เจียงหนานมองดูตลาดในเมืองอย่างตื่นตาตื่นใจ แม้จะเคยเห็นจากในรูปมาบ้างแล้วแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ ในเมืองมีคนใช้จักรยานบ้างแล้ว และมีไฟฟ้าใช้แล้วด้วย
" คุณอยากเดินดูอะไรก่อนไหมครับ "
" ถ้างั้นฉันขอเดินดูแถวๆนี้ได้ไหมคะคุณไปติดต่อช่างคนเดียวได้ใช่ไหม คุณบอกช่างนะคะ ฉันต้องการบ้านสร้งจากอิฐทั้งหมด หลังคามุงกระเบื้องด้วยค่ะ เอา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องโถงและห้องครัว อ่อห้องเก็บเสบียงด้วยค่ะ ทำกำแพงล้อมรอบที่ดินด้วยค่ะ คุณจัดการตามนี้นะคะ นี่เงินค่ะฉันใส่ไว้ให้แล้ว ส่วนกระเป๋านี่ฉันมอบให้คุณถือว่า เป็นของขวัญวันแต่งงานจากฉันนะคะ "
ฮุ่ยหมิงมองกระเป๋าเงินในมือแค่จับก็รู้แล้วว่ามันมีราคาแค่ไหน เขาคงต้องรักษามันอย่างดีเลยเชียว ก่อนจะยิ้มให้เธออีกครั้ง
"ขอบคุณครับ "
" ไม่เป็นไรค่ะ "
หลังจากที่แยกกับสามีแล้ว เจียงหนานก็มาเดินดูร้านค้าในตลาด เธอเห็นร้านค้าประกาศขายจึงได้ถามกับร้านค้าที่อยู่ติดกัน ได้ความมาว่า เจ้าของร้านต้องการขายเพราะจะย้ายไปอยู่ปักกิ่งกับลูกชายที่ตอนนี้ได้เป็นนายทหารแล้ว
เจียงหนานติดต่อเจ้าของร้านทันที เพราะบ้านของเขานั้นอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เธอเดินไปตามทางที่ได้รับมาจากร้านค้าข้างๆกัน จนมาเจอกับบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ติดกับริมน้ำ
เจียงหนานเรียกไม่นานนักก็มีคนมาเปิดประตูให้เธอ
" สวัสดีค่ะ ฉันมาติดต่อเรื่องร้านที่ประกาศขาย "
" อ๋อ สวัสดีครับ เชิญเข้ามาด้านในก่อนครับ ผมจะตามภรรยามาคุยกับคุณ "
" ขอบคุณค่ะ "
" คุณหรือคะที่จะมาซื้อร้านของฉัน "
" ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าร้านนี้ราคาเท่าไหร่หรอคะ "
" 1800หยวนค่ะ ราคานี้รวมกับโต๊ะในร้านด้วย เมื่อก่อนเป็นร้านขายอาหารค่ะ แต่ฉันจะย้ายไปอยู่ปักกิ่งจึงขายมัน "
" ไม่แพง ตกลงค่ะ ฉันซื้อร้านนี้ "
" ถ้าอย่างนั้นเราไปจัดการเรื่องเอกสารกันเถอะค่ะ บอกตามตรงฉันกำลังรอที่จะขายร้านกับบ้านแล้วย้ายตามลูกชายไปนะค่ะ เหลือก็แต่บ้านที่ยังขายไม่ออก "
" บ้านหลังนี้ก็ขายหรอคะ ราคาเท่าไหร่คะเนี่ย บ้านสวยมากฉันชอบบ้านของคุณนะคะ "
" ถ้างั้นฉันขายแค่ 3500 หยวนค่ะ คุณก็เห็นว่าบ้านของเราเพิ่งสร้างไม่นาน ยังใหม่อยู่มาก แถมยังติดริมน้ำแบบนี้ด้วย "
" ค่ะ ฉันตกลงค่ะ งั้นเราไปกันเลยไหมคะ "
สองสามีภรรยาดีใจมากที่สามารถขายบ้านและร้านค้าได้สักที
หลังจากที่จัดการเรื่องเอกสารเสร็จแล้วเจียงหนานก็จ่ายเงินออกไป 5300หยวน ถือว่าวันนี้เธอใช้เงินมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่รู้ว่าค่าสร้างบ้านจะพอหรือเปล่าตอนนี้เธอมีเงินเหลืออยู่ 6200 หยวนเท่านั้น
เธอกำลังคิดที่จะนำของไปขายในตลอดมืดเพื่อหาเงินเพิ่ม อย่างน้อยเพิ่มมาสักนิดก็ยังดี
เจียงหนานเริ่มหิวจึงเดินไปนั่งที่ร้านบะหมี่ข้างทางและสั่งบะหมี่เนื้อมากิน เธอไม่ลืมสั่งกลับไปให้สามีด้วย
ระหว่างนั้นเธอยินว่าเจ้าของร้านบอกกับภรรยาว่าจะเข้าไปที่แห่งนั้นเพื่อซื้อของสำหรับทำบะหมี่พรุ่งนี้ เธอจึงหันไปเสนอขายของกับเขา และได้เงินกลับมา 100หยวน แถมยังได้รู้รหัสผ่านเข้าไปตลาดมืดด้วย
เจียงหนานเดินเข้ามาในตลาดมืดแล้ว เธอหามุมที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตุุหยิบตะกร้าออกมาวาง และนำเนื้อหมู ไก่ ข้าวสาร แป้ง ออกมาวาง เหล่าแม่บ้านที่กำลังเดินหาของเห็นเข้าพอดีจึงได้รีบมาถามไถ่ราคากับเธอ
" น้องสาวหมูนี่ขายชั่งละเท่าไหร่ "
" สามชั้นชั่งละ 10 หยวนค่ะ เนื้อแดง ชั่งละ 8 หยวนค่ะ ไม่ต้องใช้คูปองก็ได้ค่ะ "
" อืมไม่แพง ไม่ต้องใช้คูปองด้วย ฉันเอาสามชั้น 2 ชั่ง เนื้อแดง 3 ชั่ง อุ๊ยมีข้าวสารด้วย ขายยังไงจ้ะ "
" ข้าวสารชั่งละ 8 หยวนค่ะ "
" ฉันเอา 5 ชั่ง คิดเงินได้เลย "
หลังจากที่ลูกค้าคนแรกจากไปคนต่อไปมาก็ทยอยเจ้ามาซื้อกันต่อเนื่อง ตอนนี้ของที่เตรียมไว้ขายมดเกลี้ยงแล้ว เธอจึงคิดว่าพอแล้วจึงนำไข่ไก่และผลไม้ใส่ตะกร้า เครื่องปรุงรสอีกนิดหน่อย ขนมสองห่อแล้วเดินออกไปหาสามีที่ด้านนอก
ฮุ่ยหมิงเขามายืนรอภรรยานานแล้วยังไม่เห็นเธอมาสักทีนี่ก็ใกล้เวลาที่รถของฝ่ายผลิตจะกลับเข้าหมู่บ้านแล้วด้วย เขาเริ่มร้อนใจเพราะเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเกิดปัญหาขึ้นมา แต่ก็เห็นว่าเธอปั่นจักรยานมาหาเขาพอดี
" นี่คุณ "
" อ๋อ ฉันเจอคนรู้จักของพ่อค่ะ ก็เลยขอซื้อต่อเขามา ตั้ง 300 หยวนแหนะ ดีนะที่ไม่ต้องใช้คูปอง กลับบ้านกันเถอะค่ะ "
เธอปั่นจักรยานมาถึงหน้าหมู่บ้านชาวบ้านต่างตื่นตาตื่นใจกับจักรยานของเธอ พวกเขาออกมารอดูจักรยานที่เธอปั่น พวกเขารู้ดีว่าราคาของมันไม่ถูกนักทั้งยังต้องใช้คูปองที่หายากมากด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจเพราะรู้ดีว่าเธอเป็นคนมีฐานะ จึงทำได้แค่อิจฉาเท่านั้น
" นี่เธอดูสะใภ้สามบ้านฮุ่ยสิ นั่นจักรยานเชียวนะ " ชาวบ้าน1
" ใช่ๆๆ ดูสิข้าวของราคาแพงก็กล้าซื้อมาใช้ จิ้ๆๆ " ชาวบ้าน 2
ทุกคำพูดนั้นเจียงหนานได้ยินทั้งหมดแต่เธอไม่สนใจในเมือเธอไม่ได้ขอเงินพวกนั้นมาใช้ทำไมจะต้องสนกันล่ะ