“เดี๋ยวผมขับรถกลับเอง คุณไปพักเถอะ พรุ่งนี้ตอนเช้าไม่ต้องมารับ ตรงไปที่บริษัทได้เลย”
“ครับ”
เมฆาสั่งขึ้นก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป หลังจากกลับมาจากร้านอาหารเขาก็กลับมาทำงานที่บริษัทต่อจนกระทั่งเที่ยงคืนกว่าๆเขาก็ขับรถกลับคอนโดซึ่งไม่ไกลจากบริษัทเท่าไหร่
“รถเสียเหรอ...”
และก่อนจะถึงบ้านเมฆาก็เจอรถสปอร์ตสุดหรูจอดอยู่ข้างทาง เขามองอย่างแปลกใจเพราะอีกฝ่ายอาจต้องการความช่วยเหลือ
“นั่นมัน...ผู้หญิงคนนั้นนี่”
พอขับเข้ามาใกล้ๆและเห็นว่าเป็นเดียร์น่า ผู้หญิงที่ทำให้เขาอารมณ์ค้างเมฆากลับเหยียบคันเร่งทันทีเพราะไม่อยากยุ่งกับเธออีก แต่พอมองผ่านกระจกรถไปด้านหลังเขากลับเห็นว่าเธอเดินโซเซไปมาเหมือนคนเมาหรืออะไรสักอย่างเขาถึงกับกัดฟันแน่นเมื่อความดีภายในจิตใจกำลังตีกันอย่างหนัก
“บ้าเอ้ย!! ทำไมต้องบังเอิญอย่างนี้ แล้วทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ด้วย!!”
และสุดท้ายเมฆาก็เลี้ยวรถกลับ ก่อนจะจอดลงที่หน้ารถของเดียร์น่า ที่ตอนนี้กำลังล้วงคอเพื่อเอาแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปออกเพื่อหวังว่ามันจะช่วยเธอจากอาการร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นได้
“อ๊อกกก!!! อื้อออออ”
“นี่คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
เมฆาเดินลงจากรถเดินไปหาเดียร์น่าแล้วถามขึ้นเมื่อเห็นเดียร์น่าดูอาการไม่ดี
“ช่วยด้วย...ช่วยฉันด้วย อื้อออ พาฉันไปโรงพยาบาลที...ช่วยด้วย...”
เสียงอันโรยแรงของเดียร์น่าบอกขึ้น เธอปรือตาขึ้นมองผู้หวังดีเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อแทบพยุงสติตัวเองไม่ได้แล้ว ส่วนเมฆาพอเห็นแบบนั้นเขาก็เดินเข้าไปพยุงเธอขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึง...”
“ฉันถูกวางยา...พาไปหาหมอที...”
พอได้ยินแบบนั้นเมฆาก็พาเธอไปขึ้นรถของเขา ก่อนจะรีบขับไปหาโรงพยาบาลทันที เมื่อดูท่าเธอจะไม่ไหวแล้วเพราะพอขึ้นมาบนรถเดียร์น่าก็เริ่มแตะต้องลวนลามเขาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่เมื่อความทรมานจากยาที่กินเข้าไปทำให้เธอกระสันจนทรมานแทบขับรถไปต่อไม่ได้จนต้องจอดอยู่ตรงนั้น
“ใครมันทำแบบนี้กับผู้หญิง! เวรเอ้ย!!”
เมฆาที่เห็นท่าทางของเดียร์น่าถึงกับสบถออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อปกติเขานั้นทั้งสุขุมทั้งสุภาพ แต่พอเห็นมีคนทำแบบนี้กับผู้หญิงเขาเลยทนไม่ได้ที่จะสบถมันออกมา จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาลและเดียร์น่าถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที
“ญาติคนไข้ใช่ไหมครับ ผมให้ยาระงับประสาทแล้ว เธอน่าจะทานยาอะไรเข้าไป ตอนนี้ผมกำลังส่งตรวจผลน่าจะออกเร็วๆนี้ คนไข้อาจต้องนอนพักที่โรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้น”
“ครับ...”
