บทที่ ๓-๑ : สร้อยทับทิม
“คุณพี่ได้น้ำปรุงมาแต่เมืองใดเจ้าคะ?” เสียงหวานถามพะเน้าพะนอ ยามชื่นชมขวดแก้วเหลี่ยมมนสีเขียวใบตองอ่อนในมือ
ภายใต้อ้อมแขนแข็งแรงที่คอยกระชับเอวคอด คร่อมกอดอยู่ข้างหลัง หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยไม่ได้สร้างช่องว่างระหว่างกัน แผงอกเป็นล่ำสันบดเบียดอยู่กับแผ่นหลังบาง ราวกับเกรงว่าร่างในอ้อมแขนจะร่วงหล่นลงไปจากโขดหินริมธาราที่มีหมู่มัจฉาแหวกว่าย บ้างคอยตอดปลายเท้าที่สะบัดแกว่งไปมาในสายน้ำอยู่เคียงข้างกัน
“หอมเท่าใด ก็ไม่สู้กลิ่นแม่พลอย เมียรักของพี่..” เอ่ยพลางกดปลายจมูกโด่งเป็นสันคมลงบนต้นคอเพรียวระหง สูดกลิ่นกระแจะจันและเส้นผมสีดำขลับสลวยเข้าเต็มปอด ฝังริมฝีปากย้ำรักลงซ้ำ ๆ อย่างหวงแหน
ไม่มีคราวใดที่พระยาพลเทพจะลืมนำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือมาฝากเมียเอกเพียงหนึ่งเดียว หลังเดินทางกลับจากราชการในดูแลนาหลวง เก็บภาษีข้าว และพิจารณาคดีความเกี่ยวกับที่นา
เป็นเช่นนี้มาแรมปีจนใคร ๆ ต่างอิจฉาว่าลือกันไปถึงความลุ่มหลงเมียของพระยาเจ้าชู้ผู้ไม่ชายตาแลหญิงใดอีก
“คุณพี่มิเห็นว่าน้ำปรุงนี้หอมไปกว่าเนื้อกายน้อง ฤาคุณพี่ตะกละตะกลาม”
“เป็นเช่นนั้นแล หากพี่จักขอชื่นใจเมียรักเพลานี้ น้องจะว่ากระไร?” ชายหนุ่มไม่เคยรอคำตอบ มือหนาซุกซนลอดผ่านอาภรณ์น้อยชิ้นหาอกเต่งตึงที่เริ่มขยายใหญ่ของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ
“คุณพี่.. อย่ารังแกน้องเจ้าค่ะ” เสียงปรามหวาน แม้ความรู้สึกวาบหวามคุ้นเคยแล่นผ่านกายสาว เช่นทุกราตรีกาลที่แลกรับแรงพิศวาสไม่หยุดหย่อน เธอสามารถถูกจุดประกายได้อย่างง่ายดาย ด้วยความจริงที่ว่าเขาเป็นเจ้าของเรือนร่างนี้ทุกตารางนิ้ว
“คุณพี่...!” ในวินาทีที่ส่วนหวงแหนอันพึงเก็บไว้ให้สวามีถูกล่วงล้ำด้วยปลายนิ้วหยาบกร้าน เครื่องแก้วเกะกะในมือจึงถูกดึงออกไปไว ๆ
“พลอยพิลา..” กระซิบเสียงพร่า ความปรารถนาอันมากล้นกำลังแผดเผาเรือนกายชายแกร่ง ดุจมอดไหม้ไปกับเพลิงพิศวาส ใบหน้าสดสวยกำลังทรมานประหนึ่งถูกเฆี่ยนด้วยแส้สวาท เป็นที่น่าพึงพอใจของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบผู้ชอบทรมานตัวเองอยู่ร่ำไป
“คุณพี่ เดี๋ยวใคร.. อื้อ..” มือเรียวยกขึ้นปิดป้องไม่ให้เสียงน่าอายหลุดรอด ด้วยเกรงว่าอาจมีคนมาเล่นน้ำในสระบัวช่วงพลบค่ำ แม้ปลายนิ้วร้อนจัดรุกรานหนักหน่วง รับสู้ไปตามจังหวะ กระชั้นชิดถี่เร็ว หมุนวนเย้าหยอกอยู่อย่างนั้น
“แม่พลอย.. แม่พลอยของพี่” เสียงทุ้มคอยกระซิบคำปลอบ ให้คนที่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับความปรารถนาอันมากล้นในอก ได้ถึงจุดปลดปล่อยในอีกไม่ช้า เขารู้เสมอว่าเมียรักชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือชอบตรงไหนเป็นพิเศษ
“.. คุณพี่!” ลมหายใจหอบโยนสุดท้าย และอาการเครียดจัดบนร่างอรชรพร่างพราวด้วยเม็ดเหงื่อแซมอยู่ทุกอณูเรือนกาย หลังจากที่แรงถี่ระรัวพรากลมหายใจสุดท้ายของเธอไปคว้าดาวพราวระยับ
“ดูแม่เจ้าสุขสม เจ้าตัวเล็กคงไม่กล้าว่าพ่อ”
“คุณพี่.. รังแกลูก” หญิงสาวพยายามปรับลมหายใจหอบสั่นให้เป็นปรกติ ก่อนที่จะทิ้งกายเหนื่อยอ่อนลงบนแผงอกกว้างกำยำ
“พี่เอาใจลูกต่างหากเล่า ดูซี ถีบสู้เสียยกใหญ่” ว่าแล้วก็เลื่อนมือขึ้นลูบหน้าท้องนูนไปมา หาได้รู้ว่าเมียรักกำลังโกรธเคืองเรื่องบางอย่าง และนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบหน้าเธอ
“น้องชังหน้าคุณพี่ยิ่งนัก”
“คุณพลอยคะ... คุณพลอย!” กชกรพยายามเขย่าเรียกเจ้านายที่หลับลึกกว่าเคย มันเป็นหน้าที่ของเลขาฯคนสนิทมาตลอด
ในบางคืน พลอยพิลาไม่สามารถนอนหลับได้โดยไร้ยากล่อมประสาท บทจะหลับก็เหมือนคนโดนวางยา ความฝันประหลาด ๆ คอยรังควาญชีวิตอยู่เรื่อยมา ขณะที่เลขาฯผู้ทำงานมานานกว่าแปดปีจะใช้คีย์การ์ดสำรองเปิดประตูเข้ามาถึงห้องนอน ก็ต่อเมื่อเกินแปดโมงเช้าไปแล้วเจ้านายยังไม่ปรากฏตัว
ร่างบางในชุดนอนผ้าแพรเบาสบายลุกขึ้นนั่งร้อนรน เม็ดเหงื่อแซมไปทั่วกาย ในอุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศเย็นกว่ายี่สิบสี่องศา ก่อนที่จะสะบัดใบหน้าแดงก่ำไปทางหญิงสาวที่ยืนรออยู่ในชุดพร้อมทำงาน
“ล่วงหน้าไปก่อนเลยค่ะ คุณกช เดี๋ยวฉันตามไป”
เลขาฯคนสนิทรู้ใจเธอถึงขนาดนั้น ในเวลาที่ไม่อยากเล่าอะไร กชกรจะไม่คะยั้นคะยอ ไม่แม้แต่จะถามถึงสาเหตุของแก้มขาวนวลที่กลายเป็นสีแดงราวลูกตำลึงสุก
“ค่ะคุณพลอย เดี๋ยวกชชงกาแฟดำวางไว้ให้บนโต๊ะนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” พอส่งยิ้มบาง ๆ ให้หญิงสาวที่จากไป เธอยังคงยิ้ม ไม่มีเหตุผล กระทั่งอุณหภูมิร้อนจัดเห่อขึ้นนวลหน้าไล่ไปถึงลำคอแห้งผาก
เพี๊ยะ! สองมือยกขึ้นตบหน้าตัวเองแรง ๆ ให้ตื่นจากอารมณ์วาบหวาม เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นจริง ๆ ถึงเธอจะเป็นสาวสามสิบที่ยังโสดสนิท ก็ไม่ได้มีความต้องการทางเพศมากถึงขั้นฝันเป็นฉาก ๆ อีโรติก18+สุด ๆ !
ในภาพฝันอันเลือนราง เธอรู้เพียงว่าน้ำเสียงทรงเสน่ห์ และความหล่อเหลาเอาการของคุณพี่ช่างเอาอกเอาใจน่าจะมีอยู่มาก
เฮ้อ...! เสียดายจัง มันเป็นแบบนี้เองสินะ
พลอยพิลาหยัดยิ้มอย่างไม่มีเหตุผลที่จะให้เธอต้องยิ้มเลย ก่อนจะลุกจากเตียง ทันใดนั้นเอง ปลายเท้าเรียวที่แตะลงบนพื้นเย็นเฉียบคล้ายเสียการทรงตัวไปชั่วขณะ หากพอกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้พื้นที่ลอยซ้อนกันอยู่ชัดเจนขึ้น เม็ดพลอยสีแดงจัดดันแยงตา จนต้องยกมือขึ้นปัดป่ายไปมา
สร้อย...? เธอไม่ได้ใส่มันนอนนี่
คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าไปมาแรง ๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่าน อย่างไม่อยากจะเชื่อตัวเองสักเท่าไร มือคว้าขอบโต๊ะข้างเตียงไว้ทรงตัว พอดีกับที่กชกรย้อนกลับมาอีกรอบหนึ่ง
“คุณพลอย.. อุ๊ย!” เสียงอุทาน เหตุเพราะแววตาขุ่นมัวบนใบหน้าซีดเผือดของเจ้านายผู้ไม่เคยป่วยเลยสักครั้ง
กชกรเคยพาเจ้านายไปตรวจสุขภาพประจำปีครั้งล่าสุด มีก็แค่โรคเครียด นอนไม่หลับมาแวะเวียนบ้างเป็นบางคราว อย่างเช่นวันนี้ที่หล่อนชักสังหรณ์ใจว่าพลอยพิลาจะไปทำงานไหวหรือเปล่า
“ไหวไหมคุณพลอย? กาแฟเสร็จแล้วนะคะ”
“ก็บอกให้ไปก่อนไงคะ คุณกชนี่พูดไม่ฟัง” เอ็ดเบา ๆ เลขาฯที่ตัวติดกันตลอดถึงกับก้มหน้างุดสารภาพเสียงอ่อน
“กช... เป็นห่วงค่ะ”
“งั้นรอนั่นแหละค่ะ ฉันจะไปอาบน้ำ แต่งตัว” ในน้ำเสียงหงุดหงิด พลอยพิลายกมือขึ้นกดกุมขมับเต้นตุบ ๆ ก่อนจะเดินหายเข้าห้องน้ำไป
“แม่พลอย...”
เสียงใคร? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ.. ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?
คำถามมากมายหยุดลงที่ยาคลายเครียดสองเม็ดหน้ากระจก ฝ่ามือสั่นเทาหยิบน้ำขึ้นกระดกหมดแก้ว แล้ววางลงที่เดิม ซึ่งกชกรจะวางเตรียมไว้ตรงนั้นในทุก ๆ วัน ไม่ว่าเธอต้องกินหรือไม่
ไม่ใช่ครั้งแรก... ทั้งความฝันและอาการปวดหัว
พลอยพิลาถามตัวเองอยู่เสมอ แต่เล็กจนโตมา ตั้งแต่จำความได้คงสักประมาณสิบกว่าขวบ เธอมักพบเจอเขาในความฝัน บ้างเป็นภาพเลือนรางเหมือนนิมิตในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาทำให้เธอหลงรักรอยยิ้มที่มีเขี้ยวคมตรงมุมปากจนแทบคลั่ง!
