จางหยูเฟยแหงนมองหน้ากงลี่ถิง นางต้องเป็นบ้าไปแล้วที่เขินสตรีด้วยกันเอง “ชักช้าจริง ข้าถอดเอง”
“ช้าก่อนคุณหนู” โอรสสวรรค์ไม่ชอบให้ผู้ใดมองพระองค์ด้วยสายตาตำหนิ ฝ่ามือขาวไม่แพ้จางหยูเฟยจึงทำหน้าที่เอง มือเรียวดุจสตรีดึงไม่กี่ที อาภรณ์งดงามของจางหยูเฟยก็ร่วงหล่นไปกองที่เท้า เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าไร้ตำหนิยืนอวดโฉมอยู่เบื้องหน้า
“เจ้าทำอะไรของเจ้า” เมื่อครู่เรียกว่ากระชากออกหรือถอดออก นางไม่มั่นใจนัก
“ลี่ถิงขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยปรนนิบัติผู้ใด”
“ไม่เคยเลยรึ” จางหยูเฟยประหลาดใจ
กี่ร้อยครั้งที่จางหยูเฟยต้องยืนเปลือยกายต่อหน้าสาวใช้เพื่อให้พวกนางปรนนิบัติ ความเคยชินทำให้นางไม่เคยรู้สึกกระดากอาย แต่เวลานี้ เหตุใดสายตาของกงลี่ถิงที่มองนางอย่างกึ่งหวานกึ่งดุ จึงทำให้จางหยูเฟยยืนหน้าแดงนิ่งๆ ราวกับไม่กล้าขยับตัว
สายตาของกงลี่ถิงที่ลากลงมาจากลำคอระหงต่ำลงเรื่อยๆ ช้าๆ แล้วนิ่งค้างอยู่บางจุดจนทำให้จางหยูเฟยรู้สึกหายใจไม่ออก หากว่าลี่ถิงไม่ใช่สตรีที่นางเป็นผู้เรียกมาช่วยปรนนิบัติอาบน้ำให้ นางคงคิดว่ากำลังเปลือยกายอยู่ตรงหน้าบุรุษกลัดมัน แต่เพียงวูบเดียวเท่านั้น สายตาของลี่ถิงก็เสมองไปทางอื่น
***‘ข้าจะตื่นตัวก็เพราะเจ้ายั่วข้านี่แหละ... จางหยูเฟย’***
จางหยูเฟยมองตามกิริยาแปลกๆ ของกงลี่ถิง นางเริ่มมีความคิดบางอย่าง “ลี่ถิง เจ้าไม่เคยอาบน้ำให้ผู้ใดเลยหรือ”
ลี่ถิงพยักหน้ารับคำ เพราะปกติมีแต่คนอาบให้ “เอ่อ... ข้าน้อยไม่เคยอาบน้ำให้ผู้ใดเจ้าค่ะ”
จางหยูเฟยพยักหน้าเข้าใจ “ข้าเข้าใจแล้ว สกุลกงของเจ้าคงเคยมีฐานะมาก่อนเป็นแน่ การที่สามีของเจ้าตายในสนามรบ คงเหมือนสกุลจางของข้าที่ช่วงแรกท่านพ่อเสียไป สมบัติร่อยหรอ หากข้าไม่มีพี่ยอนฮวาช่วยคิดหนทางทำการค้าให้มีเงินมาเลี้ยงดูผู้คน บางที... ข้าอาจไม่เหลือแม้แต่
บ่าวไพร่รับใช้ ต้องออกขายแรงเช่นเจ้า”
ธิดาอดีตแม่ทัพพยักหน้าสำทับกับตนเองอีกครา “เอาละ ในเมื่อเจ้าต้องคอยรับใช้ข้า เดี๋ยวข้าจะสอนเจ้าอาบน้ำให้ข้าเอง”
ที่นางรู้สึกหงุดหงิดเมื่อครู่ เวลานี้เปลี่ยนเป็นเห็นใจกงลี่ถิง ยิ่งเมื่อเพ่งพิจารณา แม้จะมีความงามแปลกๆ แต่ผิวพรรณจัดว่าชั้นเลิศ คงไม่ผิดแล้ว ที่แท้ลี่ถิงก็เป็นฮูหยินตกอับ กิริยาที่แข็งตึงของคุณหนูสกุลจางจึงผ่อนปรนลงไปหลายส่วนด้วยความเห็นใจคนหัวอกเดียวกัน
มือเรียวคว้ามือของกงลี่ถิงเดินนำเข้าไปยังห้องอาบน้ำ ขณะที่ลี่ถิงมองอย่างตะลึง ถึงแม้สกุลจางเคยเป็นสกุลใหญ่แต่ก็ถังแตกมานานแล้ว แต่ห้องอาบน้ำของคุณหนูสกุลจางกว้างใหญ่ และไม่ใช่มีเพียงถังไม้วางตั้งไว้กึ่งกลางห้อง อดีตแม่ทัพรู้ว่าธิดาเพียงคนเดียวหลงใหลในการอาบน้ำ จึงใช้เงินก้อนใหญ่สร้างห้องอาบน้ำที่ออกแบบให้เป็นลำธารขนาดย่อม ตกแต่งเลียนแบบธารน้ำตกจากธรรมชาติ
“สวยเหลือเกิน”
ร่างเปลือยเปล่าไร้จุดตำหนิที่ยืนอวดส่วนเว้าส่วนโค้งอยู่เบื้องหน้าลี่ถิงหันมาผลิยิ้มอ่อนหวานให้
“สวยมากใช่ไหม สาวใช้ที่เรือนใหญ่ต่างแย่งหน้าที่อาบน้ำให้ข้ากันทั้งนั้น เพราะพวกนางอยากจะลงเล่นในลำธารส่วนตัวของข้า”
ลี่ถิงลอบถอนหายใจ ที่ชมว่าสวยเมื่อครู่ไม่ใช่ลำธาร แต่เป็นผิวกายเนียนขาวประดุจงาช้าง เส้นผมสีดำยาวสลวยประดุจม่านไหมที่ยาวเคลียคลอลงมาปกคลุมแผ่นหลัง ยิ่งมองต่ำลงมาก็ยิ่งสวย จนบัดนี้ เลือดภายในกายของโอรสสวรรค์กำลังเดือดพล่าน พานให้เนื้อส่วนหนึ่งกลายเป็นท่อนแข็ง สร้างความรู้สึกปวดแปลบยิ่งนัก
“รีบๆ อาบเถอะเจ้าค่ะ” ฮั่นหลิวตี้บอก เพราะหากจางหยูเฟยมัวยืนเปลือยกายยั่วพระองค์อยู่แบบนี้ พระองค์อาจจะไม่ได้อาบน้ำให้นาง แต่พระองค์อาจจะต้องอาบเหงื่อทั่วพระวรกายเพราะทนต่อความรู้สึกที่กำลังเชี่ยวกรากโถมทับเข้าใส่ไม่ไหว ซึ่งนั่นจะทำให้เสียการใหญ่
“ลี่ถิง เจ้ารู้ไหม ท่านพ่อของข้าเป็นผู้สร้างลำธารเลียนแบบธรรมชาติแห่งนี้ไว้ให้ข้าลงอาบน้ำ เพราะฉะนั้นวันนี้ข้าจะสอนเจ้าอาบน้ำ ปรนนิบัติข้า ข้าชอบให้คนดูแลข้าตอนอาบน้ำที่สุด เพราะฉะนั้นเจ้าก็ถอดเสื้อผ้าออกและตามข้าลงสระมาเร็วๆ เข้า”
ร่างงดงามปานเทพธิดากำลังก้าวลงน้ำไปก่อนแล้วหันมาถาม “ทำไมเจ้ายังไม่ถอดเสื้อผ้าตามข้าลงมาอีก เจ้าปรนนิบัติข้ายังไม่เป็น แล้วจะดูแลพวกเด็กๆ ได้เยี่ยงไร”
แน่นอน หากพระองค์ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกในเวลานี้ จางหยูเฟยคงไม่แคล้วต้องกรีดร้องลั่นสนั่นจวน แม้ว่าพระองค์มีสีพระพักตร์คมหวาน ทว่าบางส่วนของพระวรกายนั้นกลับดุดันอย่างน่าเกรงขาม ทั้งยังทรงพลังชนิดที่ว่าเหล่าขันทีจำเป็นต้องใช้แท่งหยกซึ่งถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเหมาะสมในการนำร่อง ก่อนที่จะนำเหล่าสนมเข้าเฝ้าถวายงาน เพื่อไม่ให้พวกนางเจ็บปวดมาก และแสดงความเจ็บปวดให้โอรสสวรรค์เกิดความรำคาญพระทัย
เวลาผ่านไปหลายเค่อ ลี่ถิงยังยืนนิ่งไม่ยอมทำตามคำสั่ง จางหยูเฟยใช่ว่าจะให้สาวใช้นางใดก็ได้เข้ามาปรนนิบัตินางขณะอาบน้ำ แต่นางเกิดความเห็นใจลี่ถิง เพราะสามีตายในสนามรบชีวิตเลยตกอับ จึงลดตัวลงมาให้ความใกล้ชิด
“ลี่ถิง เจ้ายังไม่ลงน้ำตามข้ามาอีก” มือเรียวขยับปลายนิ้วไล่ถูหลังแต่ไปไม่ถึงกลางหลัง “มาช่วยข้าถูหลังหน่อย”
ลี่ถิงไม่อยากเหลือบตาขึ้นมองร่างเปลือยในน้ำนานนัก
***‘ก็บอกแล้วไง ข้าถนัดถูไถ ไม่ได้ถนัดถูหลัง คุณหนูจาง เจ้าช่างมีบางอย่างน่าถูกว่าหลังมากนัก ถ้าเรียกข้าลงไปถูไถ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าคอยนาน’***
ลี่ถิงยังยืนนิ่งไม่ไหวติง และไม่ยอมก้าวลงไปในธารน้ำใสที่ตกแต่งเลียนแบบธรรมชาติอย่างงดงาม “คุณหนู ข้าขออภัยที่ข้าไม่สามารถถอดเสื้อผ้าตามลงไปปรนนิบัติคุณหนูในลำธารได้”
โอรสสวรรค์คิดเล่นๆ ว่า ร่างอรชรอ้อนแอ้นของจางหยูเฟยนั้นงดงามเกือบจะทำให้ปลาหยุดว่าย ยิ่งเวลานี้จางหยูเฟยว่ายน้ำกลับมาที่ริมลำธาร สองแขนเรียวของนางกำลังเกยกับขอบลำธาร ใบหน้าแสนหวานแหงนขึ้นมามองสบตาด้วยแล้ว
***‘จางหยูเฟย ยั่วข้าแบบนี้ หรือจะให้ข้าหมดความอดทน’***
ใบหน้าของจางหยูเฟยปรากฏความเคลือบแคลง “เจ้าเป็นสาวใช้ของข้า เหตุใดจึงไม่เชื่อฟังคำสั่ง” นางไม่ได้เคืองลี่ถิงที่ไม่ยอมลงมาปรนนิบัติ แต่นางอยากรู้เหตุผลที่แท้จริง
ลี่ถิงย่อตัวลงคุกเข่าอยู่ริมขอบลำธาร มองคุณหนูคนสวยที่หน้าระรื่นท่าทางมีความสุขยามได้ลงเล่นน้ำ ที่จริงพระองค์ก็ชอบเล่นน้ำกับเหล่าสนม แล้วก็มักจะจบลงในน้ำบ้าง บางครั้งก็อุ้มนางสนมที่ถูกใจไปสนุกต่อที่อื่น ทว่าเวลานี้พระองค์ทำแบบนั้นไม่ได้