ตอนที่6 ค่าตัวหมื่นสอง
“ทำไม?”
“พิมอยากเข้าห้องน้ำแล้วค่ะ”
“อยากเอาในห้องน้ำเหรอ” เขาถามคนที่ดันอกเขาอีกครั้งและครั้งนี้เขาก็ยอมผละออกจนส่วนที่เชื่อมกันอยู่หลุดจากพันธนาการ เขาดึงถุงยางที่กักเก็บน้ำกามของเขาออกแล้วชูขึ้นต่อหน้าของหญิงสาว
“ถุงไม่แตกนะ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ให้ดูไงว่าถุงยางไม่ได้แตก” พิมประภาเข้าใจทันที เขาคงจะทำอย่างนี้ทุกครั้งสินะ ก็ไม่แปลกที่คนเจ้าชู้อย่างเขาจะระวังตัวเองขั้นสุด
“ลุกออกไปหน่อยค่ะ พิมจะใส่เสื้อผ้า”
“ใส่ทำไม ฉันยังไม่พอ”
“ว้าย!” พิมประภาถูกอุ้มขึ้นไว้แนบอกราวกับเธอตัวเบาเป็นปุยนุ่นเท่านั้น
“ยังไม่พออีกเหรอคะ”
“พิมมี่น่ารัก ยังไม่พอง่าย ๆ หรอก” พูดคำหวานจบก็ประกบจูบเธออีกอีกครั้งแล้วเข้าไปชิมรสของอร่อยต่อบนเตียงนอนจนรุ่งเช้า โดยที่คนไม่เคยเรื่องบนเตียงแทบไม่เจ็บช้ำเพราะเขาเลย “ราวกับขึ้นสวรรค์จริง ๆ”
.....
ดวงตาคมเข้มค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นในความมืดสลัวที่ยังพอมีแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาให้เห็นว่าบนเตียงนอนของเขาไม่ได้มีอีกคนนอนอยู่ด้วยอย่างที่คิด “ลุกไหวด้วย โคตรเก่ง”
วายุบิดตัวไปมาเล็กน้อยขนาดเขาเคยทำมันคืนละหลายรอบยังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบ้างเลย “ยัยนั่นยังลุกไหวได้ไง” แต่ในขณะที่เขาบิดตัวกลับอีกครั้งนั้นสายตาก็ต้องหยุดชะงักกับปึกเงินบนหมอนที่เธอหนุนเมื่อคืน เขายกมือทั้งสองขึ้นลูบหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก จะว่าหงุดหงุดก็ไม่เชิง
“ไอ้เหี้ยกูได้ค่าตัวตั้งหมื่นสอง” ชายหนุ่มหลุดขำเมื่อหยิบเงินขึ้นมานับก่อนจะทิ้งตัวหงายท้องอย่างนึกตลกตัวเอง “นี่เขาได้เงินจากผู้หญิงที่นอนด้วยครั้งแรกเลยนะ”
.....
พิมประภาลากสังขารที่เพิ่งผ่านศึกหนักกลับมาที่คอนโดของตัวเอง เธอไม่ได้คิดเยอะที่เสียตัวให้วายุเมื่อคืน ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นล่อหลอกเก่ง “แต่เธอก็ไม่ได้โง่ให้เขาหลอกหรอกนะ”
หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเตียงนอนสุดนุ่มก่อนจะเปิดมือถือดูรูปถ่ายของคน ๆ พลันหยาดน้ำตาก็เริ่มก่อตัวแต่เธอก็สั่งไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะผล็อยหลับไปทั้งที่ภาพนั้นยังคงโชว์อยู่บนหน้าจอมือถือของเธอ
.....
คนที่เพิ่งได้รับค่าตัวเมื่อคืนหมื่นสองพันบาทสวมเสื้อยืดตัวที่เขาตั้งใจจะใส่มันออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืนแต่ก็ดันมีเหตุให้ไม่ได้ใส่มัน ผิวขาว ๆ ของเขาตัดกับเสื้อยืดสีดำยิ่งทำให้เขาดูน่ามองมากยิ่งขึ้น สองมือจัดการมัดกลุ่มผมที่ยาวอยู่กลางศีรษะไปด้านหลัง “มันคือจุกผมที่สาว ๆ ชอบเล่นมันตอนที่นอนครวญครางใต้ร่างของเขา”
เขาดันเจอคนที่พิมประภาตามหาที่หน้าลิฟต์ มุมปากของวายุยกยิ้มเมื่อเผลอนึกถึงเรื่องชวนใจหวิวเมื่อคืน ถ้าเธออยู่จนตอนนี้ก็คงได้เจอคนที่ตามหาอยู่
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ” จู่ ๆ พ่อของพิมประภาก็ทักทายเขา
“ผมอยู่ห้อง213เพิ่งย้ายมาอยู่น่ะครับ”
“อ่อ ครับ” เป็นธรรมดาที่คนย้ายมาอยู่ใหม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน แต่พ่อของพิมประภาคงไม่รู้ว่าเขาคือหลุมอันตรายสำหรับเขาเสียแล้วล่ะ
“ผมอยู่ห้อง203ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
.....
