บทที่ ๒ พระพรหมยังไม่ลิขิต(๒)

1205 คำ
คนที่ชื่อมัสยาแต่งตัวตามรสสมัยนิยมปัจจุบันไม่หวือหวามากนักใบหน้าเฉี่ยวคมเข้าขั้นคำว่าสวย ‘แต่ไม่โดนใจของลูกนกอินทรี’ ส่วนคนชื่อมีนมีนาแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน ใบหน้าถูกโปะเอ่อ...ถูกเสริมแต่งมาอย่างดีและแน่นอนก็คือสาวเปรี้ยวยุคปัจจุบันที่เห็นเดินทอดน่องราวกับหลุดออกจากแคทวอล์คแฟชั่นหรือไม่ก็หลุดออกจากนิตยสารดารานางแบบชื่อดัง “พี่เฟนย์หล่อจัง...” เสียงพึมพำจากปากเรียวเล็กบุตรสาวคนโตของท่านผู้ว่าดังขึ้น แต่คงไม่มีใครได้ยินนอกจากคนเป็นน้องสาวอย่างมีนมีนา ที่พอจะมองออกก็ตั้งแต่คุณพี่เฟนย์ก้าวเข้ามาพี่สาวของเธอก็ส่งสายตาวิบวับสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนใบหน้าจะแต้มสีระเรื่ออยู่ในเวลานี้ “ฟิวส์ล่ะครับคุณย่า” ชายหนุ่มไม่สนใจสองสาวที่ส่งยิ้มหวานหยดมาให้ เอ่ยปากถามคุณย่าปุ๊บและถ้าเขาซื้อหวยก็คงถูกรางวัลที่หนึ่งเพราะคำตอบนี้เขาคิดอยู่ในใจแล้ว “ย่าตามตัวไม่เจอ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ นี่ถ้าพรุ่งนี้ยังเงียบอีก ย่าคงต้องไปพึ่งพาผู้กองฤทธิ์เพื่อนของพ่อเราให้ระดมชาวเครื่องแบบออกตามหา” “เอ่อ... “ ชายหนุ่มติดอ่างทันที ผินสายตาไปขอความช่วยเหลือจากคนเป็นพ่อ “เมื่อตอนเย็นโทรมาแล้วครับคุณแม่ เห็นบอกว่าจะขึ้นชายแดนสักสัปดาห์” คำตอบของคุณพ่อทำให้คุณย่าตาเขียวปั๊ด “หนูมัสยา หนูมีนมีนา กินข้าวกันเถอะจ้ะ คุณปลัดคุณมณียาเชิญตามสบายนะคะ” และก็จบข่าว จบคำถาม มีเพียงการละเลียดทานอาหารที่เลี้ยงคนงานได้ทั้งไร่ และแน่นอนเพลิงอัคคีแทบกลืนอาหารไม่ลงเมื่อตลอดเวลาคุณย่ากับคุณภรรยาท่านปลัดคอยแต่จะพูดเรื่องจับคู่โบราณเต่าล้านปีให้หลานชายอย่างเขากับหญิงสาวที่นั่งตรงกันข้ามทั้งสองคน ‘ขอบอกทั้งสองคนใครก็ได้ สงสัยจะใส่พานแล้วยกให้ฟรีๆ’ เพลิงอัคคีได้แต่นั่งทำหน้าปั้นยากส่งไปยังสองสาว คนน้องไม่เท่าไหร่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่ค่อยถูกชะตาด้วยเลยสักนิด แต่คนพี่นี่สิเธอมองมาเหมือนกับชายหนุ่มเป็นลูกอมสีสดๆ ที่เด็กผู้หญิงชอบกินกัน เฮ้อ...ผ่านพ้น ช่วงเวลาอันแสนจะทรมาน การรับประทานอาหารที่แสนยาวนานที่สุดในรอบสิบปีสิ้นสุดลง ทุกคนยกโขยงกันมารวมตัวที่ห้องนั่งเล่น คุณพ่อกับคุณปู่ดูเหมือนจะคุยกับท่านปลัดได้ถูกคอ และก็เหมือนกับคุณย่าที่คุยกับคุณภรรยาท่านปลัดอย่างถูกใจ ส่วนคุณแม่เนยได้แต่ทำหน้าปั้นยากเพราะแน่นอนแม่ลูกย่อมเหมือนกัน “เฟนย์พาน้องๆ ไปเดินย่อยอาหารหน่อยสิลูก” “ย่าครับฆ่าผมให้ตายซะเลยดีกว่า” คำพูดนี้ชายหนุ่มคิดในใจ “ครับคุณย่า” นี่คือคำพูดที่เพลิงอัคคีเอ่ยออกไป ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญสองสาวให้ไปตามทิศทางสวนหย่อมบริเวณหน้าบ้าน เดินมาได้สักพักหญิงสาวเปรี้ยวจี๊ดก็หยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าเจ้าของบ้าน “พี่เฟนย์คะ พาพี่มัสไปเดินย่อยเถอะค่ะ มีนเดินไม่ไหวแล้ว อิ่มก็ชักจะง่วงขึ้นมา เชิญตามสบายนะคะ” คำพูดของน้องสาวทำให้ผู้เป็นพี่ยิ้มกว้าง มัสยายิ้มแย้มขอบใจมีนมีนาก่อนจะเดินไปตามทิศทางที่ชายหนุ่มเชื้อเชิญอย่างว่าง่าย สาวเปรี้ยวเข็ดฟันขยิบตาให้กับคนเป็นพี่อย่างรู้กัน