และทันทีที่เจนิสเดินนำตรงเข้าไปยังด้านในที่มีบรรดารุ่นพี่และเพื่อน ๆ นักศึกษากำลังนั่งเข้าร่วมการประชุมกันอยู่
“อย่าเพิ่งนั่ง ไปกับฉันก่อน” เรียวปากสีสวยได้รูปขยับบอกเพื่อนทั้งสองพร้อมกับเดินตรงไปยังชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนเด่นสง่ากันอยู่
“ฮัลโหล…” เจนิสไม่รอช้าที่จะทักทายร่างสูงทั้งสามของอีริค วิกเตอร์ แล้วก็วินเซนต์ แน่นอนว่าทั้งสามที่เห็นก็จ้องมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาทักทายอย่างไม่คิดว่าอีกคนจะมาเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องนี้ ทางด้านเจนิสเองก็เช่นกัน
“…ไม่คิดว่าพวกพี่จะมาด้วย โดนคุณป้าบังคับให้มาโชว์ตัวบ้างละสิ” ร่างบางบอกอย่างพอคาดเดาได้ไม่ยากพลางไม่ลืมที่จะนึกขึ้นได้ถึงเพื่อนอีกสองคนของตัวเองที่ยืนมีท่าทีงุนงงเกร็ง ๆ กันอยู่
“อ้อ เกือบลืมแนะนำ…นี่ใบข้าวกับลูกหว้า เพื่อนใหม่ของเจเอง แล้วก็…นี่พี่อีริค ลูกพี่ลูกน้องฉัน คุณชายของที่นี่ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก ส่วนนี่พี่วิกเตอร์ แล้วก็…” ขณะพูด เจ้าของใบหน้าเรียวสวยก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินเข้าไปคล้องยังแขนหนาของคนสุดท้ายที่ยืนอยู่
“…นี่พี่วินเซนต์ ว่าที่สามีและพ่อของลูกฉันเอง” เจนิสยิ้มเอ่ยพร้อมกับคลอเคลียใส่วินเซนต์อย่างเปิดเผย
“เฮ้อ” ชายบริหารปีสี่ที่ทำอะไรไม่ได้ก็ทำได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความปลง โดยใบข้าวกับลูกหว้าที่ได้ยินก็ไม่รอช้าที่จะก้มหน้าทักทายสามหนุ่มรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีนอบน้อม และทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยกับสามคนตรงหน้าที่ดูหล่อเหลาดูดีกันเป็นอย่างมาก รวมถึงทั้งสามที่ดูเป็นเป้าความสนใจของใครหลายคนอยู่ไม่น้อย ทว่าหลายคนก็ดูค่อนข้างชินไปกับท่าทางของเจนิสที่มีต่อทั้งสาม ราวกับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ยกเว้นเด็กทุนอย่างลูกหว้ากับใบข้าวที่อาจจะไม่ได้รู้อะไรมากนัก
“ไปนั่งได้แล้ว” เสียงอีริคหันบอกลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่ยืนวอแวอยู่กับเพื่อนเขา แน่นอนว่าคนดื้ออย่างเจนิสก็ไม่คิดสนใจ
“คิดถึงเจไหม” หญิงสาวมองหน้าถามวินเซนต์พร้อมกับส่งสายตาคลั่งรักไปให้ชายหนุ่ม แต่วินเซนต์กลับปัดมือสวยออกจากแขนหนาของตัวเองพลางบอก
“ไปนั่ง”
“…” เจนิสก็ตีหน้ามึนไม่สนใจ
“ไปเร็ว ๆ เพื่อนรออยู่”
“ชิ ก็ได้…” สุดท้ายคนตัวเล็กก็พยักหน้าตอบกลับอย่างจำยอม ก่อนจะใช้จังหวะในตอนที่วินเซนต์เผลอหมายจะเขย่งเพื่อกดหอมเข้าที่แก้มหนาอย่างที่มักจะชอบทำ ทว่า…
พรึบ!
“หยุดเลย” ครั้งนี้วินเซนต์กลับรู้ทัน ทำให้มือหนาผลักหน้าผากมนออกด้วยความรวดเร็ว เจนิสที่ถูกรู้ทันก็ทำหน้างอในทันที
“ไป”
“ชิ! ฮึ่ย!” สุดท้ายร่างบางก็ต้องเดินตรงเข้าไปนั่งยังภายในการจัดประชุมการรับน้องด้วยใบหน้าหงุดหงิดไม่จริงจัง ซึ่งหลังจากที่สามสาวพากันนั่งลง
“แฟนเจนิสเหรอ” ลูกหว้าที่อยากรู้หันถามคนเป็นเพื่อน
“ตอนนี้ยัง”
“หือ?” สองสาวที่ได้ยินต่างมองหน้าเพื่อนด้วยความงุนงง
“ฉันกำลังตามจีบพี่เขาอยู่น่ะ ตามจีบมาสามปีกว่าแล้ว แต่คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นเขาที่เป็นเจ้าบ่าวและพ่อของลูกฉัน” เจ้าของใบหน้าเรียวยิ้มบอกกับเพื่อนทั้งสองด้วยแววตาหมายมั่นที่ไม่ว่ายังไง วินเซนต์ก็จะต้องใจอ่อนยอมเป็นของเธออย่างแน่นอนในสักวัน ใบข้าวกับลูกหว้าที่พอเข้าใจก็หัวเราะยิ้มไปอย่างรู้สึกเอ็นดูกับท่าทีของเพื่อน ก่อนที่การประชุมเตรียมตัวรับน้องในวันนี้จะดำเนินไปตามปกติ กระทั่งการประชุมของวันนี้จบลง
“ให้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่งั้นเหรอ” เสียงลูกหว้าพูดขึ้นหลังจากได้ยินหนึ่งในกิจกรรมที่รุ่นพี่มอบหมายให้มา
“แล้วเราจะไปหารุ่นพี่จากไหนกัน พวกเขาก็น่าจะมีเรียนกันหมด” ใบข้าวเองก็รู้สึกคิดไม่ตกเช่นกัน ผิดกับเจนิสที่หันเหลือบมองยังกลุ่มลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่กำลังจะสาวเท้าเดินออกจากตึกคณะไป
“จะไปยากอะไร ฉันหาให้ได้” พูดจบ ร่างสวยในชุดนักศึกษาก็พาเพื่อนตัวเล็กทั้งสองของตัวเองเดินตรงตามร่างสูงทั้งสามไปด้วยความรวดเร็ว
“พี่วินเซนต์!” เสียงหวานของเจนิสตะโกนเรียกวินเซนต์ที่กำลังเดินตรงไปยังลานจอดรถด้านหน้าตึก ทำให้ทั้งสามที่เดินอยู่ต่างหันมองยังคนที่เรียก เจนิสก็ไม่รอช้าที่จะสาวเท้าเดินตามทั้งสามเข้าไป แล้วก็ต้องพบเข้ากับร่างสูงอีกสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ด้านใบข้าวที่เหลือบไปเห็นหนึ่งในร่างสูงของสองคนที่ยืนเหมือนรอเพื่อนอยู่ก็ชะงักไปอย่างทำตัวไม่ถูก
ดวงตากลมเผลอจ้องมองไปยังเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติที่ยืนสูบบุหรี่พิงรถสปอร์ตหรูอยู่ด้วยความประหม่าขึ้นมาชัดเจน แต่ก็ไม่อาจที่จะละสายตาออกจากคนคนนั้นได้ กระทั่งสายตาคมของคนที่รู้ตัวว่าถูกจ้องมองจ้องกลับยังนัยน์ตาสีหวาน
พึบ!
ใบข้าวที่ถูกมองกลับก็รีบก้มหน้างุดในทันทีอย่างรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างชัดเจนและทำตัวไม่ถูกกับการได้พบกับเขาอีกครั้ง
รุ่นพี่วิศวะคนนั้น…
“อ้าว พี่ไคลน์กับพี่ไซม่อนรออยู่นี่เองเหรอ…” เจนิสที่เห็นสองร่างสูงเอ่ยพลางไม่รอช้า
“…ลูกหว้า ใบข้าวมานี่สิ” ลูกหว้าที่ถูกเพื่อนเรียกก็เดินตรงเข้าไปยังเจนิสด้วยความว่าง่าย ผิดกับใบข้าวที่ยังคงเอาแต่ก้มหน้างุดทำตัวไม่ถูกอยู่
“ใบข้าว” กระทั่งเสียงเจนิสเรียกร่างเล็กอีกครั้ง ทำให้เจ้าของใบหน้าเรียวใสได้สติรีบสาวเท้าเดินตามลูกหว้าไปยังเจนิสด้วยความรวดเร็ว ทว่าก็เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบสายตากับคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่
“นี่ลูกหว้ากับใบข้าว เพื่อนเจเอง แล้วก็นั่นพี่ไซม่อน…”
“…ส่วนนี่พี่ไคลน์” เจนิสจัดการแนะนำให้ทั้งหมดรู้จักกันไปอีกครั้งตามประสา หนุ่มวิศวะที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงก็ไม่รอช้า
“สวัสดีครับ” ไซม่อนยิ้มทักทายสองสาวเพื่อนเจนิสอย่างออกลายชัดเจน
“หยุดเลย ห้ามยุ่ง” เจนิสไม่รอช้าที่จะเอ่ยดักรุ่นพี่หนุ่ม ทว่าไซม่อนก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์ ขณะที่ใบข้าวเองก็เอาแต่ก้มหน้าไม่หยุด เธอรู้สึกเกร็ง ประหม่า ทำตัวไม่ถูกมาก ๆ กับการได้มาทำความรู้จักกับรุ่นพี่หนุ่มที่เธอไม่คิดว่าจะได้บังเอิญมาเจอเขาอีกในฐานะเพื่อนของพี่เพื่อนแบบนี้
“ใบข้าว โอเคหรือเปล่า” เสียงเจนิสถามขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนตัวเองเอาแต่ก้มหน้างุดอยู่ คนที่ถูกถามจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นตอบกลับ
“อะ…เอ่อ โอเค…มะ…ไม่ได้เป็นอะไร” คนตัวเล็กตอบ ทั้งที่ก็ยังคงไม่กล้าที่จะจ้องมองยังรุ่นพี่หนุ่มที่ยืนพิงรถสปอร์ตคันหรูสีเทาดำด้านนั้น เรียวปากสีหวานเผลอเม้มกัดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่วินเซนต์จะมองหน้าถามเจนิสขึ้น
“แล้วตามมาทำไม”
“อ้อ! ใช่สิ พอดีตอนประชุมรับน้องพวกพี่เขาให้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ในมหา’ลัย…”
“เคยสนใจเรื่องพวกนั้นด้วยหรือไง” วินเซนต์เอ่ยอย่างรู้นิสัยเจนิสเป็นอย่างดี
มันก็แค่…ข้ออ้างเท่านั้น
“สนใจสิ! เจออกจะเป็นเด็กกิจกรรม…”
“ฝนกำลังจะตก ไปยืนไกล ๆ เลย เดี๋ยวฟ้าผ่า”
“ชิ! ชอบหยอกว่าที่เมียแรงตลอดเลยนะ”
“เจนิส” วินเซนต์เสียงเข้มในทันทีหลังจากที่น้องเพื่อนพูดจาตรงจนเกินพอดีออกมา ร่างบางที่ถูกดุก็กลอกตาไปมาอย่างไม่คิดสนใจต่อเสียงเข้มนั้น ขณะที่ใบข้าวเองก็ยังคงยืนฟังเพื่อนถกเถียงกับรุ่นพี่หนุ่มอยู่เงียบ ๆ ความประหม่ายังคงอยู่ไม่จางหาย กระทั่ง…
ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ของใบข้าวดังขึ้น ทำให้มือเล็กหยิบขึ้นมามองดู ก่อนจะตัดสินใจหันไปเอ่ยบอกเจนิสที่ยืนอยู่
“เอ่อ เดี๋ยวฉันต้องไปแล้ว วะ…ไว้เดี๋ยวค่อยว่ากันนะ”
“โอเค” เจนิสพยักหน้ารับรู้พลางยกมือขึ้นโบกลาเพื่อนตัวเล็ก ใบข้าวเองก็ไม่รอช้าที่จะก้มหน้าลารุ่นพี่หนุ่มทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ จนเมื่อไปถึงร่างสูงคนสุดท้าย…ดวงตากลมเผลอจ้องมองประสานสายตาปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบเข้าอย่างจัง ทำเอาใบข้าวเผลอเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกประหม่าชัดเจน ก่อนจะรีบหมุนตัวสาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็วรู้สึกเขินแทบควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อได้สบสายตากับเขาคนนั้น…