หญิงสาวถามเพราะรู้สึกประหลาดใจจริงๆ อาของเธอเรียนโรงเรียนสตรีมาโดยตลอด ส่วนมหาวิทยาลัยก็จบจากคณะอักษรศาสตร์ซึ่งมีผู้ชายเรียนน้อยมาก แล้วจะไปเจอสองหนุ่มที่ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะโคจรมาพบกันได้อย่างไร
“อา...เอ้อ ไม่ได้รู้จักเขาอย่างเป็นทางการหรอกจ้ะ” อินทิราอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียงนัก
คำตอบที่ได้ยิ่งสร้างความงุนงงให้อิงลดามากขึ้น “ไม่เป็นทางการ หมายความว่าอย่างไรคะ”
คนถูกถามเงียบไปครู่หนึ่ง “คุณเรนกับคุณเคนเป็นนักฟุตบอลชื่อดังของโรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนของอา เวลาเพื่อนๆ พากันไปเชียร์ก็ลากอาไปด้วยแทบทุกครั้ง พวกเขาสองคนเป็นขวัญใจของนักเรียนสาวๆ ในสมัยนั้น ใครไม่รู้จักจะถือว่าเชยเลยแหละจ้ะ”
คนเล่าไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดว่าเธอเองเป็นหนึ่งในสาวๆ เหล่านั้นด้วยเช่นกัน ทว่าเป็นการแอบชื่นชมเงียบๆ ไม่แสดงออกให้ใครรู้ แม้แต่ในกลุ่มเพื่อน และเป็นเอามากจนถึงขั้นแอบรัก เพราะสองหนุ่มคนดังเคยมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสนิทของเธอด้วย
ไม่คิดเหมือนกัน...ว่าอาการพัปปีเลิฟที่เกิดขึ้นในวันนั้น จะส่งผลให้ปัจจุบันไม่สามารถลืมเขาได้เลยด้วยซ้ำ การแอบรักข้างเดียวนี่มันช่างทรมานใจดีจริงๆ
“น้ำอิงก็รู้ว่ารูปร่างหน้าตาอย่างอา คงไม่เป็นจุดสนใจของเขาหรอกจ้ะ” อินทิราเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงกึ่งน้อยอกน้อยใจ
“ทำไมอาแหนมคิดอย่างนั้นล่ะคะ ใครมาว่าอาของน้ำอิงไม่สวยจะตบให้ปากฉีกเชียว” อิงลดาพูดด้วยสีหน้าขึงขังและตามมาด้วยน้ำเสียงหมิ่นๆ “อย่างคุณเคน น้ำอิงเชื่อว่าถึงปัจจุบันก็คงเป็นขวัญใจของสาวๆ อยู่เหมือนเดิม แต่นายลอราชอะไรนั่นไม่อยากจะเชื่อ หน้าตาไว้หนวดเคราราวกับโจร แถมมีบอดี้การ์ดติดตามอีกนะคะ ทำยังกับพวกมาเฟียในหนังเลยค่ะอาแหนม” แม้จะรู้ว่าความคิดของตัวเองออกจะลำเอียง แต่เธอไม่ชอบหน้าเขานี่นา อยากมาพูดข่มขู่ทำไมล่ะ
นอกจากหน้าตาจะเหมือนโจร ยังทำตัวอย่างกับเป็นนักเลงอีก
“น้ำอิงอคติกับเขาไปหรือเปล่าจ๊ะ ต้องอย่าลืมนะว่าผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายหน้าตาดิบๆ เถื่อนๆ ส่วนเรื่องบอดี้การ์ดส่วนใหญ่คนดังๆ รวยๆ ก็มักจะมีกันอยู่แล้วนี่จ๊ะไม่เห็นแปลก”
อินทิราพูดจากประสบการณ์การเขียนนิยายของเธอเอง ถ้าเรื่องไหนเขียนให้พระเอกมีบุคลิกเป็นเช่นที่เธอพูด หนังสือจะขายดิบขายดี คนอ่านจะชอบเป็นพิเศษ ยิ่งพระเอกใจร้าย ใจดำ โหด ดิบ เถื่อน เอาแต่ใจตัวเองกับนางเอก และมีบทตบๆ จูบๆ มากเท่าไหร่ คนอ่านจะชอบเป็นพิเศษ
