เวลาล่วงผ่านไปจวนจะตีหนึ่ง มนต์มีนาที่ยังนอนเล่นโทรศัพท์รอจวินบนเตียงก็ได้รับสายจากเขา หญิงสาวรีบกดรับทันที
“นั่งแท็กซี่มารับหน่อยดิ เมา ขับรถไม่ไหวแล้ว”
ปลายสายพูดเสียงรวน
“อืม อยู่ที่ไหนล่ะ”
“ผับไอ้ไนต์ นั่งแท็กซี่มาระวังด้วย ถึงแล้วเข้ามาเลย”
“โอเค รอแป๊บนะ”
“อืม”
จวินวางโทรศัพท์ลง ที่จริงเขาก็ไม่ได้ถึงขั้นเมาขนาดขับรถไม่ได้และควบคุมสติไม่อยู่ แต่เขาก็ไม่คิดประมาทกระทำการที่มีความเสี่ยงต่อเพื่อนร่วมทาง ทางที่ดีและสมควรที่สุดตอนนี้คือให้เมียมารับดีกว่า
กรภพหันมาแซวเพื่อนเมื่อเห็นว่าจวินยังคุยกับเมียอย่างห่วงใย
“กูนึกว่าคืนนี้มึงจะไปลองกลิ่นใหม่กับน้องคนนั้นซะอีก อุตส่าห์ชงให้ว่ามึงเพิ่งเลิกกับเมีย ฮ่า ฮ่า”
หนุ่ม ๆ ที่มีแอลกอฮอล์ไหลวนอยู่ในเส้นเลือดพากันพูดด้วยความคึกคะนอง ทำเอาจวินสะบัดหน้า เหยียดยิ้มเยือกเย็นตรงมุมปาก
“อย่าให้มี่ถึงกับสาปส่งกูเลย จะเลิกก็เลิกให้มันดี ๆ เถอะ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องให้ติดค้าง”
“โถ พ่อพญามารในร่างเทพบุตรสุดหล่อ อยากจะเลิกกับเมียใจจะขาดยังมาทำเป็นสงสาร ถ้าสงสารอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้ก็ไม่ต้องเลิกเปล่าวะ อยู่ ๆ กันไปจนแก่จนเฒ่าจบ หมั่นไส้เว้ย”
กรภพโพล่งขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้เหลือเกิน จวินจึงสวนขึ้นว่า
“กูมีวิธีของกู มึงไม่ต้องมายุ่งให้มาก แล้วตอนมี่มาถึงก็อย่าปากหมาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนล่ะ ไอ้เกมมึงดูไอ้กรด้วยแดกเหล้าเยอะกว่าเพื่อน ก็ปากหมาแบบนี้”
“เออ ๆ เดี๋ยวกูพามันออกไปหลังร้านก่อน”
เพื่อนอีกคนรับปากก่อนจะลากตัวกรภพที่เมาที่สุดออกไปหลังร้าน กระทั่งมนต์มีมาเดินเข้ามาพาตัวจวินออกจากร้าน เธอประคองร่างผู้ชายที่สูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรมายังรถสปอร์ตหรู ระหว่างทางก็ยังคอยถามด้วยความเป็นห่วงว่า
“อยากอ้วกรึเปล่า”
“ไม่”
เมื่อเดินกันมาถึงรถหญิงสาวก็ยื่นมือออกมาเปิดประตูฝั่งคนโดยสารจัดการให้เขาเข้าไปนั่งจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับและขับกลับคอนโดมิเนียม เมื่อมาถึงจวินก็เดินแยกตัวเข้าไปในห้องนอนเล็กซึ่งไม่ใช่ห้องที่ใช้นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน หันมาบอกเพียงสั้น ๆ ว่า
“คืนนี้ฉันเมา จะนอนห้องนี้ ไม่ต้องเข้ามานะ”
มนต์มีนายืนนิ่งอยู่กับที่ มือที่จับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดพลันหมดเรี่ยวแรงเมื่อได้ยินคำบอกว่าไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่มย่าม
ตอนคบกันแรก ๆ ไม่มีวี่แววจะเป็นแบบนี้เลย ทั้งสุภาพ อ่อนโยน พูดจาดี สารพัดจะเอาอกเอาใจ ยิ่งตอนเมาชีพจรก็ไหลลงมารวมกันอยู่ที่อาวุธประจำกายปลุกปล้ำเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ช่วงหลังมานี้ไม่เคยคิดอยากจะแตะต้อง
ก็รู้สึกนะ แต่ก็ทน เพราะว่ารักไง
มนต์มีนากลับเข้ามานอนอยู่บนเตียงกว้างที่เคยให้ความอบอุ่น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความหนาวเหน็บที่เกาะกินใจมากขึ้นทุกวัน กว่าจะข่มตาหลับได้เวลาก็ล่วงเลยมาจนใกล้ฟ้าสาง กระนั้นเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์ก็ดังปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาในเวลาเดิม นั่นคือหกโมงครึ่ง สิ่งแรกที่หญิงสาวทำคือลุกไปดูชายหนุ่มที่นอนอยู่อีกห้องหนึ่ง มือเรียวจับลูกบิดประตูแต่เมื่อออกแรงหมุนปรากฏว่าประตูล็อกจากด้านใน หญิงสาวชะงักนิ่งไปอึดใจพร้อมกับผ่อนลมหายใจยาวออกมาก่อนจะผละออกมาจากตรงนั้น
จวินคงกลัวว่าเธอจะเข้าไปปลุกเขาตอนนอน
มนต์มีนาจึงเปลี่ยนมาเตรียมอาหารเช้าให้ชายหนุ่มเผื่อเขาตื่นขึ้นมาจะได้ไม่ต้องรอ เธอทำทุกอย่างให้เขาด้วยความเต็มใจและถ้าจะให้ทำเช่นนี้ไปตลอดชีวิตเธอก็ไม่มีปัญหา ถึงใครจะบอกว่าหญิงชายเท่าเทียมกัน ผู้หญิงมีความสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้ไม่แพ้ผู้ชาย และบ่อยไปที่หาได้มากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ชายเป็นผู้นำเสมอไป มันก็จริง แต่สำหรับเธอ เธอยกให้เขาเป็นผู้นำและเป็นที่หนึ่งเสมอ เขาเป็นคนเดียวในชีวิตที่เธออยากจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ อยากตื่นเช้ามาเตรียมอาหาร อยากดูแลทุกอย่างให้ ถ้าไม่มีเขาเธอก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวแล้ว เบอร์ติดต่อฉุกเฉินที่ลงไว้ในเอกสารต่าง ๆ ก็เป็นเบอร์ของเขาที่เธอจำขึ้นใจ
มันอาจดูโง่ ที่ยอมวางชีวิตไว้ในอุ้งมือคนอื่น แต่เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องโง่หรือฉลาด เธอคิดว่ามันคือความรัก ถ้ารักก็เต็มใจยอมทุกอย่าง
จวินเปิดประตูออกมาจากห้องในเวลาเกือบเก้าโมงแล้ว เขาอาบน้ำเสร็จจึงเดินมาเลือกชุดในห้องนอนใหญ่ซึ่งชุดเหล่านั้นมนต์มีนาเป็นคนจัดการรีดเตรียมไว้ให้ทุกชุด แขวนเก็บในตู้อย่างเป็นระเบียบ แยกเสื้อกับกางเกง เสื้อทำงานกับเสื้อใส่ปกติเป็นสัดส่วนเรียบร้อย ไม่นานชายหนุ่มก็เดินออกมาด้วยชุดที่พร้อมจะออกไปทำงาน
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไป ขอบคุณค่ะ