ตอนที่ 3

1531 คำ
ตอนที่ 3 “ไม่ว่ะ เพราะงานนี้ไอ้พฤกษ์มันเอาด้วยแล้ว ตอนนี้รอคำตอบแค่แกคนเดียวเท่านั้น” ธราเทพยกมือขึ้นลูบท้ายทอย ขนตามแขนและขาลุกชัน ใบหน้าคมคร้ามมีไรหนวดยิ้มแหยๆ พาผู้หญิงเข้าบ้านเหรอ มีหวังเขาตายหยังเขียดแน่ ถึงแม้แม่อยากได้ลูกสะใภ้มากก็จริง แต่งานนี้แม่บ่นสามวันเจ็ดวันไม่จบแน่ ดีไม่ดีมีพ่อร่วมผสมโรงด้วย ไอ้เขามันหัวเดียวกระเทียมลีบ ตายแน่ๆ ...ตายหยังเขียด... “เออ...จะเอาไงก็เอากัน แกส่งรายละเอียดมาให้ก็แล้วกัน อีกสามวันจะขึ้นไปหาแกกับไอ้หนึ่ง” ธราเทพตอบรับอย่างเสียไม่ได้ แต่ในใจกลับเริ่มสนุกสนาน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เจอกับสองเพื่อนรัก ก็ตั้งแต่เรียนจบมาและเข้ามารับหน้าที่เป็นกำนันต่อจากบิดาละมั้ง ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่สายใยเส้นเล็กๆ ระหว่างเพื่อนที่ยอมแม้กระทั่งตายแทนกันได้ยังผูกติดกันไว้ไม่คลาย ถึงไม่ได้เจอกันแต่ในยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า มีทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ทำให้ระยะทางที่ห่างไกลกลับเหมือนใกล้เพียงแค่เอื้อม คงจะมีพักหลังๆ นี่แหละที่ในหมู่บ้านมีเรื่องมีราวเกิดขึ้นมากมาย ทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันห่างเหินกันไปบ้าง แต่ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเกิดเรื่อง ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันไกลแค่ไหน เพื่อนก็ยังต้องช่วยเพื่อนเสมอ “ไม่ต้องวะเทพ” “ทำไมวะ?” ธราเทพถามกลับอย่างสงสัย ไม่ให้เขาไปกรุงเทพแล้วจะได้ตัวผู้หญิงตรงหน้ามาได้ยังไงกัน หรือว่าการัณย์ห่วงน้องจนเพี้ยนไปแล้ว “อีกสามวันผู้หญิงคนนั้นจะเดินทางไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ภูเก็ต และที่สำคัญคือไปที่โรงแรมกันด้วย แกเตรียมวางแผนการไว้ได้เลยเพื่อน” “อือ...” ธราเทพวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ขณะที่สายตายังไล่วนไปตามข้อความที่ขึ้นอยู่บนคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เขาต้องการความมั่นใจว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่ร่วมก่อการร้ายกับเพื่อนรักในครั้งนี้ ดูท่าคู่กรณีของเปรมมิกาคงจะต้องมีดีมากถึงขนาดทำให้สาวน้อยผู้แสนจะมั่นใจในตัวเองเสียสูนย์เข้าไปนอนในโรงพยาบาลได้ ‘เอาละคนสวยไงเรามาเจอกันสักตั้ง ฉันเองก็อยากรู้ว่าเธอจะมีดีแค่ไหน’ เอ๊กอีเอ๊กเอ้กๆ เสียงไก่ขันปลุกธราเทพให้ตื่นจากนิทรารมย์ อากาศยามเช้าตรู่ช่วงเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวของชาวบ้านป่าบ้านไร่เย็นฉ่ำชื่นใจโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ชายหนุ่มควานหาคนที่อยู่ในอ้อมกอดเข้ามาแนบอก ธราเทพคิดถึงความรู้สึกของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม ขนาดว่าพาแม่ตัวดีเข้ามานอนบนเตียงแล้ว เขายังกลัวอยู่เลยว่าแม่ที่นอนหลับแล้วจะตื่นขึ้นมา โหย...