เมฆาที่ตัดใจทิ้งเดียร์น่าเอาไว้ที่โรงพยาบาลไม่ได้เลยนั่งรอจนกระทั่งคุณหมอเดินออกมาแจ้งอาการของเธอ ซึ่งเขาที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อจริง นามสกุลจริงเลยได้แต่ถอนหายใจและตัดสินใจที่จะกลับออกมาเมื่อยังไงเธอก็ต้องพักยาวแล้วพรุ่งนี้คนที่รู้จักเธออาจตามมาเจอก็เป็นได้
และเช้าวันต่อมาปันปันก็ต้องรับผลกรรมจากการกระทำของตัวเองเมื่อพยายามติดต่อเดียร์น่าเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้แถมงานที่รับเอาไว้เดียร์น่าก็ไม่ได้มาปรากฏตัวอีกทำเอาทุกคนต่างติดต่อมาต่อว่าเธอเป็นการใหญ่
“เดียร์น่านะเดียร์น่า!!! จะทำอย่างนี้กับฉันจริงๆใช่ไหมห๊ะ?”
ปันปันที่รอลิฟต์เพื่อจะขึ้นไปยังห้องพักของนางแบบสาวได้แต่คิดแค้นกับสิ่งที่เดียร์น่าทำลงไป เงินที่เธอต้องได้กลับลอยหายไปกับตาเมื่อเสี่ยนนทชัยไม่ยอมเซ็นสัญญาอะไรต่อ
ติ๊ด!ติ๊ด!ติ๊ด!ติ๊ด!ติ๊ด!ติ๊ด!
เธอกดรหัสห้องพักของเดียร์น่าและพบว่ามันไม่ได้ถูกเปลี่ยน เลยเดินเข้าไปในห้องด้วยคิดว่าจะต่อว่านางแบบสาวเต็มที่
“เดียร์น่า!!! อยู่ไหนห๊ะ? นี่เดียร์น่า...หือ?...ไม่อยู่เหรอ...โอ๊ยยยย! ไปไหนอีกเนี่ย!!”
และพอเดินดูจนทั่วห้องกลับไม่เจอนางแบบสาว ปันปันถึงกับหัวเสียมากขึ้นไปอีกเมื่องานที่รับไว้อีกงานก็กำลังจะเริ่มในไม่กี่ชั่วโมง เธอต้องพาเดียร์น่าไปให้ได้เพราะไม่อยากถูกฟ้องอีก
“ทำไมไม่รับเนี่ย!! อ๊ายยยย!! ฉันจะบ้าตายจริงๆ!”
และสุดท้ายปันปันก็ไม่มีทางติดต่อเดียร์น่าได้ เธอได้แต่โทษนางแบบสาวที่ทำตัวเด็กน้อยโกรธจนติดต่อไม่ได้โดยไม่รู้เลยว่าคนที่เธอกำลังตามหานั้นยังนอนหลับอยู่ที่โรงพยาบาล
“เฮ้ออ จะมาทำไมเนี่ย...แล้วยังไม่มีคนมาตามหาอีกเหรอ ไหนว่าเป็นนางแบบดัง...”
เมฆาที่อดห่วงไม่ได้เลยตัดสินใจขับรถมาดูที่โรงพยาบาลและก็พบว่าเดียร์น่าอยู่คนเดียวไม่มีใครมาหาเลยสักคน เขาเดินไปเดินมาอย่างลังเลที่จะเข้าไป เมื่อยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว
“ญาติคนไข้ใช่ไหมคะ พอดีคุณหมอต้องการพบค่ะ”
“ครับ? เอ่อ...”
“ทางนี้เลยค่ะ”
เมฆาที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่กลับต้องเดินตามนางพยาบาลออกไป เมื่อยังไงเขาก็เป็นคนพาเธอมาที่นี่ และพอเข้าไปพบคุณหมอเขาถึงกับตกใจที่ในเลือดของเดียร์น่านั้นมียาปลุกเซ็กส์ผสมอยู่ค่อนข้างเข้มข้นเมื่อมันเป็นยาชนิดออกฤทธิ์รุนแรงเสียด้วย
“ขอบคุณครับ...”