เพลิงอัคคีเดินไปตามเส้นทางของสวนหย่อมที่เกลื่อนไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับน้อยใหญ่ และที่มีเยอะที่สุดก็คงจะเป็นกล้วยไม้หลายชนิดที่คนเป็นปู่ชื่นชอบ โดยมีลูกสาวท่านปลัดเดินรั้งท้าย หัวใจของมัสยาพองโต หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังหนาแน่นที่เห็นอยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นอย่างประหลาด ตอนนี้เธอบอกได้คำเดียวว่า ‘หลงรักผู้ชายคนนี้เข้าให้แล้ว’ เกือบสิบนาทีไร้คำพูดใดๆ หลุดออกจากปากเพลิงอัคคี ชายหนุ่มเดินไปข้างหน้าราวกับว่ากำลังเดินออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกเช้า ประมาณว่าไม่ได้สนใจคนที่เดินตามข้างหลังเลยสักนิด “พี่เฟนย์คะ” ลูกสาวท่านปลัดทนไม่ไหวก็เลยเอ่ยปากเรียกชายหนุ่ม “ครับ” เสียงตอบรับแผ่วเบา “พี่เฟนย์รังเกียจมัสมากเลยใช่ไหมคะ” “เปล่าครับพอดีมีเรื่องงานให้คิดนิดหน่อย ผมว่าเรากลับเข้าข้างในดีกว่านะ ตอนนี้น้ำค้างค่อนข้างแรง เดี๋ยวคุณมัสยาจะไม่สบาย” ชายหนุ่มเอ่ยปากก่อนจะเดินนำหน้าเข้าบ้านไป ปล่อยให้หญิงสาวมองตามไปอย่างงุนงง ที่ผ่านมาผู้ชายที่เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวท่านปลัดอย่างเธอ ล้วนแสดงออกชัดเจนว่าหลงใหลได้ปลื้มในตัวเธอและน้องสาวมากขนาดไหน แต่สำหรับคนที่กำลังจ้ำอ้าวอยู่ตรงหน้าดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะทำความรู้จักสักเท่าไหร่ หน้าเธอเขายังไม่อยากจะมอง “ดี ฉันชอบผู้ชายอย่างคุณ” บุตรสาวท่านปลัดครุ่นคิดอยู่ในใจ ก่อนจะเดินตามแผ่นหลังของชายหนุ่มกลับเข้าบ้าน พอมาถึงบริเวณหน้าบ้านอภิศิรานนท์ ก็เหมือนว่าคงถึงเวลาที่ครอบครัวผู้ถูกเชิญอย่างเธอควรจะถึงเวลากลับ รถแก๋งสีดำสนิทเคลื่อนออกจากไร่ไปแล้ว โดยมีคุณย่าแพรวพัตราโบกมืออำลาจนสุดสายตา ก่อนใบหน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มจะหันมาสบมองหลานรักที่ถูกบังคับให้เดินมาส่ง ‘ตามมารยาท’ “เฟนย์ หนูมัสยาน่ารักไหมลูก” เสียงแม่เลี้ยงแพรวพัตราถามขึ้น ชายหนุ่มเปิดยิ้มเป็นคำตอบ ก่อนจะหันไปมองคนเป็นพ่อที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล “คุณย่าครับ คืนนี้น้ำค้างแรง ผมว่าเข้าบ้านดีกว่านะครับ” “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ หลานชอบคนไหนจ๊ะหนูมัสยาหรือหนูมีนมีนา” หลานชายนิ่งเงียบจนกระทั่งเสียงสวรรค์ดังขึ้น “คุณแม่ครับตาเฟนย์เพิ่งเจอหนูมัสกับหนูมีนตอนนี้คงให้คำตอบไม่ได้ ผมว่าให้เวลาตาเฟนย์หน่อยนะครับ” แม่เลี้ยงแพรวพัตราพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันมาเอ่ยปากกับหลานรัก “เฟนย์ ย่าอยากอุ้มเหลนแล้วนะลูก ถ้าเฟนย์ไม่มีใครในหัวใจ ก็ให้โอกาสน้องๆ เขาหน่อยนะลูก” “ครับคุณย่า” ชายหนุ่มรับปากและก็ได้รับรางวัลเป็นแรงกดจูบที่หนักหน่วงบนแก้มสาก ก่อนคนเป็นย่าเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับคุณแม่ที่ยังทำหน้าเหมือนเดิม ใบหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร ทุกคนแยกย้ายกันกลับเข้าห้องกันหมด ตอนนี้บริเวณหน้าบ้านก็มีแค่เพลิงอัคคี คุณพ่อไฟและคุณปู่เพลิง สายตาของท่านทั้งสองจ้องมองมาที่ชายหนุ่มอย่างให้กำลังใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม