มันหวงห้องส่วนตัวณมล มันให้พวกพี่มาที่ห้องนี้นี่แหละ ห้องใหญ่มันไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลย) เสียงที่ตะโกนแทรกเข้ามาฉันจำได้ว่าเป็นเสียงพี่ณอน แล้วก็จริงอย่างที่คิดเมื่อเจ้าของเสียงโผล่เข้ามาในหน้าจอพร้อมกับมือยกแก้วเครื่องดื่มให้ฉันได้มองเห็นด้วย (มาดื่มด้วยกันไหม) “พี่ ๆ ดื่มเลยค่ะถ้าเมาห้ามขับรถนะคะ” บอกอย่างเป็นห่วง ทั้งเพื่อนพี่ภามและตัวเขาเอง ฉันกลัวว่าเขาจะขับรถออกไปนั่นไปนี่หลังจากดื่ม (โอเค ได้ยินแล้วนะน้องบอกว่าห้ามขับรถให้พวกกูนอนนี่เถอะ) พี่ณอนหันกลับไปบอกพี่ภามที่นั่งหน้านิ่งอยู่ ก็หน้าปกติเขานั่นแหละ คนอื่นอาจจะคิดว่าเขาดุหรือหยิ่งแต่ไม่ใช่นะนั่นหน้าปกติเขา เขาก็ยิ้มก็หัวเราะได้แต่ถ้าไม่ยิ้มก็จะดูเหมือนดุแค่นั้นเอง (อือ จะค้างก็ค้าง แค่ส่วนนี้ห้ามขึ้นไปข้างบน) (เยี่ยมเลย!) เสียงพี่ณอนและเพื่อนคนอื่น ๆ ของเขาร้องดีใจชวนกันดื่มต่อ นั่นทำให้ปลายสายหันมามองฉันนิ่ง ๆ สลับกับหันไปมองเพื่อนเมื่อถูกเอ่ยเรียก “...” เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบอะไรหรือถามอะไรกลับมา ฉันเองก็เงียบเช่นเดียวกัน ไม่รู้สิ พอเห็นว่าคนที่เดินมานั่งข้างเขาแทนพี่ณอนเป็นใครฉันก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจแต่ต้องห้ามตัวเองเอาไว้เพราะรู้ตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ น่าตลกดีเพียงแค่เขาเข้าข้างครั้งเดียวแอบเผลอคิดเข้าข้างตัวเอง ฉันที่ไม่เคยติดตามข่าวอะไรพอวันนี้เผลอไปเห็นข่าวซุบซิบของพวกไฮโซถึงได้เห็นข่าวของพี่ภามและพี่คนนั้นที่ฉันเคยมีเรื่องด้วย (คะขา...) “...” (หลับแล้วเหรอ?) เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันที่ดึงผ้าห่มคลุมจนถึงใบหน้าทำได้แค่นอนนิ่งไม่เอ่ยตอบเขา อีกหน่อยเขาก็คงจะวางสายนั่นแหละ (ภาม เรื่องเราจะเอายังไง เมื่อไหร่ภามจะเลิกยุ่งกับเขาสักที) (แซนหยุดพูดเรื่องนี้สักทีมันน่ารำคาญ) เสียงนี้ฉันจำได้ว่าเสียงพี่ภาม (เราเป็นคู่หมั้นกันนะภาม...) (อย่าประชดแซนแบบนี้เลยนะ // หุบปากซะแซน) คู่หมั้น? ฮ่า ๆ ๆ ๆ เกือบแล้วไหมล่ะคะขา เกือบไปเป็นมือที่สามของพวกเขาแล้วไหมล่ะ ฉันแสร้งขยับตัวจนโทรศัพท์คว่ำหน้าลงจากนั้นก็หยิบหมอนมาวางทับโทรศัพท์อีกชั้น ก่อนจะขยับลงจากเตียงเงียบ ๆ เดินเหม่อออกไปที่ห้องนั่งเล่น ภายในโซนนอกห้องนอนตอนนี้มีเพียงแสงสลัวเท่านั้นที่ยังส่องให้ความสว่างอยู่ หมอนใบใหญ่ถูกยกขึ้นมากอดแนบอก เหม่อมองหน้าจอทีวีใหญ่ที่ถูกเปิดอนิเมะไว้อยู่เป็นเพื่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม