รถโฟร์วิลสีดำสนิท ถูกเหยียบคันเร่งด้วยร่างสูงใหญ่ ในอัตราความเร็วที่เรียกว่าฝุ่นตลบ หากคราวนี้ชายหนุ่มเลือกใช้อีกเส้นทาง เพราะไม่อยากให้คนอื่นๆ เห็นว่าเขามุ่งหน้าออกไปจากไร่ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ คนเทศนาต้องเปลี่ยนจากพี่เฟนย์เป็นคุณแม่หรือคุณย่า อย่างไม่ต้องสงสัย เส้นทางสายนี้มุ่งตรงสู่บ้านพักเท่านั้น ชายหนุ่มอุตส่าห์สั่งให้หน่วยพยัคฆ์จัดเส้นทางด้วยตัวเอง รอบๆ ก็เลยเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หนาทึบ เรียกว่ากลางวันยังมืดมิด กลางคืนไม่ต้องพูดถึง ไร้ซึ่งความสว่างนำทาง
พ้นจากตัวป่าใหญ่ เรื่อยๆ ไปจนใกล้เมือง โทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่หน้าคอนโซลหน้ารถ เลขหมายที่ปลายทางก็คงไม่พ้นเบอร์ของเพื่อนรักเพื่อนสนิท รอสายไม่นานเมื่ออีกฝ่ายกดรับ เสียงห้าวทุ้มก็กรอกลงไปโดยไม่รั้งรอ
“เฮ้อ! ไอ้เอก แกอยู่ไหนวะ มาซัดเหล้าเป็นเพื่อนหน่อย เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”
“ฉันไม่ว่างโว้ย!”
ผู้กองหนุ่มกระซิบเบาๆ โดยไม่ต้องคิด
“แกอย่าดื่มนักเลย เอาเวลาไปเปิดนิตยสารหาสาวๆ สวยๆ สิวะ เดี๋ยวมีเมียไม่ทันใจคุณย่าหรอก”
คนเป็นเพื่อนโพล่งออกมาแต่ยังบังคับไม่ให้เดซิเบลสูงเกินไป พร้อมชี้ทางสว่างให้เสร็จสรรพ หากมหาโจรหนุ่มกลับทำหน้าเบื่อหน่าย แน่ล่ะ เพลิงอัคนีเบื่อสาวๆ ในวงไฮโซ โดยเฉพาะพวกดารานางแบบที่โพสต์ท่าอยู่ตามนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ ถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะพึมพำออกมาแผ่วๆ
“อย่ามาเทศน์ ฟังพี่เฟนย์ก็หูชาแล้ว ที่บอกว่าไม่ว่าง แกทำอะไรอยู่วะ หรือแอบจู๋จี๋กับน้องฟองน้ำของแกอยู่ ระวังเถอะจะได้แต่งงานวันนี้พรุ่งนี้”
เย้าแหย่อย่างรู้ดี เล่นเอาคนปลายสายใบหน้าขึ้นสีเข้ม
“ไอ้เพื่อนปากไม่ดี ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลย ถ้าอยู่ใกล้พ่อจะฟาดด้วยด้ามปืนสักทีสองที”
น้ำเสียงที่เถียงออกมาทำไมฟังดูแล้วไม่จริงจังสักนิด ได้ยินเพื่อนรักพ่นหายใจหนักๆ พร้อมกระซิบกระซาบ
“ฉันกำลังซุ่มจับผู้ร้าย แค่นี้นะโว้ย! อย่าโทรมาอีก เดี๋ยวงานจะล้มเหลว”
“อ้าว! แล้วก็ไม่บอก โชคดีขอให้มีดาวประดับบนบ่าอีกสองสามดวง”
“เออ! ว่างๆ เจอกัน”
โทรศัพท์มือถือถูกวางลงไว้ที่เดิม คิ้วเข้มดกดำสีเดียวกับม่านตาเครียดเขม็ง ปลายเท้ายังคงเหยียบคันเร่งไปเรื่อยๆ ก่อนจะฉวยโทรศัพท์มือถือมาอีกครั้ง พร้อมเลื่อนหาเบอร์สาวๆ ในสต๊อก ขบคิดอย่างหนักทีเดียว ว่ารายชื่อเป็นร้อยในนี้มีใครที่เข้าขั้นจะเป็นหลานสะใภ้คุณย่าแพรวพัตราได้บ้าง หากเลื่อนดูนับยี่สิบรายชื่อ เรียวปากนั้นก็ได้แต่เหยียดออก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ผู้หญิงที่เข้าตาลูกชายพญาอินทรีหายากเต็มทน
“ผู้หญิงที่จะหามาทำเมียนี่ ทำไมหายากจังวะ ถ้าโผล่มาเวลานี้ พ่อจะลากเข้าป่าซะให้เข็ด”
สิ้นเสียงรำพันกับตัวเอง ดวงตาทั้งสองข้างต้องเบิกกว้าง ปลายเท้าเหยียบคันเร่งจนตัวโก่ง
เอี๊ยด!!
“บ้าเอ๊ย! อยากตายรึไง”
สบถด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะหักรถหลบข้างทางด้วยสีหน้าถมึงทึง พร้อมผลักประตูลงมา ก้าวอาดๆ ไปเอาเรื่องกับคู่กรณี ที่ตอนนี้ยังคงซบใบหน้าลงกับพวงมาลัย ยิ่งเห็นว่าเป็นหญิงความเยาะหยันก็วิ่งพล่านเต็มใบหน้า ฝ่ามือหนาจัดการเคาะกระจกด้วยความรุนแรง พร้อมตะเบ็งเสียงดังลั่น
“นี่คุณ! ขับรถประสาอะไร”
ทุบหนักๆ ลงไปอีกสองสามที “ลงมาเดี๋ยวนี้เลย!”
เมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่ขยับเขยื้อน คนใจร้อนก็จัดการอีกชุดหนึ่ง
“ลงจากรถ หูแตกรึไง บอกให้ลงจากรถ!”
ใครบางคนที่ยังตกใจไม่หาย ถึงกับกะพริบตาปริบๆ ยกมือบางแตะหน้าผากตัวเองที่กระแทกกับพวงมาลัยรถเมื่อครู่ สีหน้าและแววตาขุ่นเคือง เชื่อได้ว่าสาวน้อยต้องลุกขึ้นมาเอาเรื่องเช่นกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายทุบกระจกรถของตัวเองด้วยท่าทีไม่ทะนุถนอม คนที่มีนิสัยดื้อดึงอยู่เป็นนิจผลักประตูรถก้าวลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ใครบางคนอยู่กับอาการค้างเติ่ง
“ขับรถประ...”
คำพูดที่เพลิงอัคนีกำลังเปล่งออกมาเงียบหายราวอากาศ ดวงตาสีดำทะมึนจ้องร่างอรชรด้วยประกายตาบางอย่าง กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินแตะจมูกนั้น ทำให้ความเร่าร้อนตีกันวุ่น หน้าท้องแข็งกระด้างเกลื่อนไปด้วยมัดกล้ามทรงพลัง เกิดสภาวะตีรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากคำพูดของสาวสวยนี่สิ เล่นเอาชายหนุ่มอ้าปากพะงาบๆ
“อีตาบ้า! ขับรถยังไง เกือบชนฉันเห็นไหม และนี่คุยโทรศัพท์อยู่ใช่ไหม ถึงได้เหยียบคันเร่งไม่ดูตาม้าตาเรือ เคยหัดเรียนการขับรถจากกรมขนส่งบ้างไหม ใบขับขี่น่ะคุณซื้อมารึยังไงไม่ทราบ ทำผิดแล้วยังจะหน้าด้านมาโทษคนอื่นอีก ไอ้โจรเถื่อน!”
ไม่พูดเปล่าสายตาเจ้าหล่อนยังจ้องเขม็งมายังโทรศัพท์ที่ติดมือของชายหนุ่มไม่วางตา ขณะที่ปากทำงานตวาดแว้ดๆ มือบางทั้งสองข้างก็ยกขึ้นกอดอก ท่าทางไม่ได้หวาดหวั่นต่อภาพพจน์ของคู่กรณีเลยสักนิด ประโยคท้ายยังเน้นย้ำไปอีกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า อภิมหาโจรขนาดไหน
ชายหนุ่มยังควานหาเสียงของตัวเองไม่เจอ ได้แต่ถอนหายใจฮึดฮัดพร้อมสบถเบาๆ ให้ตายสิ ปากหรือกรรไกรวะ คมชะมัด!! เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะจัดชุดใหญ่อีก เส้นเสียงแข็งกระด้างถึงได้ทำงาน
“นี่คุณ ก่อนจะด่าผมนะ แหกตาดูซะบ้าง ว่าใครอยู่เส้นทางหลักใครอยู่เส้นทางรอง ไม่ใช่เอาแต่เฉ่งเป็นแม่ค้าตลาดสดอยู่แบบนี้”