10 O’Clock
หลังจากตกลงกับศิลาไม่ได้ กลายเป็นฉันและเขาก็ต้องมาด้วยกันอยู่ดีเพราะเราอยู่หอเดียวกัน เสียงเพลงจากเวทีเล็ก ๆ ที่ชั้นหนึ่งกำลังเล่นเพลงรักทำนองหวานซึ้ง ฉันเหลือบมองทั่วร้านอย่างตื่นตาตื่นใจ มันไม่ได้เหมือนผับที่จะมีเสียงอึกทึก แต่ผู้คนมากหน้าหลายตาก็ทำให้ฉันรู้สึกประหม่าอยู่ดี ก่อนจะต้องสะดุ้งเพราะนิ้วเรียวของศิลาแตะลงที่ข้างเอว
“ฉันไปนะทำตัวดี ๆ ละ” ศิลายิ้ม
“นั่นเพื่อนนายเหรอ”
กลุ่มคนเกือบยี่สิบคนกำลังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวราวกับผึ้งแตกรัง ทั้งหญิงและชายนั่งอยู่บนถังเบียร์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นเก้าอี้นั่ง และต่อโต๊ะรวมกันจนกลายเป็นงานเลี้ยงขนาดย่อม ไอ้ภาพลักษณ์ของเด็กแพทย์ใส่แว่นหนาเตอะ เหล้ายาไม่ยุ่งมันถูกลบหายไปนานแล้ว ถึงแม้เพื่อนสนิทฉันจะยังใส่เพราะสายตาสั้นก็เถอะ
“ฉันไม่ไปทักได้ไหม”
“อืมไม่ต้องหรอก จะกลับแล้วบอกฉันก่อนนะ” ศิลากระซิบแล้วเดินแยกตัวไปนั่งโต๊ะที่ห่างจากฉันไม่เท่าไหร่
นี่ไม่ต่างอะไรกับการมีผู้ปกครองมานั่งคอยเลย
เขาเป็นตัวแทนแม่ฉันรึไง
ฉันได้แต่ส่ายหน้าเลิกสนใจเพื่อนสนิท แล้วก็ต้องตกใจเสียงกรี๊ดของฟ้าใสที่ดูเหมือนเพื่อนสาวของฉันกำลังพูดคุยอย่างออกรสออกชาติ
ว่าแต่พี่แดนเหนือยังไม่มาสินะ
“มัน! ฟิน! มาก!!!”
“ฟินอะไรกันเหรอ”
“ยัยเพตรามา ทุกคนหยุดพูด! เด็กดีอย่างเพตราเนี่ยทนฟังเรื่องพวกนี้ไม่ไหวหรอก ได้โปรดหยุด!!!” ไลลากลอกตาไปมาแล้วยกมือขึ้นทำท่ารูดซิปปาก ห้ามซินดี้ที่กำลังเล่าเรื่องอย่างออกรสออกชาติทันทีที่ฉันเดินเข้ามา
“กำลังพูดอะไรลับหลังฉันกันห้ะ”
“ก็ซินดี้อะดิ มันเสียตัวครั้งแรกไปเมื่อวาน!” ฟ้าใสเฉลยทันทีไม่สนใจฟังคำทัดทานของไลลา
“ห้ะ!!!”
“ฟ้าฉันบอกแล้วไงว่าห้ามพูด”
“จริงเหรอ” คนอ่อนประสบการณ์อย่างฉันได้แต่ยกมือปิดปากทำตาโต มองไลลาที่กำลังยกมือปิดปากฟ้าใสวุ่นวาย
คนที่ไม่เคยมีแฟน ประสบการณ์เป็นศูนย์อย่างฉันได้แต่นั่งลงอย่างตื่นเต้น มองซินดี้ด้วยสายตาเปล่งประกาย
ทั้งกลุ่มฉันและซินดี้เป็นสองคนที่โสดสนิท แบบไม่เคยผ่านการมีความรักแบบจริงจังสักครั้ง ส่วนไลลาเคยมีแฟนแต่ก็เลิกไปแล้ว ฟ้าใสก็คบกับหนุ่มวิศวะอยู่
“ฉันไม่เห็นจำได้เลยว่าแกมีแฟนน่ะซิน”
“ก็...”
“แกเล่าสิว่ามันดีแค่ไหน” ฟ้าใสตีแขนซินดี้เร่งเร้าให้พูดต่อ
“ไม่ได้ดีย่ะ แต่โคตรดีต่างหาก!!!”