ทั้งที่ไม่มีเวลาให้คิดเรื่องพวกนี้..
นักธุรกิจอย่างเธอยังมีงานกองพะเนินเท่าภูเขาเอเวอร์เรสอยู่บนโต๊ะ นัดหมายประชุมหุ้นส่วน ประชุมบอร์ดบริษัทตัวเอง บริษัทพ่อ ประชุมมันจนไม่รู้ว่าวันนี้จะได้มีโอกาสหายใจหรือเปล่า
อาการที่ดีขึ้นตามลำดับเมื่อยาออกฤทธิ์พาให้วงหน้าซีดขาวกลับมามีสีระเรื่อบาง ดวงตาคู่สว่างใสมองกระจกบานใหญ่
“แก้เครียด.. วันนี้ฉันจะจัดเครื่องเพชรชุดใหญ่ไฟกระพริบ” ในท่าทีเชิดหยิ่ง ความเห่อของใหม่ที่เพิ่งถอยมาทำให้หยิบเพชรเม็ดงามมาทาบทีละอัน จากกล่องกำมะหยี่ราคาแพงมากมาย ในตู้ขนาดใหญ่ข้าง ๆ กระจก มีอ่างจากกุซซี่ลอยตัว หินอ่อนลวดลายขาวสลับดำเข้ากับตัวห้องน้ำและห้องแต่งตัวหรูหรา เดรสสวย ๆ อีกสองสามชุดถูกหยิบมาด้วย
ความเป็นคนช่างเลือกของเซเลบสาวอาจทำให้เสียเวลาสักหน่อย แต่พลอยพิลาก็ค่อย ๆ เลือกมันอย่างพิถีพิถัน โดยไม่ได้ถอดสร้อยทับทิม
เธอมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่างานดี ๆ เป็นผลตอบแทนจากบุคลิกที่ดี ความสวยสะพรั่งเป็นอาวุธอย่างหนึ่งในการเจรจาธุรกิจไม่ต่างจากเอามีดจ่อคอคู่ค้าไว้ หากพวกเขาเหล่านั้นกลับคิดว่ามันเป็นดอกไม้ที่ทั้งหอมและสวย
ลึก ๆ แล้วมันก็ยังเป็นความสะใจอีกเสียด้วย ที่เธอหาทุกอย่างมาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน จากนั้นก็ไปตบหน้าพิมพาให้ตาลุกเป็นไฟได้ด้วยงานแบรนด์แต่หัวจรดเท้า มันทำให้เธอมีความสุขเอามาก ๆ
“อันนี้แหละ เริ่ด..” ต่างหูเพชรนี้น้ำหนักสองกะรัต เพชรเบลเยี่ยมรัสเซียนคัทประดับไว้เคียงข้างวงหน้าหวาน ร่างบางค่อย ๆ ถอดเสื้อนอนลายน่ารักออกจากเรือนกายขาวผ่องลออดุจแพรไหม วางสร้อยไว้ข้าง ๆ กัน ก่อนจะกวาดสายตาพิจารณาอีกครั้ง
เธอคงจะคิดไปเองมากกว่าว่ามันมาอยู่ที่คอ.. สร้อยมันก็ไม่มีขาสักหน่อย ในเมื่อถอดมันวางตรงนั้น มันก็ต้องอยู่ตรงนั้น
“แม่พลอย... แม่พลอยของพี่”
“คุณพี่.. เงียบ ๆ หน่อยนะ น้องหนวกหูเจ้าค่ะ” สวนกลับในทันที เหมือนพูดกับลมฟ้าอากาศ พลอยพิลาชักเริ่มรำคาญเสียงบ้า ๆ แล้วตอนนี้
ทันใดนั้นเอง เสียงน้ำไหลในห้องกว้างขวางที่มีแค่เธอเพียงลำพังทำให้ต้องเบือนหน้าไปยังก็อกน้ำ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตกตะลึงมองน้ำที่ถูกเติมลงอ่างจนล้นเต็ม