หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วเจียงหนานก็กลับมาถึงบ้านพอดีที่ฮุ่ยเจินกำลังทำอาหารอยู่ในครัวพอดี
" พี่รองให้ฉันช่วยนะคะ "
" อืม เอาสิ " ทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารเย็นจนเสร็จก่อนที่ทุกคนจะกลับมาที่บ้าน นอกจากนี้ที่บ้านยังต้องต้อนรับแขกอีกสองคน พวกเขาคือคู่หมั่นของพี่รองฮุ่ยเจิน และพ่อของคู่หมั่น ทั้งสองจึงเข้าครัวไปทำอาหารเพิ่มอีกสองอย่าง
ครอบครัวของคู่หมั่นนั้นมีเพียงพ่อและพี่ชายอีกสองคน ส่วนแม่นั้นเสียไปตั้งแต่พวกเขายังเด็ก คู่หมั่นของพี่รองมีชื่อว่า ห่าวซวน เขาอายุ 20ปีมากกว่าพี่รอง 2ปี ทำงานโรงงานเย็บผ้าอยู่ในเมือง ได้รับเงินเดือนราวๆ 25หยวนต่อเดือน
ทั้งคู่พบกันเมื่อปีก่อนจึงได้หมั่นหมายกันเอาไว้รอให้ทางห่าวซวนเก็บเงินสักก้อนจึงจะมาแต่งพี่รองไปอยู่ในเมืองด้วย และวันนี้พวกเขาก้มาคุยเรื่องแต่งงานของทั้งคู่
" ฮุ่ยเจินเองก็หมั้นกับลูกชายฉันมานานแล้ว เห็นทีว่าจะจัดงานแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว พวกเธอคิดว่ายังไง "
" หลังเก็บเกี่ยวก็หน้าจะไม่มีปัญหานะ "
" ดี งั้นตกลงเอาตามนี้ "
หลังตกลงกันแล้วทุกคนก็ร่วมกันกินอาหารจนอิ่มก่อนจะแยกย้ายกันไป เธอกับฮุ่ยเจินนั่งคุยกันอยู่ในห้องสองคน เนื่องจากฮุ่ยเจินเป็นผู้หญิงเหมือนกันจึงมาขอคำแนะนำจากน้องสะใภ้สาม
" สะใภ้สามคือว่า พี่รองไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เธอพอจะแนะนำพี่ได้ไหม ว่าเธอใช้อะไรใบหน้าถึงได้สดใสไม่มีสิวแล้วยังขาวผ่องแบบนี้อีกด้วย "
" ฉันมีของดีนะสิคะ เอาแบบนี้พี่รองเอาไปใช้ดูก่อน แต่ว่าเวลาทำงานพี่รองต้องหาผ้าคลุมหน้าให้มิดเหลือแค่ดวงตาก็พอ เพราะแดดมันจะทำให้พี่รองดำคล้ำไม่สดใส ถึงแม้จะใช้ของดีแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ค่ะ "
" อืม เข้าใจแล้ว พี่จะทำตามคำแนะนำของเธอ ส่วนนี่ถ้าพี่ใช้ดีแล้วหมดล่ะพี่จะซื้อได้ที่ไหน "
" พี่รองก็มาซื้อที่ฉันไงคะ แต่ว่าราคาแพงอยู่เหมือนกัน กระปุกนี้แม่ฉันซื้อมาจากปักกิ่งในราคา 5หยวน แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญถ้าพี่รองสนใจฉันจะแบ่งให้ก็ได้ "
" อืมตกลง "
หลังจากที่พี่รองกลับออกไปฮุ่ยหมิงก็อาบน้ำเสร็จพอดี เจียงหนานจึงเอาครีมบำรุงให้เขาหนึ่งกระปุกเพื่อทาผิวหน้า ทั้งยังสั่งให้เขาทาเช้าเย็นด้วย
ฮุ่ยหมิงรับครีมไปเขามองดูก่อนจะเปิดฝาขึ้นมาดมกลิ่นของมัน จากนั้นก็ทาทั่วใบหน้าของตนเองแล้วล้มตัวลงนอน ไม่นานนักทั้งสองก็หลับไป
รุ่งเช้าฮุ่ยหมิงตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างทับเขาอยู่ และก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อคนที่ทับคือภรรยาของตนเอง เธอใช้ขาข้างหนึ่งก่ายที่เอวของเขาเอาไว้ แขนอีกข้างก็กอดเขาอยู่ด้วย เขามองใบหน้าของเธอที่ตอนนี้กำลังนอนหลับสบาย ใบหน้าที่ขาวผ่อง ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งได้รูป ปากที่แดงระเรื่อหน้าสัมผัสนั่นทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะลองจูบมันดู
เจียงหนานรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ที่ปากเธอจึงปัดมันออกก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าเขาจูบเธออยู่
" ผะ ผม ผมขอโทษ "
