บทที่ ๒-๒ : นางในฝัน
“ไปช้อปปิ้งกันดีกว่าค่ะ คุณกช” เจ้านายสาวเอ่ยปากชวน หลังจบการประชุมอันหนักหน่วงตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงหกโมงเย็น! ประชุมติด ๆ กันชนิดว่าได้รับประทานอาหารแค่สิบห้านาที พลอยพิลาลุกขึ้นบิดกาย ให้หายจากความเหนื่อยเมื่อยล้าจากโต๊ะทำงาน
“ค่ะคุณพลอย ไปสยามหรือจะไปไทมส์สแควร์ดี?” กชกรส่งยิ้มหวาน รีบโทรหาคนขับรถยนต์ส่วนตัวให้มารอก่อนเวลา ไม่ให้มีล่าช้าเหมือนเมื่อเย็นวาน เธอไม่สบายใจพอเห็นหน้าซีด ๆ ของเจ้านาย
“ไปไทมส์สแควร์ ใกล้ ๆ นี้แหละค่ะ ว่าจะไปทำสปาหน้ากับเดินซื้อของนิดหน่อย เบื่อรถติด”
แน่ว่าการสะสมของแบรนด์คืองานอดิเรกอย่างหนึ่ง เธอชอบที่จะถือของสวย ๆ งาม ๆ เดินเล่นบนห้างสรรพสินค้า นวดหน้า ขัดผิว เป็นใครก็ต้องชอบใช่ไหม หากมีเงินให้ผลาญ
จากตึกใหญ่ใจกลางกรุงติดห้างสรรพสินค้าใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที กชกรชวนเธอพูดคุยเรื่อยเปื่อยอยู่ตลอดเวลา ตามปรกตินิสัยความเป็นคนช่างเจรจา กระทั่งมาถึงเป้าหมายแรก คือร้านกระเป๋า
พนักงานที่นี่เห็นหน้าเธอทีไร ต้องเป็นอันยิ้มหน้าบาน แต่วันนี้กลับดูสีหน้าไม่สดใส ยังกับรู้ว่าลูกค้าประจำต้องการอะไร ยิ่งเสียงหวานเอ่ยทีละถ้อยคำชัดเจน
“แอร์เมส เบอร์กิน บลู ที่ฉันสั่ง มาหรือยังคะ?”
สองหญิงสาวมองหน้ากันเลิกลั่ก ก่อนคนหนึ่งจะตอบ “เอ่อ.. คือ เพิ่งมีคนมาซื้อไปค่ะ ใบสุดท้าย”
“ใบสุดท้าย!” เสียงแหลมเล็กกรีดออกมาจากลำคอ ในเมื่อลูกค้าชั้นเลิศที่หมดเงินไปไม่รู้กี่ล้านกับร้านนี้ ถึงขั้นว่าผู้บริหารให้สมนาคุณฟรีถึงบ้าน เธอสั่ง! ทำไมถึงได้มีคนมาเอาไป! ใบหน้าสดสวยแดงก่ำเบิกตาโพล่งมองพนักงานทั้งสองปานจะกินเลือดเนื้อ ก่อนที่อารมณ์เดือดพล่านจะหยุดลง
“คุณนที! แฟนคุณพลอยมาซื้อไปค่ะ” พนักงานสาวละล่ำละลัก เพราะไม่อยากถูกลูกค้าฆ่าตายคาร้าน
ใครก็รู้ว่าดาราหนุ่มในดวงใจสาว ๆ มีเจ้าของ พ่อบุญทุ่มยังถอยกระเป๋าราคาแพงโข ที่จะต้องออร์เดอร์ล่วงหน้าหนึ่งปี ในเมืองไทยยังมีแค่สิบใบเท่านั้น จากเรื่องเซอร์ไพรส์เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป
“ออ.. ค่ะ ขอบคุณนะคะ น้อง” วงหน้างามกลับมามีรอยยิ้มได้ ชี้ปลายนิ้วไปทางเป้าหมายอื่นในร้าน “ถ้าอย่างนั้นฉันเอาใบนี้ กับใบนั้น สีแดง.. ก่อนวันนี้” ตามด้วยบัตรสีดำสนิทวงเงินไม่อั้น เธอก็ได้รับการบริการเป็นอย่างดี หนีไม่พ้นให้คนมาด้วยแซว
“ออ.. ค่ะ กระเป๋าใบเดียว หน้าระรื่นเชียว เอ... หรือว่าเริ่มมีใจให้แล้ว”
“แหม.. คุณกชนี่ถามแปลก พี่ทีเขาอุตส่าห์ทุ่มให้ฉันขนาดนี้ ไม่ชอบก็ต้องชอบล่ะ” พลอยพิลายิ้ม ก่อนจะส่งของให้เลขาฯ ไม่ลืมอีกหนึ่งใบ “เอ้า นี่ของคุณกช”
