ห้องนอนใหญ่ฝั่งตรงข้าม...
“ผู้หญิงอะไรวะ ทั้งขาว ทั้งสวยอย่างกับนางฟ้า” คนที่กำลังนอนแช่น้ำอุ่นๆในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ เอ่ยด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม พลางคิดหาวิธีเด็ดปีกนางฟ้า แสนสวยมากักขังไว้ในวินานกลางขุนเขา เพื่อจะได้เชยชมเธอในทุกๆ ค่ำคืน
แต่กระนั้น...เขาก็มองเห็นความยุ่งยากและปัญหาใหญ่ที่จะตามอีกไม่จบ ไม่สิ้น เพราะบิดาของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะมีเงินเก็บนับพันล้าน และมีสวนผลไม้อีกนับพันไร่ ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะยอมรับ แต่ทุกๆ ความรัก มันก็มักจะมีอุปสรรคด้วยกันทั้งนั้น หากเธอมีใจให้เขาสักนิด เชื่อว่า...อุปสรรคใดๆ ก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ จีอาน่าก็เตรียมจะขยับขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มๆ อย่างรู้สึกง่วงนิดๆ แต่ทว่า...เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น
ก๊อกๆ
“จีอา! เปิดประตูให้ผมหน่อย”
เธอกลอกตาแล้วเดินไปหยุดถามใกล้ๆ กับประตูห้อง “มีอะไรคะ?”
“ช่วยเปิดประตูให้ผมก่อนได้ไหม?” คนที่ยืนรออยู่เอ่ยเร่ง
“ค่ะ” จีอาน่าขานรับพร้อมกับเปิดประตูให้อีกฝ่าย
คลิก!
“คุณมีอะไรคะ” เธอจ้องมองร่างสูงที่ใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงนอนขายาวสีเทาอ่อน ยืนหอบหมอนใบใหญ่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างรู้สึกมึนงง
“ผมจะมานอนด้วย” จอมพลบอกก่อนจะเดินแทรกตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...” จีอาน่ามองตามหลังของอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ผมกลัวคุณจะทำอะไรโง่ๆ ในห้องนี้” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“บ้า! ฉันไม่ทำแล้วค่ะ” จีอาน่าบอกพร้อมกับชูสามนิ้วให้สัญญา
“ผมจะไว้ใจคุณได้ยังไง?” คนหล่อหน้าด้าน เอ๊ย! หน้ามึน ถามหาหลักประกัน
“โอเค! งั้นฉันจะไปนอนที่โซฟาตรงนั้น คุณนอนบนเตียงแล้วกัน” เธอบอกอย่างยอมแพ้ เพราะทั้งเหนื่อยและง่วงเกินกว่าจะมายืนต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย
“ทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก คุณก็แค่ขึ้นมานอนบนเตียงกับผม” จอมพลบอกพร้อมกับคว้าข้อมือบางให้ออกเดินตามไปที่เตียง
“ไม่ได้! มันไม่เหมาะ” จีอาน่ารีบขืนตัวเอาไว้อย่างรู้สึกตกใจนิดๆ ในการกระทำของอีกฝ่าย
“มาเถอะน่า เมื่อคืนผมก็นอนกอดคุณเอาไว้ทั้งคืน ไม่เห็นเป็นไรเลย” จอมพลบอกพลางออกแรงดึงอีกครั้ง
“...” จีอาน่าส่ายหน้าปฏิเสธ และไม่ยอมขยับตามอีกฝ่าย
“มาเร็วๆ ผมง่วงแล้ว” จอมพลเอ่ยเร่ง
“คุณคิดไม่ดีกับฉันใช่ไหม” เธอถามอย่างรู้สึกกลัว
“บ้าหรือเปล่า! ถ้าผมคิดไม่ดีกับคุณนะ ป่านนี้คุณยับเยินไปแล้วเชื่อสิ” คนถูกจี้ใจดำต่อว่าพร้อมกับส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อย่างเคืองๆ
“...” จีอาน่ามองอย่างชั่งใจ
“จีอา!” จอมพลกลอกตาเมื่อสาวเจ้าสาวไม่ยอมขยับตัว
“ก็ได้ค่ะ” เธอถอนหายใจแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปที่เตียงแต่โดยดี
“ผมให้คุณเลือกฝั่ง” จอมพลหันมาบอก
“ขอนอนข้างนอกค่ะ” จีอาน่ารู้สึกใจเต้นสั่น ตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างบอกไม่ถูก
“โอเค” จอมพลพยักหน้ารับ แล้วขยับขึ้นไปบนเตียงก่อน
จีอาน่าเห็นอีกฝ่ายนอนชิดด้านในแล้ว จึงขยับขึ้นไปนอนตาม
จอมพลรั้งเอวบางเข้ามากอด พร้อมกับก้มลงจูบที่แก้มนวลเบาๆ “จุ๊บ!...หอมจัง”
“นี่คุณ!” จีอาน่าลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ
“ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือไง ผมก็แค่...คิดถึงน้องสาวเท่านั้น” คนหื่น เอ๊ย! คนคิดถึงน้องสาว ให้เหตุผลด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“น้องสาวคุณชื่ออะไรคะ อายุเท่าไหร่” เธอพยายามข่มใจให้เย็น กับอาการถึงเนื้อถึงตัวแบบมึนๆ ของหนุ่มตรงหน้า
“ชื่ออันนา เธอประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เห็นหน้าคุณชัดๆ ครั้งแรก ผมรู้สึกเหมือนได้อันนากลับคืนมาอีกครั้ง”
“อะ...โอเค ฉันให้คุณกอดก็ได้” จีอาน่าล้มตัวลงนอนเช่นเดิม ทั้งสงสารและเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย ‘เฮ้อ...ถ้าเราเจอใครที่หน้าตาคล้ายกับแม่ เราก็คงอยากจะเข้าไปกอดเหมือนกัน’
“จุ๊บ! ขอบคุณครับ” จอมพลฉีกยิ้ม ก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลอีกครั้งอย่างชอบใจ
“คุณหอมแก้มฉันทำไม?” จีอาน่าถามพร้อมกับแกะมือหนาออกจากเอว
“อย่าคิดมากสิ ก็แค่พี่ชายหอมแก้มน้องสาวก่อนนอน”
“แต่...” จีอาน่าพยายามจะท้วง
“ฝันดีครับ” จอมพลพูดจบก็รีบหลับตาลงทันใด กลัวสาวเจ้าจะสังเกตเห็นบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในแววตาของตน
จีอาน่าถอนหายใจแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง ด้วยความรู้สึกมึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องยอมให้อีกฝ่ายนอนกอดด้วย
คนที่ครุ่นคิดได้เพียงครู่ก็ถูกความง่วงกับความอ่อนล้าทำให้เปลือกตาค่อยๆ หลับลง และเข้าสู่ห่วงนินทราไปอย่างง่ายดาย
เช้าวันต่อมา...จอมพลคว้านหาร่างบางเข้ามากอด แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า
“จีอา! จีอา!” เขารีบขยับลุกจากเตียงพร้อมกับตะโกนเรียกหาสาวเจ้าอย่างใจคอไม่ดี ‘บ้าจริง! ยัยเด็กนั่นคงไม่ได้คิดจะทำอะไรโง่ๆ อีกหรอกนะ’
“อยู่ข้างล่างค่ะ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงขานรับ จอมพลถึงกับใจชื้นขึ้นมาทันใด รีบวิ่งลงไปหาสาวเจ้าที่ชั้นล่าง
“แหม...กำลังจะขึ้นไปตามอยู่พอดีค่ะ” จีอาน่าส่งยิ้มให้คนตื่นสาย
“คุณทำกับข้าวเหรอ?” จอมพลจ้องมองคนที่สวมผ้ากันเปื้อนอย่างรู้สึกอึ้ง!
“ใช่ค่ะ! จะให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ?”
“ดะ...ได้ครับ ผมขอเวลาสิบนาที” จอมพลบอกก่อนจะวิ่งกลับขึ้นที่ห้องนอนใหญ่ของตัวเอง แล้วรีบจัดการอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟังอย่างรวดเร็ว
จีอานามองตามคนตัวโตอย่างขำๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องครัว แล้วยกอาหารออกมาวางเรียงที่โต๊ะทานข้าวด้านนอก
สิบห้านาทีต่อมา...จอมพลยืนจ้องมองอาหารบนโต๊ะอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าสาวตรงหน้าจะทำพะแนงไก่กับไข่ดาวได้น่ากินขนาดนี้ แถมยังส่งกลิ่นหอมๆ ซะจนเขาต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอไปหลายครั้ง
“ไม่รู้ว่ารสชาติจะถูกปากคุณหรือเปล่า?” จีอาน่าบอกพร้อมกับตักข้าวใส่จานส่งไปให้ชายหนุ่ม
จอมพลรีบเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วตักพะแนงไก่ขึ้นมาชิม ก่อนจะหันไปยกนิ้วให้กับแม่ครัวคนสวยที่มีรสมือขั้นเทพ “อร่อยมากๆ เลยครับ”
“นายครับ! อ๊ะ! เอ่อ...ผม...” คนที่เดินทะเล่อทะล่าเข้ามาเจอลาภปาก จ้องมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาเป็นประกาย
“มีอะไร?” จอมพลเงยหน้าขึ้นถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘หึ! มาได้ถูกจังหวะตลอดเลยนะไอ้สม!’
“คือผมเอาบัญชีของสวนส้มมาให้ครับ” สมชายบอกพลางชูสมุดบัญชีให้ดู
“สวัสดีค่ะ ทานข้าวด้วยกันไหมคะ?” จีอาน่าเอ่ยชวน
“สวัสดีครับ ผมชื่อสมชายครับ เรียกสมเฉยๆ ก็ได้ครับ” สมชายแนะนำตัวพร้อมกับเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะอย่างไม่รอช้า
“จีอาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณสม” จีอาน่าส่งยิ้มก่อนจะตักข้าวใส่จานส่งไปให้กับหนุ่มที่เดาว่าน่าจะเป็นคนที่ซื้อเสื้อผ้าสไตล์คุณยายมาให้เมื่อวาน
“ฉันหวังว่านายจะปิดเรื่องที่จีอาอยู่กับฉันที่นี่เป็นความลับ” จอมพลเอ่ยกำชับลูกน้องคนสนิทเสียงเข้ม
“สาบานเลยครับนาย ผมไม่บอกใครเด็ดขาด” สมชายรีบชูสามนิ้วให้สัญญา
“โอเค! งั้นก็รีบๆ กิน จะได้รีบๆ ไป”
“โธ่นาย! ผมยังไม่ทันได้กินก็จะไล่ซะแล้ว”
“หึ! ลีลาอยู่นั่นแหละ!” จอมพลกลอกตากับความเยอะของลูกน้อง
“อื้ม...คุณจีอาทำเยอะหรือเปล่าครับ” สมชายตักไปชิมคำแรกก็ถึงกับตาโต
“ค่ะ” จีอาน่าส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้หนุ่มที่น่าจะมีอายุมากว่าเธอ 4-5 ปี
“งั้นผมขอห่อเอาไปกินตอนเที่ยงด้วยนะครับ” คนที่ติดใจในรสชาติรีบบอกอย่างไม่รอช้า
“เดี๋ยวๆ นี่มึงหน้าด้านมากเลยนะเนี่ย!” จอมพลมองค้อนคนสนิท
“ก็มันอร่อยนี่ครับนาย ปกติเคยกินแต่เลี่ยนๆ ไม่น่าเชื่อว่าคุณจีอาจะทำอาหารออกมาได้รสชาติลงตัวแบบนี้” สมชายเอ่ยชมจากใจ
“คุณห่อให้ผมก่อนนะ ถ้าเหลือแล้วค่อยเอาใส่ถุงให้มัน” จอมพลรีบบอก เพราะกลัวว่าจะไม่พอให้ตนได้ห่อไปทานในไร่ตอนเที่ยง
“โธ่! ทำไมนายใจร้ายจัง” สมชายโอดครวญ ก่อนจะตักอาหารมาทานต่ออย่างรู้สึกปลื้ม ‘ตายๆ เกิดมาเพิ่งเคยกินกับข้าวอร่อยๆ แบบนี้เป็นแรกเลยนะเนี่ย’
“จีอาทำเยอะค่ะ ไม่ต้องห่วง” จีอาน่าบอกสองหนุ่มยิ้มๆ
ชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ สองหนุ่มก็ไปนั่งคุยงานกันรอมื้อกลางวันที่แม่ครัวคนสวยเมตตาห่อให้
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” จีอาน่าส่งปิ่นโตเครือใหญ่ไปให้
“ขอบคุณครับคุณจีอา” สมชายรับมาถือด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ถ้าคุณดูบัญชีพวกนี้แล้วเกิดอาการเคลื่อนไส้ จนอยากจะอ้วกแล้วล่ะก็ให้หยุดพักก่อนนะจีอา” จอมพลบอกสาวเจ้าอย่างเป็นห่วง
“เอ่อ...ค่ะ” จีอาน่ารับคำอย่างมึนงง ไม่เข้าใจในความหมายของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่
“แหม...ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” สมชายมองค้อนผู้เป็นนายที่พูดจาเกินจริงอย่างขุ่นเคือง
“ไม่ขนาดนั้นได้ยังไง ขนาดแกเป็นคนเขียน ยังแปลตัวหนังสือกับตัวเลขของตัวเองไม่ออกเลย” จอมพลสวนกลับด้วยสีหน้าตึงๆ
“ก็ผมเรียนจบแค่ ม.3 นี่ครับ” คนการศึกษาน้อยบอกด้วยสายตาตัดพ้อ
“มันไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษาโอเค้? มันเกี่ยวกับลายมือของแกต่างหาก” จอมพลกลอกตาเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทดราม่า
“งั้นผมลางานสามปีได้ไหมครับ”
“จะไปไหน?”
“ผมจะไปสมัครเรียนต่อ ม.4-5-6 จะลงเรียนแค่ภาษาไทยวิชาเดียวเลยครับ” สมชายเอ่ยประชด
“คิกๆๆ” จีอาน่าหัวเราะกับการสนทนาของสองหนุ่มอย่างขำๆ
“ไม่ต้องไปเรียนหรอกสม แกเหมาะกับการใช้แรงงานที่สุดแล้ว ไปรอที่รถเลย” จอมพลบอกอย่างรู้สึกรำคาญ
“เยสเซอร์!” สมชายตะเบ๊ะ พร้อมกับกระแทกส้นเท้าลงพื้น แล้วหมุนตัวไปทางซ้าย จากนั้นก็เดินตัวปลิวตรงไปยังรถกระบะคันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“คิกๆๆ” จีอาน่ามองตามก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถ้าคุณไม่เข้าใจตรงไหน ตอนเย็นผมจะมาช่วยแปลรหัสลับให้ครับ” จอมพลหันมาบอกสาวเจ้าด้วยสายตากรุ่มกริ่ม
“ค่ะ” จีอาน่าพยักหน้ารับเบาๆ
“นี่มือถือเอาไว้ใช้ติดต่อผม หรือคุณอยากจะโทรหาใครก็ได้ อ้อ! ส่วนโน้ตบุ๊กน่ะ มันเชื่อมต่อ Wifi เอาไว้แล้ว คุณดูหนังฟังเพลงแก้เหงารอผมไปพลางๆ ก่อนนะ”
“นายครับ รีบๆ สิครับ อีกเดี๋ยวก็จะได้กินข้าวเที่ยงอีกรอบแล้ว” สมชายเอ่ยเร่ง หลังมองเข็มนาฬิกาในมือถือ ซึ่งบ่งบอกเวลา 10:02 น.
“เฮ้อ...ผมไปก่อนนะ” จอมพลกลอกตา ก่อนจะเอ่ยขอตัว
“เจอกันตอนเย็นค่ะ” จีอาน่าส่งยิ้มตอบ และเตรียมจะเดินกลับเข้าไปด้านในบ้าน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งแขนเอาไว้
จุ๊บ! จุ๊บ!
“บายครับ” จอมพลหอมแก้มนวลเสร็จก็รีบเดินตรงดิ่งไปยังรถกระบะคันใหญ่ที่ลูกน้องคนสนิทติดเครื่องยนต์รออย่างรวดเร็ว
“คนบ้า!” จีอาน่ามองค้อนก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปข้างในบ้านอย่างรู้สึกเขินๆ กับการกระทำที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
ทันทีที่เจ้านายเข้ามานั่งในรถ สมชายก็หันไปร้องเพลงแซวอย่างอดไม่ได้ “แอบมองอยู่นะจ๊ะ นายไม่รู้บ้างเลย แอบหอมกันแบบนี้ แสดงว่าเมื่อคืนต้องมีอะไรแน่ๆ เลย”
“มีอะไรวะ รีบๆ ขับรถไปสิ” คนถูกล้อแสร้งตีหน้าขรึมกลบเกลื่อนอาการ อินเลิฟ
“ครับๆ” สมชายหัวเราะก่อนจะขับรถออกไปตามทางด้วยสีหน้าขบขัน เพราะตั้งแต่ร่วมงานกับผู้เป็นนายมาหลายปี เพิ่งจะเคยเห็นอีกฝ่ายมีโมเมนต์หวานๆ ก็วันนี้
จีอาน่าเดินไปเปิดเพลงที่โน้ตบุ๊ก ก่อนจะเดินขึ้นที่ห้องนอนแล้วเอาเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่เมื่อวาน ลงมาใส่เครื่องซักผ้าที่ด้านล่าง จากนั้นก็เดินไปจัดเครื่องปรุงในครัวเข้าชั้นต่างๆ พอเสร็จแล้วก็กลับมาเปิดดูสมุดบัญชีที่ต้องพิมพ์ลงในโน้ตบุ๊ก แต่พอเห็นลายมือบนหน้ากระดาษเท่านั้น เธอก็ถึงกับเวียนหัวขึ้นมาทันทีทันใด รีบเดินไปหายาดมในกล่องยามาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกวาดตามองตัวเลขกับตัวอักขระที่บิดงอไปมา คล้ายกับภาษาขอมอย่างช้าๆ เธอจ้องมองหน้ากระดาษแผ่นนั้นอยู่นาน คล้ายกับคนที่มองภาพศิลปะ ซึ่งต้องใช้จินตนาการทับซ้อนจินตนาการหลายสิบชั้น เพื่อจะเข้าถึงแก่นแท้ของคำว่า...ส้มสายน้ำผึ้ง
เวลา 12 : 40 น. โรงอาหาร
“คุณจอมเจ้า วันนี้กินหยังดีเจ้า” แก้วตา หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับสมชาย ที่พอเรียนจบมัธยมปลายก็มาช่วยมารดาทำอาหารขายให้กับคนงานในไร่ แห่งนี้ เอ่ยถามเจ้าของไร่สุดหล่อเหมือนเช่นทุกๆ วัน
“เอ่อ...วันนี้ห่อข้าวมาเองครับ” จอมพลหันไปตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านใน
“เอาน้ำเสาวรสสองแก้ว” สมชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหนึ่งเสี่ยใหญ่ที่สั่งเครื่องดื่มกับเด็กเสิร์ฟ
“รอกำ!” แก้วตามองค้อนก่อนจะเดินไปตักน้ำเสาวรสที่เย็นเฉียบใส่ลง ในแก้ว
“ขะใจ้โวยๆ” สมชายเอ่ยเร่งเสียงดังอย่างต้องการจะแกล้งเพื่อนสาวที่ครั้งหนึ่งเคยดูถูกตนว่าเป็นพวกการศึกษาน้อย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เรียนจบแค่มัธยมปลายเท่านั้น
“แล้ววันนี้บ่ากินข้าวกะ” แก้วตาถามอย่างด้วยสีหน้าตึงๆ พร้อมกับส่งแก้วน้ำเสาวรสไปให้
“บ่! เลิกกินแล้ว เลี่ยน!” สมชายบอกก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้เป็นนาย
“บ่าพายสม!” แก้วตากัดฟันต่อว่าอย่างเจ็บใจ ที่เห็นอีกฝ่ายเชิดใส่ตน ‘หน้าตากะปานวอกยังจะมายะนิสัยจะอี้แฮ๋ม บ่าห่านิ’
