ผ่านไปสามวันเอสก็กลับจากภูเก็ตเมื่อมาถึงกรุงเทพเขาก็แยกจากพ่อกลับมาคอนโดตัวเองทันที เมื่อมาถึงคอนโดร่างสูงก็ถอดเสื้อสูทออกโยนทิ้งที่โซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งพิงโซฟามือหนายื่นมากุมขมับตัวเองสีหน้าดูเหนื่อยล้าชัดเจนเพราะรู้สึกเบื่อกับการไปดูงานแบบนี้ เมื่อนั่งสักพักเอสก็ลุกไปหยิบสมุดวาดภาพมานั่งวาดภาพทันทีเพราะการวาดภาพเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด
“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงฉิบหาย”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเผลอนึกถึงใบหน้าหวานของโมนาขึ้นมา เมื่อนึกถึงหน้าเธออยู่ๆ ความเครียดเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาหลายวันที่เขาอยู่ภูเก็ตเขามักจะคิดถึงโมนาตลอดทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำ เอสนั่งวาดภาพจนเสร็จก็ลุกไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนทันทีเพราะกว่าเขาจะกลับมาถึงก็หกโมงเย็นแล้ว สองวันต่อมาเอสก็มาเรียนปกติหลังเรียนเสร็จคาบสุดท้ายเอสและอคินก็เดินมายังจุดรับน้องของคณะตัวเองเพราะวันนี้เป็นวันจับสายรหัสของน้องปีหนึ่ง ซึ่งพวกเค้าก็ต้องมาเพราะต้องได้ทำงานกับน้องรหัสตัวเอง เมื่อเอสและอคินเดินมาถึงยังจุดรับน้องแล้วทั้งสองก็นั่งอยู่ข้างหลังที่น้องปีหนึ่งนั่งรวมกันอยู่
“ถ้าไม่ติดว่างานต้องมีน้องรหัสทำด้วย มึงคงไม่โผล่มาสินะไอ้คิน”
เอสพูดแซวอคินอย่างกวนๆ เมื่อเห็นอคินนั่งหน้าขรึมไม่รับแขก
“ก็คงงั้น นานมั้ยที่จะแจกคำใบ้ให้รุ่นน้อง”
อคินเอ่ยถามเสียงเรียบเพราะรู้สึกเบื่อกับการทำกิจกรรมแบบนี้
“ใจเย็นครับเพื่อน มึงพึ่งมานั่งไม่ถึงห้านาทีเอง”
เอสพูดกับอคินพร้อมกับกวาดสายตาหาคนที่เขาคิดถึงมาตลอดหลายวัน ปากหนายกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อมองเห็นโมนาแล้ว ในใจเขาตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้โมนาเรียนสาขาเดียวกันกับเขาแล้วขอให้ได้เป็นสายรหัสกัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็มีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับโมนามากขึ้น ขณะที่เอสกำลังมองโมนาไม่วางตาก็ต้องชะงักหันมาสนใจทรายเพื่อนร่วมห้องเมื่อเธอเดินมาพูดกับอคิน
“อคิน กินน้ำแก้ร้อนหน่อยมั้ย ทรายซื้อมาเผื่อด้วย”
ทรายพูดกับอคินด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยื่นน้ำให้เขา
“ฉันไม่หิว เธอเอาไว้กินเองเถอะ”
เอสได้แต่ส่ายหน้ายอมกับความเย็นชาของอคินเพราะปฏิเสธผู้หญิงตรงๆ จนทรายนั้นรู้สึกหน้าเสียไม่น้อย
“ไอ้คินไม่หิว แต่เราหิวนะ ให้เราก็ได้”
เอสพูดกับทรายด้วยรอยยิ้มรู้สึกเห็นใจไม่น้อยที่มาโดนอคินเฉยชาใส่แบบนี้ ทรายจึงหันไปมองเอสทันที
“อะ งั้นทรายไปแจ้งรายละเอียดน้องก่อนนะ”
ทรายพูดขึ้นแล้วยื่นน้ำให้เอส เขาจึงรับน้ำจากเธอทันที
“อือ ขอบใจสำหรับน้ำนะ”
เมื่อเอสพูดจบทรายก็เดินไปทันที
“มึงไม่รู้สึกชอบทรายเลยหรอวะ ทั้งสวย นิสัยดี แถมเป็นดาวคณะเราด้วย”
เอสเอ่ยถามอคินทันทีเมื่อทรายเดินไปแล้ว
“ไม่ชอบ มึงถามคำถามนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะไอ้เอส”
อคินบ่นให้เอสเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อน จนเอสกำลังจะอ้าปากพูดก็ได้ยินเสียงทรายเรียกให้ปีสองไปยืนโชว์ตัวให้กับรุ่นน้องปีหนึ่งก่อนที่จะให้น้องปีหนึ่งจับฉลากคำใบ้ เอสกับอคินจึงลุกเดินไปทันที ทางด้านโมนาที่นั่งอยู่ก็มองรุ่นพี่เดินมายืนข้างหน้าทีละคนจนไปสะดุดกับคนที่ยืนคนที่สองซ้ายมือเพราะรู้สึกคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอรึเปล่า โมนาจึงหันหน้าไปพูดกับแพรวาว่าเธอคุ้นหน้ารุ่นพี่คนนั้นก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแพรวากำลังทำหน้าอึ้งเหมือนตกใจอะไรสักอย่างเธอจึงเอ่ยถามเพื่อนทันที
“ยัยแพรแกเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอึ้งแบบนั้น”
“โม คนที่ฉันชอบเค้าเป็นรุ่นพี่เรา งืออ โคตรบังเอิญเลยแก”
แพรวาพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ
“ไหน คนไหนแก”
โมนาถามแพรวาด้วยความตื่นเต้นอยากรู้
“คนที่สูงที่สุดอะแก ยืนคนแรกซ้ายมือเรา”
“อร๊ายย หล่อมากยัยแพร มาตรฐานแกจะสูงไปมั้ย พี่เค้าหล่อเด่นที่สุดในรุ่นเลยนะนั่น”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับมองไปทางอคินแต่สายตาเธอกลับไม่ได้สนใจอคินเลยสักนิดแต่กลับไปหยุดที่คนที่ยืนข้างที่ความสูงน่าจะพอๆ กัน แถมหน้าตายังหล่อเหลาสูสีกับอคินอีก โมนารีบก้มหน้าทันทีเพราะรู้สึกว่าเขาก็มองเธอกลับเหมือนกัน
“หึ”
เอสยิ้มมุมปากอย่างชอบใจเมื่อรู้สึกได้ว่าโมนาก็มองเขาอยู่เหมือนกัน
“เอาล่ะค่ะน้องๆ นี่คือหน้าตาของพี่ปีสองคณะเรานะคะ เดี๋ยวให้พี่ปีสองไปพักตามอัธยาศัยบริเวณรอบๆ รอให้น้องๆ เดินตามหานะคะ ส่วนน้องปีหนึ่งแยกแถวตามสาขาแล้วไปหาพี่ประจำสาขาเพื่อจับฉลากเลยค่า”
เมื่อทรายพูดจบเอสกับอคินก็เดินแยกไปทันที ส่วนโมนาและแพรวาก็เดินไปต่อแถวเพื่อจับฉลากคำใบ้ โมนาได้แต่ส่ายหน้ายอมแพรวาเพราะตอนนี้เพื่อนของเธอกลายเป็นคนคลั่งรักรุ่นพี่ถึงขึ้นขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้เป็นน้องรหัสอคิน เมื่อถึงคิวโมนาก็จับฉลากแล้วเดินไปหาแพรวาที่จับไปก่อนเธอ ขณะที่เดินไปโมนาก็เปิดคำใบ้ดูทันที
“แกเปิดคำใบ้ยัง”
โมนาเอ่ยถามแพรวาเมื่อเดินมาถึงเพื่อนแล้ว
“ยังเลย ฉันรอแก แกเปิดดูยัง”
แพรวาถามโมนากลับขณะที่เดินมาทางที่รุ่นพี่อยู่
“เปิดแล้ว คำใบ้ของฉันเขียนว่า ‘หนุ่มช่างพูด อัธยาศัยดี คู่หูหนุ่มหล่อผู้เย็นชา’ เปิดของแกดูซิว่าได้คำใบ้อะไร”
เมื่อได้ยินคำพูดของโมนา แพรวาก็เปิดคำใบ้ของตัวเองทันที
“ฉายาหนุ่มหล่อผู้เย็นชาแห่งคณะบริหาร”
“เดี๋ยวนะแก ฉันว่าพี่รหัสเราน่าจะเป็นเพื่อนกันมั้ยอะ เพราะของแกใบ้ว่าฉายาหนุ่มหล่อผู้เย็นชาแห่งคณะบริหาร ส่วนของฉันก็มีคำว่าคู่หูหนุ่มหล่อผู้เย็นชาด้วย”
โมนาพูดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินแพรวาอ่านคำใบ้ของเธอ
“ฉันว่าใช่ คำใบ้คล้องกันเลย ว่าแต่จะรู้ได้ยังไงเนี่ยว่าใครเป็นเจ้าของฉายานี้”
แพรวาพูดขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองรุ่นพี่ที่นั่งอยู่
“เราลองสังเกตดูสิว่ารุ่นพี่คนไหนนั่งนิ่งไม่ค่อยสนใจใคร ฉันว่าคนนั้นล่ะ”
โมนาพูดออกความเห็นขึ้นทันทีพร้อมกับมองรุ่นพี่ไปเรื่อยๆ
“นั่งนิ่งไม่สนใจใครงั้นหรอ ใช่ ต้องใช่แน่ๆ”
“อะไรของแก”
โมนาถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่ออยู่ดีๆ แพรวาก็พูดขึ้นด้วยท่าทางดีใจ
“โม ฉันว่าพี่รหัสฉันต้องเป็นพี่เค้าแน่ๆ แกดูสิพี่เค้านั่งก้มหน้าก้มตาเล่นแต่โทรศัพท์ไม่สนใจใครเลย แถมยังนั่งคู่พี่คนหนึ่งที่เหมือนจะเป็นคนคุยเก่งด้วยนะ แกดูสิ”
โมนาหันไปมองตามมือที่แพรวาชี้ไปก็เห็นอคินนั่งก้มมองแต่โทรศัพท์ส่วนเอสก็พูดกับอคินไปเรื่อยโดยที่อคินไม่ได้โต้ตอบอะไรได้แต่ฟังเอสพูดเงียบๆ ซึ่งตรงกับคำใบ้ของพวกเธอเป๊ะ
“แกอย่าพึ่งดีใจ ต้องไปถามพี่เค้าก่อน”
“โอเค แกรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ฉันขอไปถามก่อน ถ้าใช่ฉันจะส่งสัญญาณให้เดินมาหาพี่อีกคนหนึ่ง”
แพรวาพูดเสนอขึ้นทันที
“โอเค ตามนั้น”
เมื่อตกลงกันได้แพรวาก็เดินไปทันทีส่วนโมนาก็ได้แต่ยืนมองแพรวาเดินเข้าไปหารุ่นพี่อย่างลุ้นๆ
“กูว่าไม่มึงก็กูได้น้องรหัสเป็นผู้หญิงแน่ๆ”
เอสพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นแพรวาเดินมา แต่สายตาเขากลับมองเลยไปหาโมนาที่ยืนรออยู่ด้านหลัง ในใจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะคนที่เดินตรงมาทางเขาไม่ใช่เธอ ส่วนอคินที่ก้มดูโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าของอคินทำเอาเอสถึงกับสงสัยเพราะดูเหมือนอคินจะเคยเจอกันกับรุ่นน้องคนนี้มาก่อน
“สวัสดีค่ะพี่ๆ”
“สวัสดีครับน้องปีหนึ่ง”
เอสทักทายกลับด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นแพรวายกมือไหว้พวกเขา ส่วนอคินก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไร
“ชื่อแพรวานะคะ ขออนุญาตถามพี่ๆ ได้มั้ยคะ ว่าพี่ทั้งสองคนเรียนสาขาอะไรคะ ถ้าเรียนสาขาเดียวกันแพรจะได้พูดคำใบ้ขึ้นค่ะ เพราะพวกพี่บุคลิกตรงกับคำใบ้ที่แพรได้มาเลยค่ะ”
แพรวาพูดขึ้นด้วยท่าทางนอบน้อม
“พวกพี่เรียนสาขาการจัดการธุรกิจครับ”
เอสตอบแพรวาด้วยรอยยิ้ม
“จริงหรอคะ แพรก็เรียนสาขานี้เหมือนกันค่ะ งั้นแพรขอถามชื่อพี่ทั้งสองได้มั้ยคะ”
“บอกคำใบ้มาก่อน ถ้าเธอมาหาถูกคนฉันถึงจะบอกชื่อ”
ขณะที่เอสกำลังจะอ้าปากตอบแพรวาก็ต้องชะงักไม่เมื่ออคินพูดขึ้นก่อน เขาจึงปล่อยให้แพรวาและอคินคุยกันทำเอาเอสถึงกับหัวเราะเมื่ออคินเจอแพรวาพูดใส่เรียกได้ว่าเป็นคนแรกที่กล้าต่อปากต่อคำกับอคินเพื่อนของเขา ขณะที่อคินกำลังคุยกับแพรวา เอสก็หันมองโมนารู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะโมนาไม่ยอมเดินไปหาใครเลยเหมือนกำลังยืนรออะไรอยู่ จนสักพักเอสก็ต้องตกใจเมื่อโมนาเดินตรงมาที่เขาเพราะแพรวาส่งสัญญาณให้เธอ ทำเอาเอสได้แต่นั่งลุ้นว่าเธอจะได้คำใบ้ของเขารึเปล่า จึงทำฟอร์มนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้เป็นอะไรจนโมนายืนมาหยุดตรงหน้าเขา
“สวัสดีค่ะพี่ๆ ชื่อโมนานะคะ หนูว่าพี่คงจะเป็นพี่รหัสหนูค่ะ”
คำพูดของโมนาทำเอาเอสถึงกับดีใจอยากจะกระโดดดีใจออกมาแต่ก็ต้องเก็บอาการเพราะกลัวเธอจะตกใจ จึงแกล้งนั่งนิ่งทำหน้าปกติ
“หืม ขอคำใบ้หน่อยครับ”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับแกล้งทำหน้าสงสัย
“หนุ่มช่างพูด อัธยาศัยดี คู่หูหนุ่มหล่อผู้เย็นชาค่ะ”
“อ่อ ไม่น่าล่ะถึงให้น้องแพรมาก่อน งั้นเราไปทำความรู้จักกันตรงอื่นเถอะครับน้องโมนา”
เอสพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นโมนาพยักหน้าตอบเขาจึงลุกขึ้นเดินไปทันทีโดยมีโมนาเดินตามมาติดๆ เอสพาโมนาเดินมาหยุดตรงใต้ต้นไม้ข้างตึกที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่เดินมาสักเท่าไหร่
“อ๊ะ!”
โมนาร้องเสียงหลงทันทีเพราะอยู่ดีๆ เอสก็หยุดเดินแล้วหันหน้ามาหาเธอโดยไม่บอกเธอก่อนจนหน้าเธอไปชนเข้าที่อกแกร่งของเขาแถมตอนนี้เธอยังโดนเอสโอบเอวด้วยมือข้างหนึ่งไว้อยู่เพราะเอสกลัวเธอจะหงายหลังล้ม โมนาจึงรีบถอยออกห่างอย่างระวังตัวทำเอาเอสถึงกับอมยิ้มชอบใจเมื่อเธอนั้นเว้นระยะห่างกับเขาอยู่
“เราจะเริ่มทำความรู้จักกันจากตรงไหนดีครับน้องโมนา”
เอสถามโมนาด้วยรอยยิ้ม
“พี่ถามเรื่องที่พี่อยากรู้เกี่ยวหนูก็ได้ค่ะ”
โมนาพูดกับเอสด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“พี่ถามอะไรก็ได้ใช่มั้ย”
“ค่ะ”
โมนาตอบกลับเอสสั้นๆ แล้วเงยหน้ามองหน้าเขาก็ต้องชะงักตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เอสนั้นโน้มมาใกล้เธอแบบไม่ทันตั้งตัว
“น้องโมนามีแฟนยังครับ”