ตอนที่ 9
“ขอบ...ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ” วิฬาร์บอกเสียงเบาด้วยพยายามดัดเสียงไม่ให้มันหวานจนอีกฝ่ายสงสัย พร้อมยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณ แต่วิฬาร์ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอยิ่งทำให้เควินเกิดความสงสัย
นัยน์ตาสีสนิมเข้มดุตวัดมองไปทั่วร่างเล็ก มันมีบางอย่างสะกิดใจเขาแปลก...แต่ก็บอกไม่ถูกว่าคืออะไร ทำไมไอ้เด็กหน้าดำ ถึงได้มีรูปร่างใกล้เคียงกับผู้หญิง แล้วยังจะพูดจาออกสำเนียงพลิ้วหวานดัดจริตนิดๆ และมีท่าทางกระตุ้งกระติ้งนั่นอีก
น้ำลายเหนียวๆ ไหลติดลำคอ ยามสบกับดวงตาสีสนิมคมเข้มราวกับเครื่องสแกนมองทะลุเข้าไปถึงเนื้อใน วิฬาร์ก้มหน้างุด แล้วยังจะยกมือขึ้นจับปีกหมวกดึงลงมาปิดหน้ามากขึ้น
“เควินขา อย่าสนใจไอ้เด็กขี้ขโมยนี่เลยค่ะ คุณเหนื่อยมากแล้วนะคะ ไปอาบน้ำเย็นๆ กินอาหารอร่อยๆ เดี๋ยวดาจะนวดผ่อนคลายให้นะคะ” เคลื่อนกายมาใช้ร่างอวบอิ่มของตนให้เป็นประโยชน์ สองแขนเรียวยาวโอบรอบลำคอแกร่ง สอดปลายนิ้วไปในเส้นผมหน้านุ่ม บังคับแบบนุ่มนวลให้เควินก้มหน้าลงมาเพื่อจูบ แต่ก็ต้องหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มไม่สนใจเลยสัก
เควินปลดมือเรียวออกจากบ่า ดันกายกลมกลึงถอยห่างไปทางหนึ่ง และเดินไปหาหนุ่มน้อยตรงหน้า ยืนแยกเท้าออกเล็กน้อย สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างสบายๆ แต่ถ้าจะสังเกตให้ดี แววตาสีสนิมคมกริบราวกับพญาเหยี่ยวกลับจับจ้องทุกอิริยาบถอย่างพินิจพิจารณาอย่างละเอียดถ้วนถี่ หากคนตรงหน้ามีท่าทางแปลกๆ เช่นจะหนีหรือว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาก็พร้อมจะจับเอาตัวไว้ได้ทันที
“ไปทำอะไรมา ถึงได้ถูกคนพวกนั้นตามจับตัว แล้ว...ขโมยของเขาจริงหรือเปล่า”
เสียงห้าวทุ้มดุทำให้วิฬาร์สะดุ้ง กลัวราวกับเจอหมียืนจังก้าจ้องจะตะปบเป็นเหยื่อ
“ปะ...เปล่านะครับ ไม่ได้ขโมยอะไรของใครเลย” วิฬาร์ปฏิเสธเสียงหลงและลนลาน แถมยกมือขึ้นสะบัดส่ายสำทับอีกครั้ง แต่เพราะอีกฝ่ายอยู่ใกล้ตัวจนเกิดเหตุ เลยทำให้เธอสาวเท้าถอยไปด้านหลัง และอย่างรวดเร็วจนไม่ทันจะได้ตั้งตัว มือใหญ่ก็ยื่นมาคว้าแขนเอาดึงเข้าหาร่างใหญ่อย่างเร็ว ร่างเล็กปะทะร่างใหญ่ดังปึก