“สวัสดีครับคุณจอม” ชัยนาทถือจานข้าวเข้ามานั่งกับผู้เป็นนายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ้าว! มากินข้าวด้วยกันครับพี่ชัย” จอมพลเอ่ยชวนพร้อมกับแกะปินโตเครือใหญ่ที่สาวเจ้าห่อมาให้อย่างรู้สึกเขินๆ
“โห...ไปซื้อมาจากร้านไหนครับเนี่ย” ชัยนาทมองพะแนงไก่กับไข่ดาวอย่างรู้สึกอึ้งๆ ร้อยวันพันปี ไม่เคยเห็นผู้เป็นนายจะหิ้วปิ่นโตมาโรงอาหารเลยสักครั้ง
“เอ่อ...ร้านในเมืองน่ะครับ” จอมพลบอกพร้อมกับหันไปขยิบตาส่งซิกให้สมชายที่เข้ามานั่งร่วมวง จากนั้นก็ตักพะแนงไก่กับไข่ดาวให้หัวหน้าคนงานที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ริเริ่มโครงการทำสวนใหม่ๆ
“ขอบคุณครับ” ชัยนาทฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ผู้เป็นนายแบ่งอาหารให้ชิม
“เจ้านี้อร่อยสุดๆ ครับพี่ชัย” สมชายไหลตามน้ำ
“อื้ม! อร่อยจริงๆ ครับ” ชัยนาทยกนิ้วให้หลังจากที่ชิมเสร็จ
“น้ำส้มเจ้าอ้ายชัย” แก้วตายกน้ำส้มมาวาง พลางจ้องมองอาหารที่เจ้าของไร่ห่อมาอย่างรู้สึกช็อก! ราวกับกำลังถูกใครสักคนลากไปตบประจานที่กลางสี่แยกไฟแดง เพราะเมนูที่อยู่ในปิ่นโตนั้นหน้าตาน่าทานกว่าอาหารที่เธอทำเป็นไหนๆ
“ขอบคุณครับ” ชัยนาทหันไปส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้กับแม้ค้าที่ตนฝากท้องเป็นประจำอย่างทำตัวไม่ถูก กระทั้งอีกฝ่ายเดินกลับไป
“ที่สวนองุ่นเป็นไงบ้างครับพี่ชัย” จอมพลถามก่อนจะลงมือทานข้าวอย่างรู้สึกหิว
“อีกสามวันก็เก็บได้แล้วครับ นายปริ้นออเดอร์ออกมาให้ผมได้เลย เดี๋ยวผมจะให้เด็กเอาไปขึ้นบนกระดานรอ” ชัยนาทรีบบอก
“ได้ครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะให้สมเอาไปให้ ว่าแต่...มีองุ่นที่สุกได้ที่สัก 4-5 พวงไหมครับ” จอมพลถามยิ้มๆ
“มีครับมี เดี๋ยวผมให้คนงานเอามาให้ หรือว่านายจะไปแวะดูที่สวนองุ่นเองครับ” ชัยนาทเลิกคิ้วถาม
“พอดีนายมีงานน่ะพี่ชัย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วผมตามพี่ไปเอาให้นายดีกว่า” สมชายชิงตอบ
“แหม...ขอบใจนะสม” จอมพลบอกอย่างซาบซึ้งใจ คิดว่าหลังทานข้าวเสร็จ ตนจะขับรถตรวจงานคร่าวๆ จากนั้นก็จะตรงกลับบ้านไปหาจีอาน่า
“เปลี่ยนเป็นมื้อเย็นสักมื้อก็พอครับ” คนที่มีเงินเหลือติดกระเป๋าไม่ถึงร้อยยี่สิบบาทบอกยิ้มๆ
“เย็นนี้กูจะต้มมาม่ากิน มึงจะเอารสอะไร เดี๋ยวจะต้มรอ” จอมพลบอกอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“ฮ่าๆๆ” ชัยนาทหัวเราะขึ้นอย่างขบขันเมื่อเห็นสมชายมองค้อนผู้เป็นนาย แล้วทำหูทวนลม ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ
จอมพลกลอกตาอย่างเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ กลัวว่าลูกน้องคนสนิทจะโผล่ไปเป็นกางขวางคอในตอนเย็น ‘เฮ้อ...หวังว่าไอ้สมมันจะแค่พูดเล่นหรอกนะ’