“คุณพลอย! ไม่ได้ค่ะ กชรับไม่ได้ ไม่เอา” กชกรมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ยกมือ ส่ายหน้าไปมาลูกเดียว และได้รับคำตอบเดิม ๆ
“เอาไปเหอะนะ ถ้าฉันเกิดตายขึ้นมาแต่ยังสาว ๆ ยังไงซะ มันก็เป็นของคุณกชอยู่ดี เพราะฉันไม่รู้จะให้ใคร”
สุดท้ายกชกรก็ต้องรับไปเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ลืมขอบคุณเจ้านายสาวที่ส่งรอยยิ้มให้ในแววตา เพราะยังอารมณ์ดีกับเรื่องกระเป๋า ไม่ได้สนใจชายหนุ่มอย่างที่ปากว่า คงจะแค่ชอบของฟรีก็เท่านั้น
“ไปนวดหน้ากันดีกว่าค่ะ คุณกช”
“ค่ะคุณพลอย ไปสปาหน้านะคะ” กชกรย้ำถาม เดินนำลิ่วไปร้านสปาที่ใช้บริการอยู่เป็นประจำ จัดก*********นให้เรียบร้อย
“วันนี้กชไม่นวดด้วยนะคะ คุณพลอย ว่าจะนั่งทำงานอีกสักหน่อย”
“ตามใจค่ะ คุณกช” เจ้านายสาวไม่เคยบังคับหรือว่าอะไร คนเราก็มีโลกส่วนตัวกันบ้าง ร่างบางในเดรสสไตล์คุณหนูตามพนักงานเข้าไปในห้องอบสปา ตลบอบอวลกลิ่นสมุนไพร พอก้าวขึ้นเตียงนอนรอสักครู่ เสียงกระซิบกระซาบทำให้ดวงตาคู่สวยกลิ้งกลอกไปมา นอนมองเพดานอยู่อย่างสงสัย
“พี่นิดซื้อกลิ่นอโรม่าใหม่มาหยดเตาเหรอ? แก”
“ไม่รู้ดิ ฉันเพิ่งเข้ามาเตรียมห้องเมื่อกี้เอง มันเป็นยูคาลิปตัสนี่”
“แกเบลอหรือเปล่า วิกกี้ ยูคาลิปตัสมันใช่กลิ่นนี้ที่ไหน”
“เออ ไม่ใช่จริง ๆ ด้วย แต่ถ้าลูกค้าไม่ว่าก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าหอมดีนะ ไม่รู้กลิ่นอะไร”
“เหมือนกระแจะจัน...”
“แม่พลอยของพี่..”
เสียงทุ้มนุ่มละมุนหูดังชัดเจนกว่าเสียงของพนักงานสาวที่ยืนหันหลังให้เธออยู่ ใบหน้าสดสวยซีดเผือดไร้เม็ดสี มองหน้าคนที่เตรียมของเสร็จเรียบร้อยดี คิดอะไรไม่ออก ตัวสั่นปากสั่นไปหมด
“นะ.. น้อง คือ.. พี่ปวดท้อง ท้องไม่ค่อยดีค่ะ”
“คะ?”
“พี่ยกค่าตัวให้” บอกสองสาวที่มีสีหน้าแปลกใจ พลอยพิลายกมือแนบอก อกสั่นขวัญกระเจิง ลุกพรวดจากเตียงได้ก็สะบัดผ้าคลุมตัวทิ้ง ก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องสปา เลขาฯที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาลุกขึ้นยืนสุดความสูง
“อ้าว คุณพลอย เพิ่งจะเข้าไปเมื่อกี้นี่คะ?”
“ฉันท้องไม่ดี ไปกันเถอะค่ะ” สีหน้าคนพูดว่าเป็นอย่างนั้น เลขาฯผู้รู้งานเก็บโน๊ตบุ้คใส่กระเป๋าเสร็จจึงบอก
“มีห้องน้ำอยู่ข้างหลังร้าน สะอาดมาก คุณพลอยจะเข้าก่อนไหมคะ?”
“ไม่ค่ะ.. ไปค่ะ” ร่างบางพรวดพราดไป ราวข้าศึกบุก ไม่รอใครแล้วในคราวนี้ ก่อนที่เธอหยุดจ้ำอ้าว และอาการตื่นตระหนกลงเพื่อเตือนสติตัวเอง