เหมือนกับโดนฟ้าผ่าลงมากลางกระหม่อมลงไปถึงปลายเท้า ไฟร้อนผ่าวเห่อไหลจนคิดว่าหน้านวลแดงปลั่งยิ่งกว่าผลตำลึงสุก หัวใจเต้นระรัวเร็วราวกับมีใครมากระหน่ำตีกลองอยู่ภายใน จนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นระบำอยู่ข้างนอก รีบสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บตัวมากขึ้น ทำไมวันนี้ถึงได้มีแต่คนชอบแตะร่างกายเธอนักก็ไม่รู้
“ปะ...ปล่อยครับ ผมเจ็บ” เธอรีบบอกพร้อมเบะหน้าแหย ดวงตากลมโตหรี่ลง เมื่ออีกฝ่ายกดมือลงมาจนแขนเล็กแทบจะหักออกเป็นท่อนๆ และเพราะเป็นแขนข้างที่ถูกคนของไอรินเคยจับบิดไพล่ไปด้านหลังจนจะหักไปครั้งหนึ่งแล้ว มาโดนซ้ำแบบนี้ น้ำตาก็ไหลอาบลงมาได้เหมือนกัน
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรแกสักหน่อย” เห็นแล้วมันหงุดหงิด เป็นผู้ชายเสียเปล่า ร้องไห้ขี้แยอย่างกับผู้หญิง แล้วไหนจะท่าทางกระตุ้งกระติ้ง กระบิดกระบวนราวกับไม่ใช่ชายแท้อีก มันขัดตาเขาเหลือเกิน จนอยากจะเตะตูดสักป๊าบ ให้รู้เสียบ้างว่าเป็นผู้ชายควรแสดงออกยังไง
“ร้องไห้ยังกับควายตกลูก อย่าร้องไห้ให้ฉันเห็นอีกนะ ฉันเตะแกหักสองท่อนแน่” เควินขู่เสียงดุเข้มงวด ยอมคลายมือออกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้ปล่อย แล้วยังจะลากไอ้ตัวเล็กให้เดินตามด้วย
“เฮ้ย!” วิฬาร์ร้องเสียงหลง กลอกสายตาไปมาเลิ่กลั่ก กำลังคิดว่าจะขอบคุณอีกสักครั้งแล้วขอตัวไปเสียที นี่กลับถูกลากจูงไปอย่างไม่ปรานี
“ปล่อยผมนะคุณ!” ขนาดว่าเธออยู่ใกล้แค่เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หัวใจตัวดีมันเต้นตุบๆ รัวเร็วราวกับกลองเพลสลับหล่นตุ๊บลงไปกองอยู่ปลายเท้าได้สักสิบครั้งได้แล้ว ขืนอยู่ใกล้มากไปกว่านี้มีหวังเธอหลงเสน่ห์ผู้ชายคนนี้แน่ๆ แล้วมันจะเป็นการแย่มากถึงมากที่สุด
ถึงเธอจะไม่ใช่คนเก่งในการดูคนก็จริง แต่จากที่เห็นชายหนุ่มอยู่กับผู้หญิงไม่ค่อยมียางอาย การแต่งกายยั่วอารมณ์ผู้ชายได้ชะงักนัก คลอเคลียกอดจูบกันในรถอย่างไม่อายฟ้าดินแบบนี้นะ เขาคนนี้ดูจะเป็นคนนิสัยไม่ค่อยดีเรื่องผู้หญิงสักเท่าไหร่หรอก แล้วเธอก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นคนขี้เบื่อและเอาแต่ใจ รัศมีบางอย่างเป็นอันตรายต่อร่างกายและหัวใจ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะพาตัวเข้าไปใกล้ชิด
“คุณจะพาผมไปไหน ปล่อย!” วิฬาร์ฝืนตัวเอาไว้ไม่ยอมเดินตามแรงลากจูงอย่างสุดความสามารถ แต่แรงเธอเท่ามดตัวนิดเลยถูกสิงโตตัวโคร่งลากไปจนหัวทิ่มตำไปด้านหน้า มือหนึ่งรีบยกขึ้นจับศีรษะไม่ให้หมวกแก๊ปหลุดออกปล่อยผมยาวสลวยหล่นลงมา แล้วเมื่อนั้นไม่ได้คิดไปเองนะ แต่เชื่อเถอะ...ผู้ชายตรงหน้าไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่ ติดอยู่อย่างกับตังเมยาวแน่