" มะ ไม่ ไม่เป็นไร " ใบหน้าของทั้งสองขึ้นสีแดงด้วยกันทั้งคู่ เจียงหนานรีบออกจากห้องไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ ใครบ้างจะไม่ใจเต้นแรงกัน ชาติก่อนเธอก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ชาตินี้มาได้ไม่นานก็แต่งงานแล้ว
เธอยืนกุมหัวใจตนเองอยู่หน้าห้องก่อนจะเข้าครัวไปช่วยพี่สะใภ้ใหญ่ทำอาหาร เนื่องจากว่าพี่รองและพี่สะใภ้จะผลัดเปลี่ยนกันทำอาหารคนละวัน ส่วนเธอนั้นเลือกเป็นผู้ช่วยของทั้งสองสาวเอง
หลังกินข้าวเช้าทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามเดิมมีเพียงฮุ่ยหมิงเท่านั้นที่ดูไม่ปกติจนฮุ่ยเจินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง
" เจ้าสามเธอเป็นอะไรหรือเปล่า "
" เปล่าครับ ผมปกติดี " ขณะที่ตอบก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงริมฝีปากของภรรยาเมื่อเช้านี้ นั่นทำให้ใบหน้าของเชาขึ้นสีอีกครั้ง
" สงสัยจะคิดถึงภรรยาอยู่ละสิ " ฮุ่ยหยางเอ่ยแซวน้องชาย อาการแบบนี้เขาเองก็เคยเป็นมาก่อน เพราะเขากับอวี้เหมยนันไม่ได้รักใคร่กันมาก่อน แต่เป็นผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านที่จัดการ ด้วยเพราะพ่อตาของเขาเป็นเพื่อนกับพ่อของเขามาตั้งแต่เด็กและทั้งสองให้สัญญากันเอาไว้ว่า เมื่อทั่งคู่มีลูกชาย หญิงจะให้ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น และเขาเองก็แต่งงานกับอวี้เหมยตอนที่อายุแค่ 20ปีเท่านั้น นี่ก็สามปีแล้วที่แต่งงานกัน เขายังไม่มีเจ้าก้อนแป้งออกมาวิ่งเล่นเลยสักคน ทำให้เขาถูกพ่อแม่ตำหนิแทบทุกวัน
" จริงสิเรื่องที่ดินได้เรื่องว่ายังไงบ้างเจ้าสาม "
" ก็รอโฉนดอยู่ครับพ่อ "
" อืม แล้วเรื่องช่างจัดการแล้วหรือยัง "
" ยังครับผมว่าจะทำงานในแปลงนาให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปคุย "
" งั้นก็รีบไปเถอะ ทางนี้ไม่มีงานอะไรมากหรอก พ่อกับพี่ๆทำกันได้ "
" เอางั้นหรอครับ "
" อืมไปเถอะ พี่ใหญ่จัดการเอง " ฮุ่ยหยางเอ่ยบอกน้องชาย ฮุ่ยหมิงจึงกลับเข้าบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเข้าไปในเมืองไม่รู้ว่าจะทันรถของฝ่ายผลิตหรือเปล่า
" คุณจะไปไหนหรือคะ " เจียงหนานที่เสร็จงานจากหน่วยผลิตแล้วกลับเข้ามาที่บ้านพอดี
" ผมจะเข้าเมืองไปคุยกับช่างน่ะ "
" ฉันขอไปด้วยได้ไหมคะ "
" เอาสิ "
" งั้นรอฉันอาบน้ำหน่อยนะคะ " เจียงหนานเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกแต่ตอนนี้เธอกำลังกังวลเพราะเสื้อผ้าของเธอนั้นมีแต่หรูหราเกินไปทั้งนั้นนอกจากชุดใส่ทำงานแล้ว ชุดอื่นล้วนเป็นกี่เพ้าที่สวยงามทั้งสิ้น ในยุคนี้ผู้คนนิยมสวมใส่ชุดกี่เพ้ากันอย่างมาก จึงไม่แปลกใจถ้าเธอจะใส่มัน ถ้าไม่ติดว่ามันหรูหราจนเกินไปละนะ
ฮุ่ยหมิงที่เห็นว่าภรรยายังไม่ออกมาเขาจึงเข้ามาดูเธอ
" เอ่อคือ คุณคะ ฉันไม่มีชุดใส่ มันมีแต่... " เธอเอ่ยบอกกับเขาแล้วยกชุดให้เขาดู
ฮุ่ยหมิงมองดูชุดของภรรยาแล้วรู้สึกว่ามันหรูหราไปจริงๆ เขาจึงเดินไปที่แปลงนาเพื่อขอยืมชุดมาให้เธอ ซึ่งพี่สาวก็อนุญาตและให้เขาไปหยิบห้องได้เลย
เมื่อได้ชุดแล้วทั้งสองก็ออกจากบ้านไปรอรถของฝ่ายผลิตที่จะเข้าเมืองด้วยกัน หลายๆคนที่เห็นว่าทั้งสองมารอรถเพื่อจะเข้าเมืองก็ถามไถ่ทักทายเล็กน้อย ซึ่งเขาเองก็ตอบบ้างเช่นกัน รอไม่นานรถก็มาจอดพอดีทั้งสองจึงขึ้นรถไปในเมือง