คนอาบน้ำด้วยดีกรีราคาแพง บิดเอี้ยวตัวไปมาด้วยความเมื่อยขบ โสตประสาทรับรู้การขับขานเพราะพริ้งยามเช้าของสัตว์ป่านานาชนิด เสียงหรีดหริ่งเรไรเงียบหาย มีเพียงเสียงไก่ที่ขับขานต้อนรับอรุณมาแทนที่ พร้อมๆ กับเสียงโวยวายของวิหคบนท้องฟ้ากว้าง ดวงหน้าเหนื่อยหน่ายกับสภาพเมาค้าง ทำให้คิ้วดกดำทั้งสองข้างต้องย่นเข้าหากัน อุ้งมือร้อนผ่าวนั้นตบหนักๆ ลงบนท้ายทอยสองสามที ก่อนจะสลัดผ้าห่มผืนโตออกจากร่างกายบึกบึน วาดลำขาเรียวยาวลงไปแตะพื้นไม้เย็นเฉียบ มือทั้งสองข้างยกขึ้นขยี้ศีรษะหนักๆ รู้สึกถึงอาการปวดหนึบๆ ที่วิ่งพล่านไปทั่วศีรษะ สงสัยเจ้าดีกรีราคาแพงคงยังออกฤทธิ์อาละวาดไม่สร่าง
ร่างสูงยาวละจากเตียงนุ่ม คว้าผ้าขนหนูสีขาวสะอาดผืนโตพาดไว้บนไหล่กระด้าง ก่อนจะก้าวช้าๆ ไปยังอีกฝั่ง ดีหน่อยที่พี่ชายสั่งทำห้องน้ำเพิ่ม หลังจากยกเรือนนี้ให้กับภรรยาสุดที่รัก หากเวลานี้ตกทอดมายังเขาผู้เป็นน้อง ชายหนุ่มใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำร่วมชั่วโมง ถ่ายเทความเมื่อยล้าไปกับสายน้ำที่รินผ่านฝักบัวจนเย็นฉ่ำ คืนความสดชื่นกลับสู่ร่างกายจนกระปรี้กระเปร่า หลังจากนั้นก็ก้าวกลับเข้าห้องจัดการแต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีเทาขุ่น พร้อมกางเกงยีนสีซีดตัวใหม่
เมื่อพ้นประตูห้อง จุดมุ่งหมายก็คงไม่พ้นมุมกาแฟสุดโปรด นึกอยากจะซัดกาแฟทั้งโรงงานให้ความง่วงนี้หายออกไปเป็นปลิดทิ้ง นานๆ ครั้งที่คว้าเหล้ามากรอกปาก ทำให้ร่างกายเกิดความไม่คุ้นชิน แต่สาบานได้ว่า ต่อจากวันนี้ไปคงได้เพื่อนใหม่เป็นขวดเหล้าอย่างไม่ต้องสงสัย ก็เพราะประกาศิตอันใหญ่ยิ่งจากคุณย่า ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่พร้อมกับคว้ากาแฟร้อนๆ แก้วโต ก็นำพาร่างกายตัวเองไปหย่อนนั่งบริเวณเฉลียงของบ้าน ในมือนั้นอุตส่าห์ติดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไปด้วย แน่ล่ะข่าวสารบ้านเมืองคนอย่างเพลิงอัคนีมีหรือจะพลาด
เสียงรถแว่วเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้เรียวปากหยักยกยิ้มน้อยๆ สงสัยข่าวที่เขาไปคว้ำบ่อเหล้ามาคงรู้ถึงหูใครบางคน ถึงได้วิ่งแจ้นกันมาก่อนมื้อเช้าจะเริ่มขนาดนี้ ใบหน้าเถื่อนๆ ด้วยหนวดเคราชะเง้อมอง ก่อนจะอมยิ้มโล่งใจ อย่างน้อยคนที่มาเยือนก็ไม่ได้น่ากลัวจนเกินไป หากเป็นคนอื่นแล้วละก็ เขาคงได้ใส่ตีนผีวิ่งหลบเข้าถ้ำแทบไม่ทัน หลังจากรถจอดสนิท ไม่นานนักน้ำเสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นเบื้องหลัง
“ไง ไอ้น้องชาย!”
มือหนายกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนจะหมุนกายหันไปเผชิญหน้ากับพี่ชาย ดวงตานั้นมีแววเย้าแหย่ตามประสา
“พี่เฟนย์มาทำไมแต่เช้าครับ หรือว่าทนคิดถึงผมไม่ไหว”
คนมาใหม่ถึงกับต้องถอนหายใจทิ้ง ยกฝ่ามือตะปบเข้าที่ไหล่ผู้เป็นน้องเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
“ก็ลุงธงน่ะสิ รีบส่งข่าวรายงานพี่ตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน ว่าเราน่ะไปอาบเหล้ามา ดีนะที่คุณแม่กับคุณย่าไม่อยู่ด้วย ถ้ารู้ถึงหูเข้าคงได้บ่นยาว แต่นายก็สบายอยู่แล้วนี่ ถึงยังไงเสียงคุณย่าก็มาไม่ถึง แต่พี่กับพ่อโดนเต็มๆ”
เงียบไปอึดใจ จ้องมองเสี้ยวหน้าน้องชายอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ
“ทำไมฮึ! หาเมียไม่ได้จนต้องซัดเหล้าหนักขนาดนั้นเลยรึไง กลุ้มมากล่ะสิท่า”
“ไม่ใช่หาไม่ได้ครับ”
คนถูกบังคับให้มีเมียโพล่งออกมาดังลั่น
“แค่ไม่อยากมี พี่ก็รู้ผมต้องการอยู่เป็นโสด และอีกอย่างผู้หญิงที่เป็นเมียผมคงต้องโชคร้ายสุดๆ เพราะไม่มีทางจะได้อยู่สุขสบายบนบ้านหลังใหญ่โตเด็ดขาด ผมจะพาเธอไปอยู่ในถ้ำ”
“เฮ้ย!”
เพลิงอัคคีถึงกับร้องอุทานเสียงหลง “นายจะบ้าเหรอฟิวส์ ไปอยู่แบบนั้นก็น่าสงสารแย่ ยังไงบ้านนี้แกก็ขยับขยายสิ คุณย่าต้องรีบจ่ายเงินสักสิบล้าน เนรมิตเรือนไม้ไว้ต้อนรับหลานสะใภ้คนโปรด”
“เหมือนพี่ปรับเรือนลีละเดชาใหม่ทั้งหลังน่ะหรือ”
คนเป็นน้องบอกอย่างรู้ทัน ก็แน่ล่ะ ยิ่งจะมีเจ้าตัวเล็ก พี่ชายเขาลงทุนปรับเรือนลีละเดชาใหม่หมด ตอนนี้ใหญ่โตกว้างขวาง ราวกับจะรองรับสมาชิกใหม่นับสิบๆ คน เรียวปากผู้พี่ยิ้มกว้าง นัยน์ตาทอประกายแห่งความสุขเสมอ เมื่อนึกถึงครอบครัวของตัวเอง
“แน่นอนสิ ลองมีเมีย แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์เป็นเช่นใด”
ผู้น้องชายถึงกับสำลักกาแฟที่ยกขึ้นจิบ ยกมือห้ามปรามจ้าละหวั่น ก่นด่าตัวเองในใจเบาๆ ไม่น่าหยิบเรื่องนี้มาพูดคุยสักนิด ความหวานของพี่ชายจะทำให้เขาขนลุกเกรียวกราว
“พอๆ พี่เฟนย์ ยิ่งฟังฟิวส์ยิ่งกลัวการมีเมีย”
“อ้าว! ไอ้น้องเวร”
น้ำคำด่าทอไม่จริงจังสักนิด มีแววเย้าแหย่ “ยังไงแกก็ต้องหาสะใภ้ให้คุณย่า แต่อย่าไปคว้าพวกผู้หญิงเกรดต่ำนะเว้ย! ไอ้พวกที่ซื้อได้ด้วยเงินน่ะ อย่าเอามาเป็นน้องสะใภ้พี่เป็นเด็ดขาด และอีกอย่างเชื่อสิ คุณท่านๆ ทั้งหลายไม่โปรดแน่ หาเมียทั้งที แกไม่ต้องมองที่รูปร่างหน้าตา ถ้าแกเห็นใครแล้วโดนน่ะ จัดการเลย”
น้องชายที่คลอดทีหลังเพียงไม่กี่นาทีกำลังตีหน้ายุ่ง สงสัยไม่หายจากอาการเมาค้าง เมื่อเห็นสีหน้านั้นผู้พี่จึงชี้ทางให้
“หรือไม่ก็ก็ใช้สัมผัสพิเศษสิวะ นายเก่งเรื่องนี้นี่”
คิ้วเข้มของเพลิงอัคนีย่นยู่ เส้นหยักในสมองกำลังขบคิด
“สัมผัสพิเศษ...”
“ถ้าจิตส่วนลึกแกบอกว่าใครใช่ ก็อย่ารีรอ”
ดวงตาของเพลิงอัคคีเต้นระริก หากคนที่ต้องหาเมียให้ทันก่อนกำหนดทำหน้าขยาดพิกล
“เอาเป็นว่าถ้าผมรู้สึกแบบนั้น ผมจะฉุดขึ้นรถก็แล้วกันนะพี่”
“ไอ้บ้า! ผู้หญิงเขาก็มีญาติผู้ใหญ่”
“อย่าให้เหมือนพี่ใช่ไหม พ่อตาเกือบเอาตาย”
คราวนี้เป็นฝั่งพี่ชายที่ต้องทำหน้าสยองบ้าง นึกถึงเรื่องราวตัวเองแล้วก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ หากไม่มีแม่ยายคนสวย ป่านนี้เขากับน้ำพั้นซ์คงไม่ได้พบกับความสุข บางทีพ่อตาสุดโหดคงเป่ากบาลเขาให้เป็นรอยแยกไปนานแล้ว แก้มสากทั้งสองข้างของผู้พี่ขึ้นสีเรื่อเข้มจัด หากนาทีต่อมาก็รีบเปลี่ยนโหมด
“เอาน่า ยังไงฉันกับพ่อตาก็สมานฉันท์กันเรียบร้อย ยิ่งจะมีเจ้าตัวเล็ก พ่อตาฉันยิ่งพูดง่าย”
“แหงล่ะ ก็พ่อตาพี่มีแม่ยายคนสวยคอยเป่าหูให้เข้าข้างลูกเขยอยู่นี่”
“คนดีก็งี้แหละ”