ยอมรับตัวเองว่าอดใจไม่ไหวเลยที่จะประกบจูบริมฝีปากบวมเป่งนั้นอีกครั้งใช้ชิวหาเจาะควานหาความหวานอันล้ำลึกมาดื่มกินบรรเทาความกระหาย สองขาเรียวยาวโอบรัดสะเอวสอบของเขาไว้โดยอัตโนมัติ การตอบโต้ของเธอบ่งบอกถึงความพร้อมเต็มที่ในการทะยานขึ้นสู่ที่สูงสุดแห่งกามอารมณ์
ทอเลเมียสไม่รีรอให้ความทรมานนั้นยืดเยื้อ เขากระแทกกระทั้นตัวตนสุดแรงสองสามครั้งอย่างไม่ปรานี ก่อนจะได้ยินเสียงหวีดแหลมกรีดร้องดังระงม หญิงสาวกระตุกสองสามครั้งเกร็งตัวกอดรัดเขาเสียแน่นในขณะที่เขาหยุดแช่ตัวตนรองรับความอุ่นร้อนที่ชโลมไหล และแล้วร่างเล็กเปราะบางก็เหนื่อยอ่อนคลายตัวออกจากการกอดรัด เธอปล่อยลมหายใจหอบฮักถี่ๆ ในขณะที่เขาเริ่มรุกรานเธออีกครั้งเพื่อแสวงหาความสุขล้นนั้นบ้าง
“อื้อ...”
“อีกนิดเอพริล...ผมกำลังจะตามคุณไปแล้ว...ที่รัก...” ทอเลเมียสครางกระเส่าบอกคนใต้ร่าง ดูเหมือนการรุกเร้าของเขาจะรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่ใกล้ปะทุหญิงสาวจึงร้องประท้วงอยู่ในที เพราะร่างของเธอโยกคลอนไปตามจังหวะรักของเขาจนแทบหักคามืออยู่รอมร่อ
“เอพริล...” ในที่สุดจุดหมายปลายฝันที่เขาเพียรใฝ่คว้าก็อยู่ในกำมือเสียที ชายหนุ่มครางเสียงหลงราวกับสัตว์ป่าดันตัวเองให้ลึกสุดกำลังก่อนจะฟุบซบลงบนทรวงอกอวบที่กระเพื่อมหยุ่นรอรับ ลาวาแห่งราคะถูกปลดปล่อยออกจากตัวหลอมรวมกับน้ำหวานของหญิงสาวที่กลั่นออกมาก่อนหน้า ทุกอย่างเอ่อล้นท่วมออกมาด้านนอกลงสู่พื้นที่นอนสีขาวสะอาดให้กลายเป็นมัวหมองในบัดดล เพราะมันรวมไปถึงโลหิตจางๆ ของหญิงสาวด้วย หมดสิ้นกันแล้วสิ่งที่หวงแหนมาค่อนชีวิต...เธอใช้มันแลกกับความรักไปเสียแล้ว
“เอพริล...คุณน่ารักเหลือเกิน” ชายหนุ่มจูบซับใบหน้าที่ชื้นเหงื่อเหมือนรักใคร่เสียเต็มประดา แต่อันที่จริงเพราะอิ่มเอมในรสสวาทต่างหากเล่า ส่วนจุดที่ยังสานสัมพันธ์ยังเชื่อมต่อกันอยู่และทอเลเมียสก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่สภาพร่างกายของเขามันยังไม่เปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่าง กลับเต็งตึงพองนูนอยู่เช่นเดิม ไม่เหมือนกับตอนที่เสร็จภารกิจแล้วอย่างทุกๆ ครั้งที่มันต้องคืนสภาพเป็นปกติ นี่เขายังไม่อิ่มหรือนี่...สมันน้อยตัวนี้ช่างมีรสชาติโอชาเกินจะห้ามใจเสียจริงๆ แต่ถึงอย่างไรเขาก็คงต้องหักดิบความต้องการของตัวเองให้จบลงเพียงแค่นี้ เพราะสภาพร่างกายและจิตใจของอรุโณรีย์คงไม่อำนวยอีกต่อไป และเขาควรถนอมไว้ก่อน หญิงสาวยังมีประโยชน์กับเขาอีกมากมายนัก
“เจ็บมากไหม...ผมขอโทษนะ...” อีกครั้งที่ชายหนุ่มจูบซับตรงขมับที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอยังสะอื้นเบาๆ ร่างกายดูอ่อนเปลี้ยอย่างเห็นได้ชัด
“หนักค่ะ...” เธอบอกกับเขา ไม่ใช่แค่หนักอย่างเดียวเท่านั้นตอนนี้ความรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งสรรพางค์ยังโจมตีร่างกายจนแทบกระดิกไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างเขาก็ยังไม่ยอมถอดถอนตัวตนออกเสียที มันคับแน่นและร้าวรานจนจะปริแยกออกเป็นเสี่ยงๆ อยู่รำไร
“จ้ะ...คุณกลั้นใจหน่อยนะอาจจะเจ็บอีกนิด” ทอเลเมียสยังข่มอารมณ์หวามในตัวได้เป็นอย่างดีทั้งๆ ที่เขาจะรุกต่อเนื่องในทันทีทันใดก็ยังได้อย่างสบายมาก ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับถอนตัวออกจากความคับแน่น เธอขมวดคิ้วและแหยหน้าตาจนบิดเบี้ยวบอกให้รู้ว่ากำลังเจ็บเมื่อได้รับความกระทบกระเทือนแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม
เมื่อการประสานตัวห่างออกจากกันสิ่งที่ชายหนุ่มได้ประจักษ์แก่สายตาก็คือเลือดสดๆ ปนไปด้วยหยาดนทีขุ่นขาวที่เปื้อนไปทั่วโคนขาทั้งเขาและเธอรวมไปถึงพื้นผ้าปูที่นอนซึ่งเลอะติดอยู่มากพอสมควร ความรู้สึกผิดทะลุกำแพงแค้นเข้าโจมตีหัวใจเขาจนหวิวแปลบ เธอคงเจ็บมากจริงๆ เพราะเขาก็ไม่เคยรุนแรงกับผู้หญิงคนไหนที่ร่วมหลับนอนด้วยกันได้เท่านี้มาก่อน อาจมีบ้างก็จะเป็นพวกเจนจัดเรื่องอย่างว่าซึ่งต่างก็มีความสุขและเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แต่ก็ช่างเถอะ...แค่นี้มันยังน้อยนักถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาได้รับจากการกระทำของบิดาเธอ ซึ่งคนเป็นลูกสมควรแล้วจะต้องมาแบกรับการกระทำนั้นไม่ว่าจะรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องมาก่อนก็ตาม อย่างเช่นที่เขาเป็นยังไงล่ะ “คนดีผมขอโทษนอนนิ่งๆ ไปก่อนนะ” เมื่อชายหนุ่มผละออกจากตัวอรุโณรีย์ก็พลิกตะแคงข้างหนีบขาปกปิดตัวเองด้วยความเขินอาย แม้มันจะไม่เหลืออะไรให้ต้องบัดสีอีกต่อไปแล้วก็ตามแต่ ทอเลเมียสลุกลงจากเตียง ยืนเต็มความสูงทิ้งน้ำหนักตัวไปบนเท้าข้างที่ไม่เจ็บมากกว่าด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า เป็นครั้งแรกที่เธอได้มองเขาในสภาพนี้อย่างเต็มตา
และแน่นอนอาวุธร้ายที่สร้างความเจ็บปวดให้ก็ยังอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมเช่นเดิม มันมีราคีของเธอติดเปื้อนอยู่โดยทั่ว หลักฐานแห่งการสูญเสียคงเปื้อนอยู่กับสิ่งที่ใช้ทำลายเหมือนจะตอกย้ำให้คนถูกกระทำยิ่งละอายแก่ใจตัวเอง เธอไม่น่าเผลอไผลให้กับเขาเลย แล้วอย่างนี้จะยังเป็นลูกที่แสนดีซึ่งบิดาทั้งภาคภูมิใจและไว้ใจอยู่อีกได้หรือเปล่า
ร่างกำยำหันมองหญิงสาวที่อ่อนระทวยร้องไห้กระซิกอยู่บนเตียง เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ หรือบางทีคงสับสนจนแยกแยะไม่ออกก็เป็นได้ ถ้าเป็นคู่นอนคนอื่นๆ มันอาจจะน่ารำคาญมากๆ ในสายตาเขาเพราะมันช่างเหมือนกับการเรียกร้องความสนใจให้เห็นค่าถึงสิ่งที่สูญเสีย แต่สำหรับอรุโณรีย์เขารู้ว่าเธอไร้เดียงสาเกินกว่าจะคิดถึงวิธีการแบบนั้นได้แน่ๆ ชายหนุ่มเดินเขยกหายลับเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาในสภาพมีเสื้อคลุมปกปิดร่างกายเรียบร้อยแล้ว เขาเปิดไฟให้ห้องทั้งห้องสว่างโร่ ในมือมีกะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ติดมือมาด้วย และมุ่งมายังคนตัวเล็กที่ยังนอนคู้ตัวไม่ยอมขยับเขยื้อนเปลี่ยนท่า
กะละมังใบนั้นถูกวางไว้ข้างๆ ร่างบอบบาง ดูเธอจะเอาแต่ร้องไห้จนไม่สนใจอะไรเลยจนกระทั่งเขาใช้มือแตะสัมผัสที่ผิวเนื้อเนียนเบาๆ หลายที่หลายแห่งช้ำแดงเป็นจ้ำเป็นปื้นจนเห็นได้ชัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝีมือใครและลงมือได้เฉียบขาดมากแค่ไหน