เขาเอ่ยขอบคุณคุณหมอแล้วเดินกลับออกมาพร้อมผลเลือดของเดียร์น่า ก่อนจะมาหยุดยืนหน้าห้องพักฟื้นของเธออีกครั้ง
ปิ๊บ ปิ๊บ...
“ว่าไง...”
“บอสคะ การประชุมจะเริ่มแล้ว บอสอยู่ไหนคะ”
เป็นกานดาเลขาของเขาที่โทรเข้ามาเมื่อเจ้านายผู้ไม่เคยมาทำงานสายกลับยังไม่ถึงบริษัท เมฆาก้มลงมองเอกสารในมืออย่างคิดหนัก
“ประชุมก่อนได้เลยแล้วค่อยสรุปการประชุมส่งให้ผม”
“คะ?...เอ่อ ค่ะ...”
สั่งเสร็จเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องของเดียร์น่า แล้ววางเอกสารที่ได้มาจากคุณหมอไว้ข้างเตียงของเธอ เขามองดูเธออย่างครุ่นคิดว่าหลังจากแยกจากเขาแล้วเธอไปทำอะไรมาถึงโดนยาพวกนั้นเข้าให้
ส่วนเดียร์น่าหลังจากที่ได้พักอย่างเต็มอิ่มเธอก็ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา สองตาปรือมองไปรอบๆและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลพร้อมสายน้ำเกลือระโยงระยางไปหมด
“อื้ออออ...”
เธอยกมือขึ้นจับหน้าผากเมื่อรู้สึกปวดหนึบจนต้องนอนลงอีกครั้ง ก่อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะกลับเข้ามาในหัว เดียร์น่าได้แต่มองไปรอบๆเมื่อจำไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ ก่อนจะพยายามลุกเดินออกไปเพื่อหาทางติดต่อน้องสาวของเธอโดยไม่เห็นเอกสารที่หล่นลงพื้น
จากนั้นไม่นาน เดซี่ น้องสาวฝาแฝดของเดียร์น่าก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาที่โรงพยาบาลเมื่อเดียร์น่าโทรไปบอกว่าให้มารับกลับ
“แฮ่กๆๆๆ เดียร์ แฮ่กๆๆ เดียร์น่า ทำไมแกถึง...ถึงมาอยู่ที่นี่ห๊ะ เกิดอะไรขึ้น”
เดซี่ถามออกมาพร้อมอาการหอบเหนื่อยจากการวิ่งมา เธอตกใจแทบแย่เมื่อพี่สาวฝาแฝดโทรไปบอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล
“เดซี่...ไปจ่ายเงินค่ารักษาแล้วพาฉันกลับบ้านหน่อยสิ”
เดียร์น่าบอกขึ้น ทำเอาเดซี่ถึงกับมองพี่สาวฝาแฝดอย่างแปลกใจเมื่อคำว่ากลับบ้านนั้นหมายถึงบ้านที่ไหนกันเมื่อบ้านเกิดของเธอสองคนนั้นอยู่ไกลถึงสเปน
“สเปนเหรอ?”
