bc

เชือดก่อนรัก

book_age18+
384
ติดตาม
1K
อ่าน
ครอบครัว
หวาน
ลึกลับ
การโกหก
ฮาเร็ม
สงคราม
polygamy
like
intro-logo
คำนิยม

"ฆ่าเธอด้วยจูบมันง่ายไป.." คำรามจงใจดันกายท่อนล่างเบียดใส่ต้นขาฉันขณะพูด "ฆ่าด้วยวิธีอื่นสนุกกว่า ลองไหม?" เขาทำหยาบคายใส่ฉันแบบนี้ก่อนเราแต่งงานกันซะอีก "เก็บเข็มของนายไว้เย็บผ้าเถอะ.." ซึ่งฉันก็ทำ!

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
00 เหตุผลที่ต้องฆ่าเมีย
-บทนำ- Love if you’re in love จงกล้าที่จะรักเมื่อคุณตกหลุมรัก   -NAMHORM TALK-   [หวานไม่ยอมพูดอะไร เด็กคนนั้นเอาแต่นั่งเหม่ออยู่บนเตียง ฮึก...ทั้งวัน] “...” [ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปหวานมีสิทธิ์เป็นใบ้ตลอดชีวิตแน่ๆ ฮือออ] ฉันได้ยินเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสารผ่านสายทุกครั้งยามได้รับฟังอาการและข่าวของ ‘หวานหวาน’ ซึ่งป่วยและกำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากเกิดเหตุการณ์ถูกรุมทำร้ายทางกายและจิตใจ ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน จากเด็กสาวน่ารักที่มักชอบทำให้พี่สาวอย่างฉันหัวเราะกลายเป็นคนซึมเศร้า ไม่ยอมพูดและเหม่อลอย สร้างความทุกข์ใจให้แก่ผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับรูปคดีที่ไม่มีความคืบหน้า เมื่อผู้เสียหยุดการพูดหรือให้ปากคำไปดื้อๆ [น้ำหอม...เมื่อไหร่หนูจะมาเยี่ยมหวานที่โรงพยาบาลล่ะลูก หนูกับหวานสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ บางทีหนูอาจจะทำให้เด็กคนนั้นยอมพูดอะไรบ้างก็ได้] “หนูจะแวะไปหาน้องพรุ่งนี้ค่ะ” [ขอบใจมากนะลูก หอม...] “ด้วยความยินดีค่ะ คุณป้าเองก็ไม่ต้องร้องไห้นะคะ หนูเชื่อว่ายังไงหวานต้องหาย” [ป้าก็เชื่อ...ฮึก] ทุกคนเชื่อแบบนั้น ต่อให้เวลาจะผ่านไปหลายเดือนแล้วก็ตาม [แล้วตอนนี้หอมเป็นยังไงบ้าง คนที่บ้านนั้นดีกับหอมหรือเปล่า?] “ก็ดีค่ะ คุณป้าไม่ต้องห่วง” ฉันหัวเราะ [ถ้าหอมตอบแบบนี้ป้าก็วางใจ งั้นเดี๋ยวป้าวางก่อนนะลูก กวนเวลาหนูมาเยอะแล้ว] “ค่ะ ถ้ายังไงพรุ่งนี้เจอกันที่โรงพยาบาลนะคะ” หลังสายสนทนาตัดไป การแสร้งหัวเราะเพื่อให้คนฟังสบายใจก็หยุดลงด้วยเช่นกัน การพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังปัจจุบันไม่ได้ดีเท่าไหร่ แม้จะเข้ามาในฐานะ ‘ลูกสะใภ้’ ตั้งแต่ 3 เดือนก่อนก็ตาม เพราะนอกจากเจ้าของบ้านแล้วฉันเข้ากับลูกของเขาไม่ได้เลยสักคนโดยเฉพาะลูกเลี้ยงของเขาหรือพูดให้ถูกก็ผู้ชายที่ฉันต้องแต่งงานด้วยนั่นแหละ เขาชื่อ ‘คำราม’ เป็นผู้ชายที่สารเลวที่สุดเท่าที่ฉันเคยรับรู้มา เขาทำทุกอย่างตามใจตัวเองเพียงเพื่อ ‘ความสะใจ’ และ ‘ความสนุก’ จนเป็นที่รู้จักด้วยฉายาปีศาจยังไงล่ะ จะเรียกว่าอคติก็ได้แต่ฉันไม่ชอบขี้หน้าและการกระทำของเขาเท่าไหร่ พูดตามตรงก็คือฉันคิดว่าเขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่พาพวกไปทำร้ายหวานหวานเมื่อสามเดือนก่อน บอกก่อนนะ ชีวิตฉันไม่เหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าวที่ต้องเอาตัวเองเข้าแลก แต่งงานกับเขาเพื่อสืบหาความจริง แต่การแต่งงานของเรามันเกิดขึ้นเพราะความซวยต่างหาก! แต่การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้มันก็มีข้อดีอยู่บ้างเหมือนกัน หนึ่งเลยฉันสามารถจับตาดูพฤติกรรมเลวๆของคำรามได้มากกว่าที่ผ่านมา หลักฐานแค่เพียงดมกลิ่นของความชั่วที่เขาทิ้งไว้มันก็น่าจะเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าข้อเสียของการมาอยู่ที่นี่มันก็มี นอกจากฉันจะเข้ากับคนในบ้านบางคนไม่ได้แล้ว อีกเรื่องที่ต้องเจอก็...           แกร๊ก... “อุ๊ย ตายจริง!” เสียงเปิดประตูแบบไม่เคาะดังขึ้นพร้อมเสียงอุทานลวงๆของใครคนหนึ่ง ทำฉันถอนหายใจได้โดยไม่ต้องหันไปมอง “วันนี้อยู่ห้องเหรอ นึกว่าออกไปข้างนอกซะอีก” ฉันกลอกตาอย่างนึกเบื่อหน่ายเมื่อคนที่เดินเข้าห้องมาอย่างถือวิสาสะพูดจาเสมือนไม่รู้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก เธอชื่อ ‘ลินดา’ เป็นผู้หญิงของคำรามที่ฉันเจอบ่อยที่สุดจากบรรดาผู้หญิงทั้งหมดที่หมอนั่นมี “เตียงนี้นอนสบายเนอะว่าไหม?” ซึ่งเธอก็เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดที่ฉันเคยได้พบเช่นกัน “น้อยคนนักที่รามจะพามานอนที่เตียงนี้ ส่วนมากเขาจะอาศัยเปิดม่านรูดเอา เธอเองก็น่าจะรู้ คิกๆ” “ไม่ล่ะฉันไม่รู้” “จริงเหรอจ๊ะ... ถ้างั้นครั้งแรกที่เธออ่อยเขาจนได้เสียกันน่ะ มันที่ไหนงั้นเหรอ?” ฉันไม่พูดอะไรเพราะไม่มีคำตอบให้ นอกจากไม่เคยเข้าม่านรูดแล้วฉันยังไม่เคยนอนกับเขาด้วย! “ของฉันน่ะเขาพามานอนที่นี่...บนเตียงนี้” “บนเตียงนี้เลยเหรอ?” ฉันย้อน แต่ไม่ได้มองหน้าเธอหรอก ไม่อยากสีหน้าเวลาเธอแสดงตนว่าเหนือกว่า “ใช่ ฉันไม่ได้อ่อยเขานะ แต่เขาต้องการฉันเอง คิกๆ” เธอหัวเราะคล้ายกับชอบใจ แต่แล้วคงนึกอะไรได้ถึงได้เริ่มพูดจาชวนโมโหขึ้นอีก “วันก่อนตอนที่เธอไม่อยู่ เขาก็เพิ่งพาฉันมานานบนเตียงนี้ รู้บ้างหรือเปล่า?” หลังจากปล่อยให้พูดมานาน ความอดทนที่มีในตัวน้อยนิดก็หมดลง จำต้องเหลือบมองใบหน้าสละสวยและรอยยิ้มเหยียดของอีกฝ่ายในที่สุด ฉันลุกขึ้นจากเตียงจนระดับสายตาของเราอยู่ในระนาบเดียวกันก่อนถามเธอออกไป “เธอคงชอบเตียงนี้มาก...” “ก็นิดหนึ่งจ๊ะ คิกๆ” คนฟังยักไหล่ไม่แยแสต่อคำประชดประชัน คาดว่าหน้าเธอคงด้านจนคำพูดเหล่านี้ไม่ทำให้คิดได้อีกต่อไปแล้วล่ะ “ถึงว่า...” ฉันกระตุกยิ้มอย่างนึกสังเวช ก่อนพูดประโยคถัดมาซึ่งทำรอยยิ้มของคนหุบลงอย่างเห็นได้ชัด “ทำไมถึงได้ภูมิใจกับการเป็นเมียน้อยนัก”          “นังหอม!” คนขนาดตัวพอๆกันวีนเสียงอย่างขัดใจ ใบหน้าสวยๆกำลังบูดเบี้ยวแสดงความเกรี้ยวกราดให้เห็นอย่างเด่นชัด เมื่ออีกฝ่ายแสดงกิริยาออกมาเช่นนั้น ฉันก็อดแอบถอนหายใจทิ้งไม่ได้พร้อมทั้งรีบใช้ปลายนิ้วแตะที่ปากตัวเองเบาๆก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้งเพื่อจบบทสนทนา “ไม่วีนเสียงนะคนดี เธอไม่รู้เหรอว่า...”          “...”           “การเมียน้อยที่ดีควรหัดเจียมกะลาหัวเวลาอยู่ต่อหน้าเมียหลวงอ่ะ” สิ้นเสียงดูเหมือนคำบอกเล่าจากปากฉันจะไม่ได้ช่วยอะไร ลินดาวีนเสียงอย่างกับนางร้ายในละคร ต้องรีบเดินหนีออกมาด้วยความรำคาญ และนี่ก็คงเป็นเรื่องที่ฉันต้องเจออีกอย่างนับตั้งแต่ผ่านการแต่งงาน... ฉันพาตัวเองออกจากส่วนของห้องนอนตรงไปยังห้องน้ำภายในห้องเดียวกัน พูดง่ายๆก็พื้นที่ส่วนของเตียงนอนถูกคั่นด้วยม่านบางๆ ระหว่างพื้นที่ทั่วไปกับเขตสำหรับการนอนพักผ่อนนั่นแหละ ทันทีที่เข้ามาในห้องน้ำ ฉันก็รีบปลดกางเกงออกนั่งทำธุระเบา มือพลางหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเข้าโปรแกรมแชทและส่งข้อความหาใครคนหนึ่งทันที น้ำหอม :: เบื่ออ่ะ อยากไปจากที่นี่ ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ฉันก็ได้รับข้อความตอบกลับมา โซล :: ออกมาทีน้ำพุ เดี๋ยวขับรถไปรับ น้ำหอม :: คืนนี้ขอนอนด้วยได้ป่ะ พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมหวานที่ รพ. โซล :: ไว้คุยกัน ออกมาก่อนเถอะ ตึงง!! “เฮือก!” ขณะกำลังพิมพ์ข้อความเพื่อตอบอีกฝ่าย จู่ๆ ประตูห้องน้ำซึ่งเคยถูกปิดสนิทกลับถูกมือดีเปิดกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงแถมไร้มารยาทอย่างสุดๆ โดยเฉพาะคำพูดคำจาที่แสร้งเหมือนไม่รู้ว่ามีคนกำลังใช้ห้องน้ำอยู่ “อ้าว ไม่ยักรู้ว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ” รอยยิ้มยียวนปรากฏบนดวงหน้าคนพูดสร้างความหงุดหงิดให้ฉันที่เห็นทันที “ถ้ารู้แล้วก็ออกไป” ฉันบอกอย่างใจเย็น แต่อีกฝ่ายกลับทำหูทวนลม ลอยหน้าลอยตาเดินเข้าหากระจกบริเวณอ่างล้างหน้าราวกับจงใจกวนประสาทให้มากขึ้นไปอีก “บอกให้ออกไปไง ไม่เห็นเหรอว่าฉันทำธุระอยู่!?” ในเมื่อพูดกันดีๆ คราวนี้ฉันจึงใช้วิธีตะคอก ซึ่งมันดูได้ผลเมื่อคนตัวสูงสภาพเปลือยท่อนบนโชว์ลวดลายรอยสักเท่ตามเนื้อตัวยอมหันกลับมาสนใจในที่สุด เขาหรี่ตามองฉันซึ่งนั่งในสภาพกึ่งเปลือยบนชักโครกก่อนทำเรื่องทรามสุดด้วยการโน้มหน้าเอียงมองลอดหว่างขาอย่างถือดี จนต้องใช้มือปิดของลับของตัวเองให้พ้นไปจากสายตา แต่ดูเหมือนว่าการยียวนกวนประสาทของเขาจะไม่ยอมหยุดลงง่ายๆ แทนที่จะเดินออกไป กลับกลายเป็นว่าคำพูดฉันคือการเร่งให้เขาเดินเข้ามาหา และใช่! หมอนี่คือ คำราม ผู้ชายนิสัยทรามที่ฉันโคตรเกลียด! “สรุปเข้ามานั่งขี้หรือเล่นโทรศัพท์?” คำรามเริ่มหาเรื่องแถมยังฉวยโอกาสดึงโทรศัพท์ไปจากมือฉันที่ทำอะไรไม่ได้เพราะแต่งกายไม่เรียบร้อย “เอาคืนมานะเฮ้ย!” ฉันตะคอกพลางพยายามไขว้คว้ามือข้างหนึ่งเพื่อเอาโทรศัพท์กลับคืนมา แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก เมื่อคำรามไม่สนใจแถมยังเสียมารยาทไล่เปิดข้อความเก่าๆที่ฉันคุยไว้ขึ้นอ่านแบบไม่ได้รับมารยาท ส่วนปากก็พึมพำว่า “ถึงว่า ทำไมเมื่อวันก่อนไอ้โตถึงโดนดักกระทืบตอนไปส่งแต้วกับส้มจี๊ด…” ฉันกัดฟันกรอดอย่างนึกเจ็บใจเมื่อถูกศัตรูจับได้คาหนังคาเขา คนตัวสูงตวัดหางตามองหน้าฉันเล็กน้อยแบบไม่ประสงค์ดีเท่าไหร่ แถมรอยยิ้มร้ายๆนั่นก็ตีความได้หลายๆ ความหมาย “อยู่ที่นี่น่าเบื่อมากว่างั้น?” “ไม่ใช่เรื่องของนาย! อ๊ะ...” เสียงตะคอกดังกล่าวทำเขารีบพุ่งตัวเข้าใส่ฉันบริเวณชักโครกทันที “รายงานความเคลื่อนไหวของสามีกับเพื่อนสามีให้คนอื่นรู้แบบเนี่ย เขาเรียกว่าไรว่าไรรู้ไหม?” คำรามต่อว่าพลางทาบมือข้างหนึ่งลงกับผนังห้องน้ำ ส่วนมืออีกข้างก็โบกโทรศัพท์มือถือของฉันไปมาคล้ายกับรอฟัง แต่เมื่อไม่ได้คำตอบ เขาจึงเฉลยด้วยตัวเอง “เมียไม่รักดี!” -KHAMRAM TALK-          “ฉันไม่ใช่เมียนาย!” เสียงแหลมเล็กหวีดสวนอย่างทันควัน ปฏิเสธทุกเงื่อนไขที่ผมหยิบยื่นให้ “ถ้ายังไม่ใช่เมีย งั้นก็เป็นมันตอนนี้เลยไหม?” ผมจงใจละสายตาจากใบหน้าสวยๆ ที่กำลังแสดงความโมโหร้ายผ่านแววตาและสีหน้าลงต่ำไปยังต้นขาขาวซึ่งเวลานี้ไม่ได้มีอาภรณ์ใดปกปิดอย่างมิดชิด เว้นเพียงแค่สองมือของเธอเท่านั้น “ตอนนี้วิวกำลังดีเลย อรรถรสดีนะ?” “ไปตายซะ!”  