น้องนางนวลผ่องแผ้ว งามเกิน ผู้ใด
น้องอยู่แห่งใดฤา จิตพี่
สุขทุกข์คู่เคียงดั่ง ชาติรัก ปางก่อน
น้องรักอย่าทิ้งพี่ พี่ไซร้ วายชนม์
กรุงศรีอยุธยา พระพุทธศักราช ๒๓๑๐
ทั่วทุกสารทิศเต็มไปด้วยเขม่าของเพลิงไฟที่ก่อสุมจากข้าศึก เสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้คน เสีย บ้านเสียเมืองเสียราชธานีกรุงศรีอโยธยาครานี้เท่ากับเสียชีพ
“บัดนี้อโยธยาพ่ายแพ้ย่อยยับให้แก่พระเจ้ามังระ แลเราสองผัวเมียจักถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยศึก หากพี่เป็นไส้ศึกให้พม่ารามัญ คิดคดทรยศบ้านเมือง เฉกเช่นน้องนั้นหูเบา.. โง่เขลานัก พี่คงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ใช่ฤาไม่?”
พระยาร้าย พระยารัก ‘ภยาภลเทป’ ဘယာဘလဒေပ
แม้เป็นดวงจิตล่องลอย ห่วงหา อาฆาต ฤาเป็นภพชาติหน้าฉันใด...
ความรักของพี่นี้หาได้เสื่อมสลายไปกับกาลเวลา
พระพุทธศักราช ๒๔๕๕
คุณชายนายเรือจะกลับมาทวงความรักคืน...
“หล่อนรู้ไหม? แม่พลอย.. พระยาพลเทพ เสนาบดีกรมนา ‘เกษตราธิการ’ หนึ่งในเสนาบดีจตุสดมภ์ถือตราประจำตำแหน่งถึงเก้าดวง มากที่สุดในบรรดาเสนาบดีทั้งปวง ทำไมพระยายศใหญ่ขนาดนั้นถึงไม่มีคนกล่าวถึง? ไม่มีการบันทึกใดๆในประวัติศาสตร์ช่วงเสียกรุงฯครั้งที่สองเกี่ยวกับตัวเขาเลย ทั้งที่เป็นบุคคลสำคัญ”
ดวงตากลมโตสุกสว่างฉายแววอยากรู้อยู่เต็มที่ ตรงกันข้ามกับแววตาคู่หวานคมเอ่อคลอฉายประกายเศร้าหมอง
“เพราะเขาตายไปเงียบๆ โดยไม่มีใครต้องไปจดจำยังไงล่ะ..”