“จริงเหรอ”
“จริงสิ”
“ซินนนฉันไม่ให้แกพูด ไม่ให้ฟัง เดี๋ยวเพตราของฉันใจแตก” ไลลาเบิกตากว้างแกล้งปิดปากเพื่อนแล้วหันมาปิดหูให้ฉัน ท่าทางหวงเพื่อนเกินขอบเขตแบบนี้ เลยมักถูกอีกสองคนมองอย่างหมั่นไส้เสมอ
ถึงฉันจะไม่เคยแต่ไม่ได้หมายความว่าฟังไม่ได้สักหน่อย ยังไงคนอื่นก็มีประสบการณ์มีแฟน และประสบการณ์เรื่องอย่างว่ากันแล้ว
“เลิกหวงเพตราเป็นลูกสักทีเถอะไลลา ยิ่งมีศิลาเพื่อนสนิทสมัยเด็กของเพตราอีกคน ตอนนี้นะยัยเพตราจะขึ้นคานอยู่แล้ว”
“อันนี้ก็ถูก” ฉันหัวเราะคิกคักพลางรับแก้วจากไลลา แล้วก้มดื่มเหล้าสีสวยรสชาติหวานหากแต่มีกลิ่นแอลกอฮอล์บาดคอแทรกเข้ามาอย่างหน้าระรื่น “ตกลงซินมีแฟนแล้วเหรอไม่เห็นเคยบอกเลย”
“เปล่ามันเสียกับเด็กเอ็น” ฟ้าใสตอบ
“เด็ก...เอ็น???”
“เอ็นเตอร์เทนไง ก็พวกขายบริการนี่แหละแต่เป็นผู้ชาย พวกเพื่อนเที่ยวไรงี้ แต่บางคนก็รับงานอย่างว่า”
“ไม่กลัวติดโรคเหรอ”
คำตอบจากซินดีทำเอาฉันเบิกตากว้าง
“ระบบป้องกันดีเริ่ด ถุงยางพร้อมย่ะ ก็ไม่มีแฟนสักทีฉันว่ามีครั้งแรกกับคนที่เขาทรีตเราดี ๆ มันก็ดีนะ เมื่อคืนฟีลแฟนสุด หลังจากนี้ฉันว่าจะหาเฟรนด์’วิทสักคน” คนพูดทำหน้าตาเคลิ้มฝันถึงไม่ได้เสพติดเซ็กซ์แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดีไม่น้อย
“เฟรนด์’วิท?”
“เห็นไหมยัยเพตราไม่รู้จักสักอย่าง พวกแกหยุดพูดเลย”
“โอ๊ยยยไลลา!!!” ฟ้าใสและซินดี้ตะโกนขึ้นพร้อมกัน มองใบหน้าอยากรู้อยากเห็นของคนที่ถูกทำเหมือนเป็นเด็ก ก่อนที่ฟ้าใสจะอธิบายให้ฟัง “ก็พวกคู่นอนไงเพตรา มีความสัมพันธ์ทางกายแต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางใจ”
“แล้วหาจากไหนเหรอ”
“พวกแอปหาคู่ไงแก เยอะแยะ บางคนก็เป็นเพื่อนที่สนิท ๆ กันเนี่ยแหละ แต่เข้ากันได้เรื่องเซ็กซ์ก็เป็นเฟรนด์’วิทกัน”
“เพื่อนสนิทเนี่ยนะ” ฉันเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่สิ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนในสาขาในคณะ อย่างยัยวุ้นเส้นกับไม้ก็ลือว่าสองคนนี้มีซัมติงกันนะ”
“หา!!! แค่คิดว่าจะมีอะไรกับเพื่อนก็...ไม่ได้ปะวะ นั่นเพื่อนนะ” ฉันร้องอย่างตกใจ เพียงแค่เหลือบมองแผ่นหลังของศิลา หุ่นของเขาก็แวบเข้ามาในหัวให้ขนหัวลุก จนต้องดื่มเครื่องดื่มในมือดับกระหาย “บรื๊อออไม่ได้อะ”
“แกยังไม่เคยไง แต่สังคมก็มีเรื่องพวกนี้เยอะแยะจะตาย แกไม่รู้ไม่ใช่ว่ามันไม่มีซะหน่อย” ฟ้าใสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับไม่ได้ใส่ใจ
“บอกแล้วว่าอย่าเล่าให้เพตราฟัง”
“ยัยไลลา!!!”