ไม่อยากคิดเลย จะเป็นยังไงถ้าแม่ตื่นขึ้นมาพบจริงๆ มีหวังไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ เฮ้อ...ไม่ใช่อะไรหรอก เขาไม่อยากตอบคำถามเท่านั้นเอง เพราะแม่เป็นคนที่เข้าใจอะไรยาก...ไปนิด กว่าจะรู้เรื่องจะต้องถามให้ได้ความตั้งแต่ต้นเหตุ เรื่องราวเป็นมาอย่างไร แล้วเลยไปไหนต่อ จนมาถึงปลายเหตุ ทำไมเขาต้องพาเกร็ดแก้วมาอยู่ที่บ้านในฐานะ...ภรรยาด้วย ชายหนุ่มมองใบหน้างาม สมองก็คิดประมวลเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาจะอธิบายกับแม่ยังไงดี แม่ถึงจะให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด และเขาก็จะต้องเคลียร์กับผู้หญิงที่นอนอยู่ด้วย ถูกเอาตัวมาทำไม จะต้องอยู่ที่นี่สักกี่วัน และอยู่ในฐานะใด ถ้าเป็นน้องสาวอกหักหนีรักมาพักร้อนก็ได้นะ แต่ไม่รู้ทำไมใจถึงได้บอกว่าไม่ดี ให้เป็นเมียนั่นแหละดีแล้ว คิดแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน ได้เมียมาตั้งคน รูปร่างหน้าตาก็สวยดีใช่หยอก แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกนั่นแหละ สาวเจ้าจะยินยอมหรือเปล่า แล้ว...เขาจะไม่มีวิธีจัดการหรือไงกัน ในเมื่อเรื่องยากกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว แค่เรื่องหญิงไม่ยอมนี่น่าจะเล็กอยู่นะ ชายหนุ่มสอดมือประสานกันรองไว้ใต้ท้ายทอย นึกถึงตอนที่ได้เห็นหน้าเกร็ดแก้วชัดๆ ครั้งแรกในงานเดินแฟชั่นโชว์ ใจที่แข็งแกร่งก็เกิดหวั่นไหว เมื่อจูบที่เจ้าของไม่ได้พอใจจะให้นั่นอีก ทำให้หัวใจเขาถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ คิดแล้วก็น่าขำ อายุเขาสามสิบกว่าไปแล้ว ใช่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นอายุไม่ถึงยี่สิบเสียเมื่อไหร่ แต่กลับตื่นเต้นเหมือนเด็กประถมที่ต้องออกไปแสดงอะไรหน้าชั้นเป็นครั้งแรกและคนแรกเสียได้ ธราเทพเปลี่ยนจากการนอนหงายเป็นนอนตะแคง มองคนที่นอนหลับสนิทใกล้ตัวอย่างอิจฉานิดๆ สำหรับเขาเพียงแค่หูได้ยินเสียงไก่ขัน แม้จะนอนดึกเพียงใดก็รู้สึกตัวตื่นแล้ว แต่เกร็ดแก้วยังคงอยู่ในนิทรารมย์ แต่ก็ดี มันทำให้เขามองเธอได้เต็มๆ ตาอีกครั้ง เค้าโครงหน้าเกร็ดแก้วเป็นรูปไข่ ดวงตากลมโตล้อมด้วยขนตายาวงอนจนอยากรู้ว่าถ้าเอาปากกาไปตั้งไว้จะหล่นหรือเปล่า จมูกเล็กโด่งขึ้นสันรับกับริมฝีปากรูปกระจับเป็นสีแดงระเรื่อ ผิวพรรณก็ผุดผ่องเป็นยองใย ตอนที่เธอเดินออกมาจากด้านหลังเวทีด้วยชุดสีราตรีสีขาว ทั้งสวยและงามสง่า กิริยาท่าทางก็คล่องแคล่ว ใบหน้าที่ตกแต่งไว้อย่างดีเชิดขึ้นสูง เธอยกมือเรียวขึ้นทาบบนเนินอกโชว์สร้อยข้อมือที่ทำจากเพชรเม็ดงาม ก่อนจะสะบัดหน้าหนีพอประมาณ ดูแล้วไม่น่าเกลียดใดๆ เลยสักนิด แต่กลับยิ่งเสริมให้มีเสน่ห์และเรียกร้องความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่รอบเวทีได้เป็นอย่างดี เทียบความสวยแล้ว เปรมมิกาแพ้หลุดลุ่ยทีเดียว ความงามของน้องสาวนอกไส้เขาคือผู้ชายมองผ่านเลยไปก่อนแล้วถึงค่อยย้อนกลับมามองใหม่ แต่สำหรับเกร็ดแก้วแล้ว ผู้ชายทุกคนจะต้องหยุดมองเพียงแค่แรกเห็น และจะต้องมอบหัวใจให้เพียงได้สบกับดวงตากลมโต เกร็ดแก้วยังได้เปรียบเรื่องของฐานะทางบ้านอีกด้วย เพราะเธอคือลูกสาวคนเดียวของเจ้าของร้านเพชรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังจะมีธุรกิจหลายชนิด เขายังแว่วๆ ได้ยินข่าวมาก็คือ ในตอนนี้บิดาของหญิงสาวเปิดร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์ดังให้ลูกสาวได้บริหารดูแลด้วย ในขณะที่เปรมมิกาแม้จะเป็นน้องสาวของการัณย์ พิริยะสนิทชัยวงศ์ แต่ก็ไม่ใช่ลูกสาวเมียหลวง แต่เป็นเมียน้อยลำดับที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไร้ทรัพย์สินมรดกพอกกาย เขาจึงไม่ได้แปลกใจมากสักเท่าไหร่ เมื่อได้รู้ข้อมูลทุกสิ่งจากปากเพื่อนรักเรื่องน้องสาวโดนสลัดรัก แต่ถึงเปรมมิกาจะไม่ใช่ทายาทสายตรงของพิริยะสนิทชัยวงศ์ แต่การัณย์ก็รักน้องสาวคนนี้มากกว่าญาติคนอื่นๆ เพราะความน่ารักบวกกับการเข้าอกเข้าใจพี่ชายนั่นแหละ แต่อย่าให้แม่โกรธขึ้นมาเชียวนะ พี่ชายก็เถอะ แม่ด่าไม่ไว้หน้าเหมือนกัน ใบหน้าธราเทพเปื้อนยิ้ม ดวงตาแพรวพราวระยับ เมื่อคืนกว่าจะเดินทางมาถึงบ้านก็ดึกเอาการ อย่างแรกไม่ใช่เพราะการเดินทางที่ไกล แต่เพราะเขาแอบจอดรถข้างทางหากำไรจากแก้มนุ่มหอมนี่บ่อยๆ ต่างหากละ ไม่รู้ผู้หญิงอะไร กลิ่นกายหอมจนเขาอดใจไม่ไหว ไอ้เขาก็ดันร้างผู้หญิงมานาน ถึงจะมีวนเวียนแจกขนมจีบจนหัวบันไดบ้านไม่แห้ง แต่ก็ไม่ตรงใจเขาเอาเสียเลย และก็คิดเป็นน้องเป็นนุ่งเสียมากกว่า ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ บางคนถึงกับเคยแก้ผ้าวิ่งเล่นและอาบน้ำคลองด้วยกันด้วยซ้ำ ธราเทพยกมือขึ้นปิดปากกลั้นอาการหาวหวอดๆ ร้างรางานประจำไปเสียหลายวัน ไม่รู้วันนี้มีงานอะไรต้องทำหรือเปล่า ไม่รู้น้องวัวน้องควายในคอก แม่อีหนูหมูและไก่ในเล้าจะเป็นยังไงบ้าง เพราะเขาไปภูเก็ตเกือบจะอาทิตย์ เพราะเขาเรียนดี กิจกรรมเด่น มีบางองค์กรมาทาบทามเพื่อให้ไปร่วมงานด้วย แต่เขาปฏิเสธ เพื่อนที่รู้ก็เลยถาม “อะไรวะไอ้เทพ...คนอื่นวิ่งหางานจนรองเท้าสึก แต่มึงมีคนมาประเคนงานให้ถึงที่ เสือกทำหยิ่งไม่รับ แล้วมึงจะไปทำอะไรวะ...กลับบ้านไปทำไร่ไถนาหรือไง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม