@THE BLACK ONE
ตึก
ตึก
เสียงสองเท้าหนาของร่างสูงที่ยังคงสวมใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังเดินตรงเข้าไปยังภายในร้านเหล้าสุดหรูย่านทองหล่อด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง โดยเหล่าพนักงานที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของลูกค้าวีไอพีก็ไม่รอช้าที่จะก้มหน้าทักทายเกือบทุกคนที่ได้พบเจออยู่เป็นประจำ โดยไคลน์ก็ไม่ได้คิดสนใจอะไรต่อท่าทีที่เห็น ชายหนุ่มมุ่งหน้าเดินตรงเข้าไปยังโซนวีวีไอพีที่มีร่างสูงของเพื่อนทั้งสี่ของเขาที่นั่งอยู่กันครบด้วยใบหน้าราบเรียบ
“เฮ้ย มึงอย่ามานั่งข้างกู…กลบความหล่อกูหมด” ปากหนาของ ไซม่อน หันบอกยังคนมาใหม่ที่นั่งลงด้านข้างเขาด้วยโทนเสียงติดกวน ซึ่งไคลน์ที่ได้ยินก็นั่งลงอย่างไม่คิดสนใจกับการติดกวนของเพื่อนสนิท โดยไม่นาน แก้วเหล้าราคาแพงก็ถูกนำเข้ามาวางไว้พร้อมกับมือแกร่งที่เลื่อนเข้าไปหยิบมากระดกดื่มด้วยท่าทางนิ่งเรียบปกติของตัวเอง
“ธีสิสพวกมึงไปถึงไหนแล้ว” วินเซนต์เอ่ยถามยังกลุ่มเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่
“เสร็จแล้ว” เป็นไคลน์คนแรกที่ตอบกลับ และคำตอบจากริมฝีปากหนาทำเอาไซม่อนที่นั่งอยู่หันมอง
“ถามจริง”
“…” คนตัวสูงก็นิ่งไม่ตอบ
“ไอ้เหี้ย กูโดนแก้เพียบ มึงผ่านแล้ว?”
“อืม”
“เกินไปปะวะไอ้สัส หล่อแล้วยังจะเรียนเก่งอีก โลกแม่งไม่ยุติธรรม” ชายที่หน้าตาดีไม่ต่างพึมพำไปเรื่อยตามนิสัยของตัวเอง ขณะที่วินเซนต์เองก็หันไปมองยังอีริคกับวิกเตอร์ที่นั่งอยู่
“พวกมึงล่ะ?”
“ไม่จำเป็น” เสียงทุ้มของวิกเตอร์ตอบกลับอย่างไม่คิดสนใจต่อสิ่งที่วินเซนต์ถามถึง เช่นเดียวกับอีริคที่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร ทว่าวินเซนต์ก็พอรู้ได้ถึงการเป็นถึงลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างที่จะเป๊ะมากอยู่แล้ว
“เอาเป็นว่า ไม่มีใครน่ากังวลเท่ามึงกับกูอีกแล้ว” วินเซนต์หันบอกยังไซม่อนที่นั่งอยู่
“มึงยังไม่เท่าไร กูดิไอ้ห่า…”
“ก็เลิกไปหน้าหม้อ แล้วเอาเวลาไปทำ” เสียงเรียบนิ่งของไคลน์อดไม่ได้ที่จะหันไปบอกเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับตัวเอง ทว่าอีกคนนั้นค่อนข้างที่จะติดเล่นพอสมควร ไซม่อนที่ได้ยินแบบนั้นจึงยักไหล่ไม่แคร์
“เรื่องนั้น กูทำให้ไม่ได้ว่ะ โทษที” ชายวิศวะเพลย์บอยยกยิ้มเอ่ยด้วยท่าทีติดกวนเหมือนเคย และถึงพวกเขาจะพูดคุยกันถึงเรื่องการทำธีสิสที่ไม่ง่ายเอาซะเลย แต่ก็ไม่ได้เป็นที่ชวนกังวลอะไรมากนักสำหรับทายาทตระกูลดังอย่างพวกเขา ก็แค่พูดคุยเล่นกันไปตามประสา กระทั่ง…
“คุณชายครับ ถึงเวลานัดแล้วครับ” เสียงชายวัยกลางคนในชุดสูทดูสุขุมเดินเข้ามาเอ่ยบอกอีริคที่นั่งอยู่ ทำให้คนที่ได้ยินหันมองก่อนจะยกข้อมือหนาที่สวมใส่นาฬิกาสุดหรูขึ้นมามองดู และเมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้วจริง ๆ คนตัวสูงก็ลุกขึ้นจากโซฟาราคาแพง
“จะไปเลยเหรอวะ” ไซม่อนที่เห็นมองหน้าถามเพื่อนตัวเองขึ้น ซึ่งทุกคนนั้นต่างเห็นภาพแบบนี้กันจนชินตา
“อืม ไว้เจอกัน” พูดจบ อีริคก็สาวเท้าเดินออกไปเพื่อทำหน้าที่ของทายาทตระกูลดังทรงอิทธิพล
“ดีนะที่บ้านกูไม่รวยขนาดมัน” ไซม่อนพึมพำ ก่อนที่ทั้งสี่ที่เหลืออยู่จะต่างนั่งกระดกดื่มเหล้าเข้าปากกันไปพลางพูดคุย โดยก็มีไคลน์ที่นั่งฟังกลุ่มเพื่อนตัวเองพูดคุยกันไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จนผ่านไปสักพัก
“จะไปไหนวะ” เสียงวินเซนต์มองหน้าถามเพื่อนสนิทของตัวเองขึ้นหลังจากที่เห็นร่างสูงของไคลน์ลุกขึ้น
“เข้าห้องน้ำ” ปากหนาตอบกลับโทนเสียงเรียบพร้อมกับสาวเท้าเดินออกไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลด้วยท่าทีปกติ ทว่าหลังจากที่ร่างสูงวิศวะออกมาจากห้องน้ำ
“ไง” เสียงหวานของใครบางคนทักทายคนตัวสูงก็ดังขึ้น ทำให้ดวงตาคมกริบจ้องมองยังคนตรงหน้านิ่ง ซึ่งเธอคือ นิดา เพื่อนร่วมห้องเมื่อตอนมัธยมปลายของไคลน์ที่เป็นถึงอดีตดาวโรงเรียนในตอนนั้น
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ทั้งที่ก็อยู่มหา’ลัยเดียวกันแท้ ๆ หาตัวยากจัง” หญิงสาวสวยพูดพลางจ้องมองยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยแววตาที่มีความมั่นใจปะปนไปกับความยั่วยวนเชิญชวนบางอย่างที่ตัวไคลน์เองก็รับรู้ได้ทั้งหมด
เขารู้ถึงความต้องการของหญิงสาวเป็นอย่างดี เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เธอแสดงท่าทีเชิญชวนแบบนี้ใส่เขา
เธอเคยทำมันอยู่บ่อยครั้งในตอนมัธยมปลาย และแน่นอนว่า…ไคลน์เองก็สนองตอบกลับไปตามประสา
“คิดถึงกันไหม” นิดามองหน้าถามเพื่อนเก่าที่เธอเคยหลับนอนกับเขาอยู่สองสามครั้งด้วยแววตาเชิญชวนโหยหาชัดเจน ไคลน์เองก็ยืนเงียบไม่ตอบ ทว่า…สองเท้าหนักเลือกที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลโดยมีร่างสวยของนิดายกยิ้มไปด้วยความรู้กันในท่าที
@ห้องพักวีวีไอพี (ชั้นใต้ดิน)
พรึบ!
“อ๊ะ…” เสียงร่างสวยที่นัวเนียชายหนุ่มวิศวะถูกผลักลงไปบนเตียงหรู
“…ยังร้อนแรงเหมือนเดิมเลยนะ” สาวคณะบริหารปีสี่ขยับเอ่ยบอกคนที่อยู่ตรงหน้าพลางส่งสายตายั่วยวนขั้นสุดไปให้ รวมถึงความรู้สึกพึงพอใจต่อสัมผัสของอีกคนที่เธอไม่เคยลืมเลือนเลยสักครั้ง ด้านไคลน์ก็นิ่งไม่ตอบกลับอะไร มือหนาจัดการถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ของตัวเองออกด้วยใบหน้าราบเรียบ ไม่ได้มีความรู้สึกคลั่งไคล้หรือหวั่นไหวอะไรต่อร่างสวยที่นอนเกือบเปลือยอยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขา มันก็แค่นั้น
สำหรับเขา…มันก็แค่เซ็กซ์
เพราะคนอย่างเขา ไม่คิดที่จะมีความรักหรือความรู้สึกให้กับใคร
ความรักสำหรับเขา มันก็แค่…เรื่องน่ารำคาญทำให้ชีวิตวุ่นวายเรื่องหนึ่ง…
แค่นั้น
“อ…อ๊ะ! ไคลน์ ดะ…เดี๋ยวก่อนสิ…”
“…อ อึก! อ๊าาา อื้ออ!…”
ผ่านไปสักพัก…
พรึบ
เสียงคนตัวสูงลุกขึ้นจากเตียงนอนหลังจากเสร็จสมความต้องการพร้อมกับจัดการสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเองตามเดิมด้วยใบหน้าราบเรียบ นิดาที่เห็นแบบนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นขยับตัวลงพิงเข้าที่หัวเตียงด้วยความรู้สึกสบายตัวไปกับการปลดปล่อยและเซ็กซ์อันเร่าร้อนไม่เคยลืม
“จะกลับเลยเหรอ” เรียวปากสีสวยขยับถาม ทว่าคนที่ถูกถามก็เงียบไม่ตอบยังคงแต่งตัวอยู่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบเหมือนเดิม นิดาที่เห็นแบบนั้นจึงไม่คิดเซ้าซี้ต่อ แต่แล้วในตอนนั้นเอง
“…” หญิงสาวที่เหลือบไปเห็นสร้อยเกียร์ที่ถูกถอดไว้ข้างเตียงยกยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหยิบสร้อยเกียร์ของคนตัวสูงเข้ามามองดู แต่แล้ว
“ทำอะไร” เสียงทุ้มเข้มของคนตัวสูงที่แต่งตัวเสร็จเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปจัดการหยิบสร้อยเกียร์ของตัวเองจากมือสวย
“อย่ามายุ่งกับของฉัน” ปากหนากดเสียงเรียบบอก ก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าราบเรียบ ขณะที่นิดาเองก็มองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่เพิ่งเดินออกไปอย่างรู้สึกชอบใจ
“หวงจังนะ” หญิงสาวยิ้มบาง ๆ พลางพึมพำออกมากับท่าทีดูหวงสร้อยเกียร์นั้นของคนตัวสูงที่เธอนั้นติดใจรสรักและขนาดของเขาเป็นอย่างมาก และเธอไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยสักครั้งที่ได้มีโอกาสลิ้มลอง