“ไม่ หมายถึงกลับห้อง”
“อ้อๆๆ งั้นรอแปปนึงนะเดี๋ยวมา”
พอได้ยินแบบนั้นเดซี่ก็รีบเดินกลับออกไป ปล่อยให้เดียร์น่าได้แต่ล้มตัวลงไปนอนที่เดิมเมื่อเธอต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดถ้าไม่อยากเป็นข่าว และอีกอย่างตอนนี้ทุกคนคงกำลังตามหาเธอเมื่ออยู่ดีๆเธอก็หายตัวไปแบบนี้
“ทำไมต้องมาที่ห้องฉันด้วย รกก็รก ห้องก็เล็ก”
หลังจากจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จ เดียร์น่าก็ขอไปพักที่ห้องของเดซี่เมื่อไม่อยากเจอกับปันปัน ทำเอาเดซี่ถึงกับบ่นขึ้นเมื่อห้องของเธอทั้งเล็กและรกจนแทบไม่มีที่จะยืนอยู่แล้ว
“ขออยู่แค่ไม่นานหรอกน่า...เฮ้ออออ สบายจัง”
เดียร์น่าบอกขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนไปบนเตียงขนาดเล็กของน้องสาวอย่างรู้สึกผ่อนคลายเมื่อห้องน้อยๆห้องนี้เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยของเธอเลยก็ว่าได้
ส่วนเดซี่ที่ถึงแม้จะบ่นแต่กลับเผยยิ้มออกมาอย่างดีใจที่พี่สาวรู้สึกสบายใจที่อยู่กับเธอ เมื่อเธอกับเดียร์น่านั้นถึงจะเกิดมาเป็นฝาแฝดกันก็จริง แต่ใครจะไปรู้ว่าฝาแฝดแบบพวกเธอกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อเดียร์น่านั้นเป็นนางแบบสาวสุดฮอตที่ทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ต่างจากเธอที่เป็นเพียงนักข่าวสายอาชญากรรมต๊อกต๋อยที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยแถมใส่แว่นหนาเตอะจนคนชอบล้อเลียน แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เคยคิดอิจฉาหรือด้อยค่าตัวเองเลยเมื่อเธอกับเดียร์น่ามีกันแค่สองคนพี่น้อง
“ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไปอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนั้นล่ะ”
เดซี่ถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเดียร์น่าพร้อมจะพูดแล้ว
“เดซี่...ฉันอยากลาออกจากวงการ...”
“ห๊ะ? ลาออกเหรอ มีอะไรรึเปล่า หรือทะเลาะกับพี่ปันปัน”
เดียร์น่านอนมองเดซี่อย่างคิดหนัก เมื่อชีวิตในวงการของเธอกำลังโลดแล่น และเธอก็ไม่ได้อยากออกจากวงการอย่างที่พูด แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นเธอคิดว่าปันปันคงไม่ปล่อยให้เธอได้ทำงานอย่างมีความสุขแน่เพราะเธอเป็นตัวทำเงินให้แต่กลับต้องมาขอแยกทาง
“ฉันก็แค่...”
“พูดมา มีเรื่องอะไรใช่ไหมถึงต้องไปนอนโรงพยาบาล ถ้าไม่บอกฉันจะเรียกน้าชายมา”
“อย่านะ! เรียกมาได้ถูกลากกลับไร่แน่”
เดียร์น่ารีบปฏิเสธ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เดซี่ฟัง และพอได้ฟังเดซี่ถึงกับโมโหลุกขึ้นควานหาโทรศัพท์เพื่อจะไปต่อว่าปันปันที่ทำเรื่องแบบนั้นกับเดียร์น่า แต่เดียร์น่าห้ามเอาไว้เพราะไม่อยากให้เดซี่มาเดือดร้อนไปด้วย
“ขอฉันพักสักสองสามวันก่อน แล้วฉันจะไปจัดการให้เสร็จๆ อย่าบอกน้าชายก็พอ”
เดซี่ได้แต่มองพี่สาวอย่างหนักใจ เมื่อเธอรู้ว่าเดียร์น่ามีความสุขกับงานขนาดไหน แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนั้น เป็นเธอก็รับไม่ได้เหมือนกัน
“อ่าว ไปไหนแล้ว...”
ทางด้านเมฆาหลังจากประชุมเสร็จเขาก็รีบกลับมาที่โรงพยาบาลแต่กลับพบว่าเดียร์น่าไม่อยู่ที่นี่แล้ว เขาเดินกลับออกไปถามพยาบาลด้านนอกและพยาบาลบอกว่ามีคนมารับเธอกลับไปแล้ว เขามองกุญแจรถในมือที่อุตส่าให้คนไปขับรถของเธอมาให้แต่เจ้าของกลับไม่อยู่ที่นี่แล้ว แล้วอย่างนี้เขาควรทำยังไง ความหวังดีกลับกลายเป็นความยุ่งยากเสียแล้วสำหรับคนอย่างเขา