“เอพริล...ผมทำความสะอาดให้นะ”
“อย่าค่ะ...” เสียงหวานแหบแห้งท้วงขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มขึ้นมานั่งใกล้ตัวเธอบนเตียง เท่านั้นยังไม่พอเขายังทำท่าจะผลักให้เธอหงายตัวเพื่อจะทำอย่างที่บอกอีกด้วย
“มันจบแล้วเอพริล...คุณต้องทำความสะอาดเสียหน่อยไม่อย่างนั้นมันอาจจะทำให้คุณไม่สบายได้” น้ำเสียงอ่อนโยนขัดกับจิตสำนึกเอ่ยอย่างปลอบประโลม เขาไม่ได้รอคำตอบ เมื่อเธอขัดขืนเขาก็ปล่อยมือจากร่างสั่นเทิ้มนั้นเสียหันมาจับผ้าผืนเล็กในกะละมังสีฟ้าอ่อนๆ บิดหมาดในน้ำอุ่นแล้วซับเช็ดตรงใบหน้าเป็นส่วนแรก ลูบย้อนเส้นผมที่พันยุ่งเหยิงให้ตลบขึ้นไปด้านบน ซับทั้งเหงื่อและน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหลครั้งแล้วครั้งเล่าจนแน่ใจว่าเธอสะอาดพอ จากนั้นก็ลุกไปเทน้ำนั้นทิ้งเปลี่ยนเอาน้ำอุ่นๆ สะอาดกว่ามาทำความสะอาดส่วนอื่นให้เธอ
การเดินเหินของเขาไม่ได้สะดวกนักทุกอย่างจึงไม่เร็วอย่างใจเอาเสียเลย
“ไม่ต้องอายเอพริล...คุณเป็นของผมแล้วนะ”
แม้จะเจ็บระบมไปหมด แต่อรุโณรีย์ก็ยังขัดขืนยามที่เขากลับมานั่งตรงจุดเดิมและพยายามจัดท่าทางให้เธอเสียใหม่เพื่อให้สะดวกในการดูแล
“ฉันทำเองดีกว่าค่ะ...”
“ไม่เป็นไรผมเต็มใจนะ ผมเป็นคนทำให้คุณเป็นแบบนี้ ขอร้องล่ะเอพริลจะโกรธผมก็ไม่ว่าแต่ขอให้ผมได้ดูแลคุณตรงนี้ก่อนได้ไหม นะ...” อีกครั้งที่เขาใช้ความอ่อนโยนเขาประโลมเธอ รอยจูบอุ่นๆ ตรงแก้มนวลทำให้การปฏิเสธถูกปิดผนึกไม่อาจเอ่ยคำค้านออกมาอีกหน และร่างกายกับจิตใจก็จำยอมให้กับเขาอีกแล้ว เมื่อหญิงสาวไม่ต้านทาน ทอเลเมียสจึงจัดแจงดันให้เธอนอนหงายตัวและค่อยๆ จับสองขาแยกออกจากกัน ความสว่างของหลอดไฟทำให้เขาเห็นจุดพึงสงวนได้อย่างถนัดตายิ่งขึ้น มันบวมเป่งและเปื้อนไปด้วยคราบเลือดรวมไปถึงราคีคาวจากเขา อาจมีบาดแผลมากกว่านั้นที่ภายใน ซึ่งเขาคงไม่สามารถมองเห็นคงได้แต่คาดเดา
ผ้าหมาดน้ำอุ่นในมือถูกนำไปซับตรงความเป็นอิสตรีเพศอย่างเบามือ อรุโณรีย์ที่หลับตาปี๋ตั้งแต่ทีแรกเกร็งตัวขึ้นทันทีที่รู้ถึงการถูกสัมผัส ความอุ่นของผืนผ้าทำให้บังเกิดความเจ็บแสบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่เธอก็จำเป็นต้องให้เขาทำความสะอาดเสียก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะฝืนลุกเดินไปจัดการตัวเองในห้องน้ำได้หรือเปล่า
“อดทนอีกนิดนะเอพริล...” เมื่อคราบไคลต่างๆ ถูเช็ดออกจนหมด ทอเลเมียสถึงได้เห็นว่าตรงส่วนที่เขารุกรานแบบไม่ยั้งมือมันบวมเห่อและช้ำแดงอย่างน่าสงสาร ดูท่าเธอคงจะเจ็บมากเอาการจริงๆ ผ้าปูที่นอนก็เปื้อนมากเสียด้วยจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ไม่อย่างนั้นมีหวังถ้านอนกันทั้งอย่างนี้คงเลอะเทอะน่าดู
ทอเลเมียสถอนหายใจหนักๆ เดินกะเผลกไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงโทรให้พนักงานมาจัดการเรื่องผ้าปูที่นอนเสียก่อนเดินเก็บเสื้อผ้าที่ปลิวตกอยู่คนละทิศละทางรวบจุกไว้ในตู้ แล้วหันมาอุ้มหญิงสาวขึ้นไว้แนบอกไม่ลืมที่จะดึงผ้าปูที่นอนออกแล้วตลบปิดส่วนที่เปรอะเปื้อนไม่ให้เห็นโจ่งแจ้งมากนัก จากนั้นก็เดินข่มความเจ็บที่ผ่าเท้าพาร่างน้อยในอ้อมกอดหายลับเข้าห้องน้ำไป