“เควินขา ไม่เอาน่าที่รัก อย่าไปยุ่งกับไอ้เด็กสกปรกขี้ขโมยนี่ดีกว่านะคะ” วีรดาซึ่งยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่เป็นครู่ใหญ่ กว่าจะเรียกสติคืนกลับมาได้เควินก็พาไอ้ตัวเหม็นนำลิ่วไปไกลแล้ว
“ใช่...คุณทำตามที่แฟนคุณบอกดีกว่า ผมจะรีบไป เดี๋ยวคนพวกนั้นตามมาอีก คุณนั่นแหละจะแย่เอา”
บอกเหมือนจะหวังดี แต่วิฬาร์รู้ตัวดีว่ามันไม่ใช่ แล้วก็ไม่ได้อยากจะดูถูกชายหนุ่มหรอกนะ ถึงจะหุ่นล่ำกล้ามใหญ่ แต่ท่าทางน่าจะออกกำลังกายเฉพาะบนเตียงมากไปหน่อย น่ากลัวว่าจะสู้หมัดพวกนั้นไม่ไหว ปล่อยให้ถูกถลุงเล่นเป็นลูกบอลในสนามแล้วจะหมดหล่อแล้วมันน่าเสียดาย
วิฬาร์ยกมือดึงหมวกลงมาปกปิดใบหน้า จนแน่ใจว่ามันจะไม่ปล่อยให้ผมหลุดออกมา รีบแกะมือหนาอย่างกับติดกาวตราช้างเอาไว้ออกจากแขน
“ปล่อยผมนะคุณ จะพาผมไปไหน ไม่นะ ผมไม่ได้ขโมยเงินใคร ปล่อย!” เสียงสุดท้ายที่หลุดออกมาแหลมและเล็กเสียดแทงเข้าไปในหูคนฟัง แล้วคนร้องอย่างเธอหรือก็แสบคอเหมือนกัน ไหนจะความเหนื่อยที่ต้องหนีจนแทบจะหมดแรงแล้ว ยังมาเจอกับคนช่วยเหลือท่าทางแปลกๆ นี่อีก รับมือไม่ทัน มึนงง ปวดสมองไปหมดแล้ว
“อุวะ...ไอ้เด็กบ้านี่ จะกระบิดกระบวนไปทำไมฮ้า อยากโดนพวกนั้นจับเอาตัวกลับไปหรือไง” ตวาดเสียงเข้มด้วยอารมณ์กรุ่นๆ ภายใน อย่าคิดว่าเขาใจดีช่วยเปล่าๆ น่ะ สำหรับเขา ทำอะไรสักอย่างย่อมต้องคิดสะระตะถึงผลตอบแทนไว้เรียบร้อยแล้วละ
“ก็แล้วคุณจะพาผมไปไหนเล่า” ถามกลับเสียงอ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย ตวัดค้อนด้วยสายตานิดๆ อย่างไม่ทันให้คนตัวใหญ่ได้เห็น ยอมเดิน...เฮ้ย! ไม่ใช่วิ่งตามไปจนขาแข้งแทบจะพันกันต่างหากละ ก็ทำไงได้ล่ะ เธอไม่ได้ขายาวเหมือนกับเขานี่นา ตาก็คอยเหลียวมองไปรอบๆ บริเวณอย่างระมัดระวัง เธอมั่นใจว่าคนพวกนั้นยังต้องเตร็ดเตร่อยู่แถวนี้แน่
ไอรินอีกคน...เชื่อเถอะยายอดีตแม่เลี้ยงงูพิษนั่นไม่ยอมให้ตัวเงินตัวทองอย่างเธอหนีรอดไปได้ง่ายๆ หรอก ต้องตามหาล่าตัวเอาไปสังเวยไอ้บ้ากามแก่หงำเหงือกนั่นจนได้นั่นแหละ ตอนนี้เธอตกอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน มองไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่หาทางออกดีๆ ให้ตัวเองไม่ได้ ไงก็แอบๆ ตามคนช่วยที่แสนจะเอาแต่ใจและไม่ฟังใครนี่ไปก่อนดีกว่า ค่อยหาโอกาสหนี