“แต่ช่างเถอะ เราอย่าไปพูดถึงเขาเลย หวังว่าคงจะไม่วนเวียนมาเจอะเจอกันอีกหรอกค่ะ” อิงลดาตัดบท จากนั้นก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเพื่อนอนหลับพักผ่อน ทิ้งอินทิราที่เวลานี้นอกจากจะเขียนนิยายไม่ออกแล้ว ยังมีแต่เรื่องของคนที่เธอเคยแอบรักอยู่เต็มสมองไปหมด แทบอยากจะร้องกรี๊ดระบายความรู้สึกออกมาดังๆ นัก
รถบีเอ็มดับบลิว Z4 ที่มีสมรรถนะเยี่ยม โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวเหมาะสมกับรูปลักษณ์สีเหลืองลออ เครื่องยนต์ 220 แรงม้า มีภูวดลเป็นผู้ขับ กำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงตรงไปยังอำเภอปากช่อง โดยมีลอราชนั่งอยู่ด้านข้าง ตามมาด้วยรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีดำซึ่งมีดอนกับแดนขับตามมาติดๆ
“ไอ้เคน ตกลงมึงริจะเป็นนักแข่งรถหรือไงวะ” ลอราชค่อนขอดเพื่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ของรถที่ขับหรือสีของตัวรถชวนให้คิดไปอย่างนั้น
คนถูกค่อนหัวเราะเสียงดัง “กูต้องขับรถแบบนี้แหละถึงจะเหมาะ มึงก็รู้ว่ากูทำหนังสือเกี่ยวกับความเซ็กซี่ของผู้หญิง รถที่ขับก็ต้องโฉบเฉี่ยวไฉไลหน่อย ไม่งั้นมันจะไม่เข้ากัน”
คำตอบแบบกำปั้นทุบดินของผู้เป็นเพื่อน ทำให้เจ้าของดวงหน้าดิบเถื่อนส่ายไปมาอย่างไม่เห็นด้วย
“กูไม่เห็นจะชอบเลย ไอ้รถคันเล็กๆ นั่งได้น้อยคนของมึง อย่างกูต้องพวกรถฮัมเมอร์โน่นถึงจะเหมาะ” รถที่ลอราชพูดถึงเป็นพวกรถขับเคลื่อนสี่ล้อคันใหญ่ที่เขากำลังมองๆ หามาใช้อยู่
“เออ รถแบบที่มึงพูดมันก็เข้ากับหน้าโหดๆ เถื่อนๆ ของมึงนั่นแหละ กูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมึงต้องไว้หนวดไว้เคราราวกับโจรห้าร้อยแบบนี้ด้วยวะ หน้าตาของมึงถ้าโกนหนวดออกแม้แต่พวกดาราหล่อๆ ก็ยังแพ้มึงเลยว่ะ”
ภูวดลส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจในตัวเพื่อนสนิทนัก พลางชำเลืองมองร่างสูงใหญ่ในชุดกางเกงขาสั้นสีเขียวขี้ม้ากับเสื้อโปโลสีดำ ที่ปลดกระดุมจนเห็นไรขนประปราย ท่อนขาขาวๆ ที่ประกอบด้วยเส้นขนเรียงตัวกันอย่างสวยงามของเพื่อนแล้วก็อมยิ้ม
“ขาของมึงนี่ขาวกว่าหน้าของผู้หญิงบางคนเสียอีกนะไอ้เรน เสียแต่ขนมันเยอะไปหน่อยเท่านั้น”
“มึงไม่ต้องมาว่ากู มึงเองก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากู” ลอราชย้อนให้ เพราะคนพูดก็แต่งตัวไม่แตกต่างจากกันนัก แม้จะสวมยีน แต่ขนที่แขนก็มีไม่น้อยไปกว่าเขา แล้วสายตาคมปลาบก็เหลือบเห็นนิยายเล่มหนึ่งวางอยู่ตรงข้างๆ ประตูรถจึงหยิบขึ้นมาดู ครั้นเห็นชื่อเรื่อง ‘รักซ้อนซ่อนเสน่หา’ บนหน้าปก ก็หันไปถามเพื่อนอย่างแปลกใจ “มึงอ่านหนังสือนิยายรักพวกนี้ด้วยหรือวะไอ้เคน”