เสียงเรียกเข้าจากมารดาปลุกคนที่เพิ่งได้นอนให้คว้ามือถือที่อยู่ข้าง ๆ ตัวขึ้นมากดรับ “ก็สัญญากันแล้วว่าห้ามติดต่อไม่ได้”
“คะแม่...”
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอพิม จะเที่ยงแล้วนะ”
“เมื่อคืนพิมกลับดึกค่ะ มีเรียนบ่ายโมงโน่น” หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงทั้งที่ยังสะลึมสะลือ แต่ความแสบที่แล่นจี๊ดขึ้นมาทำให้เธอตาสว่างขึ้นมาได้ทันที
“โอ้ย...”
“เป็นอะไรน่ะพิม”
“เปล่าค่ะ ตอนนี้แม่อยู่ไหนคะ”
“แม่อยู่บริษัท” หญิงสาวเผยรอยยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น สิ่งที่ลูกอย่างเธอต้องการก็แค่อยากให้แม่ออกมาใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่หลบซ่อนตัวเพราะร่องรอยการโดนทำร้ายจากผู้ชายคนนั้น
“แค่นี้ก่อนนะพิม อย่าโดดเรียนล่ะ”
“เคยโดดที่ไหนกันล่ะคะ บายค่ะ” หลังจากมารดาวางสายหญิงสาวก็ลากร่างกายของเธอเข้าไปชำระล้าง มาถึงห้องก็หลับต่อเพราะอ่อนเพลียยังไม่ได้ล้างกลิ่นเขาออกจากตัวเลย “ครั้งแรกมันก็ไม่ได้แย่” แต่มันแย่ตรงที่ส่วนนั้นเจอน้ำเย็น ๆ นี่แหละ
“ซี๊ด...”
หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็สวมชุดคลุมออกมานั่งพักใจอยู่ที่เตียงของเธออีกพักใหญ่ เธอมีใบหน้าสวยราวกับภาพวาดแม้ไม่ได้แต่งเติมเธอก็สวยมากอยู่ดี เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งตัวให้เสร็จแต่ในจังหวะที่เธอจะลุกข้อความจากแอปพลิเคชันไลน์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“Wayuเพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์”
“ไปเอาเบอร์เรามาจากไหน?” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองแล้ววางมือถือไว้ดังเดิมไม่ได้กดเพิ่มเพื่อนเขาแต่อย่างใด
“ใครวะ” วายุสะดุ้งเล็กน้อยที่พี่ชายมายืนอยู่ข้างหลังของเขาก่อนจะรีบปิดหน้าจอมือถือไม่ให้เขามองใครในหน้าจอได้อีก
“เสือก”
“ใครทำให้มึงต้องแอดเขาไปเองเลยวะ”
“ลูกหนี้” เขาตอบปัดสายลมอย่างรำคาญ
“สวย”
“อืม”
“เอามาให้กู เดี๋ยวกูใช้หนี้ให้มึงเอง”
“...” คนพี่ถูกน้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ แต่พอเห็นสีหน้าของสายลมวายุจึงได้รู้ว่าโดนแกล้ง
“เบื่อข้าวเหรอถึงอยากแดกตีน?”
“ไอ้เหี้ย กูเป็นพี่มึงนะ”
“กูเลือกเกิดไม่ได้” สายลมหยุดต่อปากกับผู้ชายปากร้าย ถ้าไม่ใช่น้องชายตัวเองเขาคงสั่งเด็กกระทืบมันไปแล้ว พี่น้องนั่งห่างกันคนละฟากของโซฟาคนพี่จับสังเกตว่าวายุมักจะปลดล็อกหน้าจอมือถือแล้วก็ปิดอยู่หลายรอบเหมือนมันรออะไรในนั้น
“เชี่ย...”
“ใครวะ?”
“มึง... มึงเลิกสนใจกูได้ละ” วายุละสายตาจากหน้าจอมือถือขึ้นมาว่าให้พี่ชายที่นั่งมองเขาอยู่นั่น ยิ่งถ้ามันรู้เรื่องที่เขาได้ค่าตัวมันต้องเอามาปั่นหัวเขาไม่เลิกแน่
“แล้วเป็นเหี้ยอะไรเงียบไปวะ คนอย่างวายุไม่เคยทักหาใครก่อนนะเว้ย”
.....
มือถือของพิมประภามีสายเรียกเข้าจากพ่อของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจอยากจะรับ ไม่รู้ว่าจะโทรมาหาเรื่องอะไรเธออีก คอยดูเถอะเธอได้หลักฐานเมื่อไรเขาจะไม่มีสิทธิ์มายุ่งอะไรดับเธอและแม่อีกแล้ว
“มีอะไรคะ” ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจรับตัดความรำคาญกลัวจะโทรมากวนตอนเรียนไม่หยุด