ผมหัวเราะในลำคอเมื่อได้รับคำตอบ และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ปฏิเสธให้ตายอย่างไรผมก็เอาเธอไม่ลงอยู่ดี อันที่จริง ‘น้ำหอม’ จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง แถมยังดูไม่โง่ ไม่งี่เง่าเหมือนแบบพวกผู้หญิงที่ผมเคยเจอมา เธอ่อนกว่าผมหลายปี แต่เรื่องมารยาทในการคุยกับผมของเธอนั้นเป็นศูนย์ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมเมินร่างกายน่าฟัดของเธอหรอก เพราะเหตุผลเดียวต้องของ Say bye ร่างกายน่าดึงดูดของเธอนั้น ก็คือ ผมไม่ชอบใช้ของซ้ำต่อจากใครโดยเฉพาะกับศัตรู “ปากแบบนี้...” ผมผละตัวออกห่างจากเธอช้าแต่ไม่ใช้กับมือซึ่งถือโอกาสจับขาอ่อนเธออย่างละลาบละล้วง แน่นอว่าปฏิกิริยาของเธอมีแต่การต่อต้านที่จะถูกสัมผัส แต่แรงผู้หญิงน่ะเหรอ จะสู้แรงผู้ชายได้ ไม่มีวัน! ฟึ่บ! “อ๊ะ!” ผมใช้แรงที่มีมากกว่าเธอนักกระชากเรียวขาให้แยกออกจากกัน แต่สายตาน่ะไม่ได้มองตามลงไปหรอกนะ แต่ผมกำลังโฟกัสไปที่ใบหน้าสวยๆ กับคำพูดที่ยังลั่นออกไปไม่จบดี “เก็บไว้ใช้งานกับเรื่องอื่นดีกว่าไหม?” พูดจบผมก็จงใจปล่อยโทรศัพท์ในมือผ่านหว่างขาเธอใส่ชักโครกแทบจะเวลาเดียวกัน ตุ๋ม! เสียงของน้ำในชักโครกดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจในสิ่งที่เพิ่งพูดออกไป ผมไม่รอช้ารีบผละตัวออกห่างจากเธอทันที ถึงอย่างนั้นก็ยังมีมารยาทที่จะช่วยกดชักโครกให้ “เวรเอ้ย! หยุดนะ!” คนตัวเล็กกว่าพยายามผลักตัวผมให้หยุดการกระทำทั้งหมดลง แต่ดูเหมือนเธอจะช้าไปหน่อย เมื่อผมสามารถกดชักโครกให้จนสำเร็จกิจ “คำราม!” เธอตะคอกชื่อผม แม้แต่หลับตาก็รู้ว่าคนพูดกำลังเกรี้ยวกราดมากแค่ไหน แต่สภาพกึ่งเปลือยแบบนี้ เธอคงมีปัญญาทำได้แค่นั้นนั่นแหละ “ไปนะ พอดีมีธุระที่น้ำพุ” ผมยิ้มให้เธออีกครั้งและผละตัวหันหลังเดินออกจากห้องน้ำไปอย่างคนอย่างอารมณ์ แน่นอนว่าน้ำหอมรีบจัดการดึงกางเกงของตัวเองขึ้นสวมทันที แต่อย่างที่บอกเธอมันเต่า ผมปิดประตูห้องน้ำกระแทกใส่หน้าก่อนที่เธอจะพุ่งเข้าประชิดได้ทันเสียอีก ตึง!! ตึง!!! “คำราม! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!!” เธอหวัดเสียงน่ารำคาญพานให้ผมปวดหัวจี๊ดเวลาที่ได้ฟัง แถมยังทุบประตูจากภายในห้องน้ำแบบไม่เกรงใจเจ้าของสถานที่ ตึง!! ตึง!! “ไอ้คำราม!!!” แกร๊ก... กุญแจห้องน้ำถูกไขลงกลอน เมื่อผมรู้สึกเป็นห่วงคนในบ้านขึ้นมา ตึง! ตึงง!! “บอกให้เปิดประตูไง ฟังภาษาคนออกไหม!?” ขืนผู้หญิงคนนี้หลุดออกมาได้ คงจะไล่กัดคนอื่นไปทั่ว ขังไว้ในห้องน้ำแบบนั้นนั่นแหละดี “กุญแจวางอยู่หน้าห้องน้ำ...” ผมกระตุกยิ้มอย่างนึกตลก เพราะอันที่จริงแล้วผมไม่ใช่คนหวังดีกับคนอื่นมากนักหรอก เหตุผลจริงๆ แล้วมันก็แค่... ตึง!!! “อยากออก ก็หยิบไปไขเอา” อยากกวนตีนเฉยๆ

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook