8 เลือกสัมภาษณ์

1761 คำ
วันต่อมา… ขณะที่ใบข้าวกำลังนั่งเปิดโทรศัพท์ตัวเองจ้องมองยังรูปภาพของแมวตัวน้อยที่เธอแอบถ่ายเอาไว้ระหว่างรอเพื่อนทั้งสอง “เฮ้!” เสียงหวานแหลมคุ้นเคยของใครบางคนทักทายยังร่างเล็กที่นั่งอยู่ดังขึ้น ทำให้ใบข้าวหันไปมอง ก่อนจะเห็นร่างสวยของเจนิสกับลูกหว้าที่เดินเข้ามาพร้อมกัน “ขอโทษที่มาช้านะ พอดีหน้าหอฉันเกิดอุบัติเหตุทำให้รถติดหนักเลย” ลูกหว้าบอกคนตัวเล็ก ตามด้วยเรียวปากสีหวานของเจนิสที่บ่นอุบออกมาไม่ต่าง “ใช่เลย! ฉันก็กว่าจะหลุดออกมาได้ เสียเวลาชะมัด” “ฮ่า ๆ ไม่เป็นไร ๆ งั้นเราไปเข้าเรียนกันเลยไหม” ใบข้าวยิ้มถามเพื่อนทั้งสอง ซึ่งทั้งลูกหว้ากับเจนิสก็ต่างพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งสามจะพากันเดินตรงไปยังห้องเรียนที่อยู่ไม่ไกล และขณะที่เดิน “ว่าแต่เมื่อกี้รูปลูกแมวใครเหรอ หน้าตาน่ารักเชียว” ลูกหว้าหันถามใบข้าวขึ้น “อ๋อ นี่น่ะเหรอ?” ใบข้าวยิ้มถามพลางหยิบรูปที่เพิ่งดูเมื่อกี้ขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ “อืมใช่ แมวเธอเหรอ?” “ไม่ใช่หรอก แมวจรร้านที่ฉันไปทำงานพิเศษน่ะ” “หือ? เธอทำงานด้วยเหรอ” ลูกหว้าถามสีหน้าสงสัย ทำให้ใบข้าวอธิบาย “อืม แอบรับงานพิเศษทำน่ะ พอมาอยู่ที่นี่ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น เลยอยากช่วยที่บ้านแบ่งเบา” “ดีจัง” ลูกหว้ายิ้มมองหน้าเพื่อนตัวเล็กด้วยความรู้สึกชอบในคำตอบของอีกคนที่บ่งบอกได้ถึงนิสัยจิตใจดีที่มี ด้านเจนิสที่ได้ยินก็รู้สึกชื่นชมคนเป็นเพื่อนอยู่ไม่ต่าง ผิดกับเธอที่ชีวิตสุขสบาย ใช้เงินไปวัน ๆ โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอะไรแบบนั้น “พวกเธอนี่น่ารักกันจริง ๆ เลยนะ” เจนิสอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาตามความคิด และรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ทั้งใบข้าวกับลูกหว้าที่ได้ยินจึงเอ่ยตอบกลับ “เธอเองก็น่ารัก” “หือ?” เจนิสแสดงสีหน้างุนงงกับคำพูดของเพื่อน ทำให้ใบข้าวที่เห็นยิ้มเอ่ย “ทั้งที่เธอดูมีเพื่อนให้เลือกมากมาย แต่ก็ยังเลือกมาคบกับพวกเรา แถมยังไม่เคย…ทำตัวไม่น่ารักใส่เลยสักครั้ง” ใบข้าวเอ่ยอย่างไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ ถึงนิสัยลูกคุณหนูบางคนที่มักจะพูดจาและใช้สายตาดูถูกเด็กทุนอย่างพวกเธอ ลูกหว้าเองก็คิดแบบเดียวกัน “ใช่ แถมเธอยังเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรก็พูดออกมาเลย ไม่เคยเจอใครที่ซื่อตรงและจริงใจขนาดนี้มาก่อนเลย ขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนกันนะ” “โอ๊ย ทำไมพูดเหมือนฉันสูงส่งอะไรขนาดนั้น ก็คนเหมือนกัน แค่ที่บ้านฉันรวยก็ไม่ได้แปลว่าโลกจะต้องหมุนรอบฉันนะ” เจนิสพูดด้วยท่าทีปกติ ทว่าทั้งสามก็ต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกดีใจจริง ๆ ที่ได้เป็นเพื่อนกัน กระทั่งการเรียนในวิชาแรกของวันนี้จบลง “เฮ้อ วิชาต่อไปอีกตั้งหลายชั่วโมงเลย” เสียงเจนิสบ่นออกมาขณะที่สามสาวกำลังสาวเท้าเดินออกจากห้อง ซึ่งตารางเรียนในวันนี้ของพวกเธอนั้นมีเข้าเรียนในคาบเช้า แล้วมีเรียนอีกทีก็ช่วงเย็น ๆ เลย “ว่างตั้งหกชั่วโมง เราจะไปอยู่ไหนกันก่อนดี” ลูกหว้าถามขึ้น ทำให้ใบข้าวเสนอ “ไปห้องสมุดกันดีไหม” “วันนี้เหมือนที่ชั้นห้องสมุดจัดงานอะไรสักอย่าง คนน่าจะเยอะเอาเรื่องเลยนะ” ลูกหว้าบอก ทำให้สามสาวต่างเงียบหันไปเพื่อหาที่ระหว่างรอเรียน แต่แล้วในตอนนั้นเอง “เดี๋ยวรอฉันตรงนี้แป๊บนะ” พูดจบ เจนิสก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองสาวเท้าเดินออกไป ใช้เวลาไม่นานร่างสวยก็เดินกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มอารมณ์ดี “ปะ ไปกัน” “หือ?” สองคนที่ยืนอยู่หันมองยังเพื่อนที่เดินกลับมาเอ่ย “ฉันหาที่ได้แล้ว ไปกันเถอะ ตามฉันมา~” สิ้นเสียงเอ่ย เจนิสก็เดินพาเพื่อนทั้งสองของตัวเองไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับเดินนำไปยังห้องห้องหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวอยู่ไม่น้อย “ชั้นนี้ เขาห้ามขึ้นมาไม่ใช่เหรอ” เสียงลูกหว้าที่เดินตามเจนิสมาพูดขึ้น “ขึ้นได้น่า ฉันขอแล้ว” ทันทีที่พูดจบ เจนิสก็ไม่รอช้าที่จะจัดการเคาะประตูห้องห้องหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า โดยใช้เวลาไม่นาน ประตูห้องหรูนั้นก็ถูกเปิดออก “ฮัลโหล~” เสียงหวานของร่างสวยปีหนึ่งไม่รอช้าที่จะยกมือขึ้นโบกทักทายคนที่อยู่กันภายในห้อง “โอ๊ะ อยู่กันครบเลยแฮะ” เรียวปากสวยได้รูปเอ่ย ขณะที่ลูกหว้ากับใบข้าวก็ยังคงยืนอยู่ด้านหลังไม่รู้อะไร กระทั่งร่างของเจนิสเดินนำพาเข้าไป ทำให้ทั้งสองได้เห็นกลุ่มชายรุ่นพี่ที่พบเจอกันแล้วเมื่อวานนั่งอยู่ภายในห้องกันครบ “มาทำไม” วินเซนต์ถามคนที่ยืนอยู่ เจนิสจึงยู่หน้าใส่ “ทำไมถามแบบนี้เนี่ย พี่ควรจะดีใจที่เจมาสิ” “…” วินเซนต์ก็เงียบไม่ตอบพลางมองยังใบหน้าเรียวสวยนิ่ง “ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลย เจขอคุณป้าแล้วเถอะ ไม่เชื่อก็ถามพี่อีริคได้” สิ้นเสียงหวานเอ่ยบอก วินเซนต์ก็หันไปมองยังเพื่อนของตัวเองทันที และเมื่อเห็นความเงียบที่เหมือนเป็นคำตอบจากอีริคแล้ว เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ผิดกับสองสาวที่ยืนตัวเกร็งอยู่ด้านหลังเพื่อนของตัวเอง โดยเฉพาะใบข้าวที่ยืนบีบมือตัวเองแน่นอย่างไม่สามารถที่จะควบคุมท่าทีประหม่าของตัวเองได้ ไซม่อนที่เห็นท่าทีราวกับลูกนกนั้นก็ยกยิ้ม “ไหน ๆ ก็มากันแล้ว ก็ให้น้องมานั่งด้วยกันเถอะ…” หนุ่มวิศวะเพลย์บอยบอก เจนิสที่ได้ยินจึงตอบกลับ “นั่งกันได้หมดเลยนะ ยกเว้นข้างพี่ไซม่อน” “อ้าว” “อย่ามาทำตัวเจ้าชู้ใส่เพื่อนเจ ห้าม!” “หึ พี่ก็ไม่ได้อะไรสักหน่อย” เสือหนุ่มหัวเราะตอบกลับ ก่อนที่เจนิสจะพาเพื่อนทั้งสองของตัวเองไปนั่งยังโซฟาราคาแพงด้านข้างเธอที่อยู่ห่างจากไซม่อนอยู่พอสมควร ทว่ากับใบข้าวนั้นกลับได้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับรุ่นพี่หนุ่มวิศวะหน้านิ่งคนนั้นเป๊ะ ๆ ทำให้คนตัวเล็กนั้นเอาแต่ก้มหน้างุดอีกครั้งด้วยความไม่กล้าที่จะจ้องมองอะไร อาการประหม่ากลับมาโจมตีร่างเล็กจนมือบางนั้นเอาแต่บีบเข้าหากันและกันไม่หยุด “แต่ได้ข่าวว่าพวกเราต้องสัมภาษณ์รุ่นพี่ไม่ใช่เหรอ” เสียงไซม่อนพูดขึ้น “อุ้ย จริงด้วย…” เจนิสนึกขึ้นมาได้พอดี แต่ก็ไม่วาย “…แต่ยังไงก็ไม่สัมภาษณ์พี่ไซม่อนหรอก อยู่กันคนละคณะ” “เขาให้สัมภาษณ์แค่คณะบริหารเหรอ?” “ก็เปล่า แต่ไม่อยากสัมภาษณ์เสือร้ายแบบพี่! ไม่ต้องมามองเพื่อนเจเลยนะ!” เจนิสเอ่ยพร้อมกับมองหน้าไซม่อนราวกับแมวน้อยกำลังขู่หวงเพื่อน ซึ่งไซม่อนที่เห็นก็หัวเราะ “งั้นก็ต้องเสียใจด้วย” “คืออะไร?” “เดี๋ยวไอ้วิกเตอร์กับไอ้อีริคต้องออกไปข้างนอก” สิ้นเสียงไซม่อนบอก เจนิสก็หันไปมองยังลูกพี่ลูกน้องและวิกเตอร์ในทันที โดยเป็นจังหวะเดียวกันกับทั้งสองที่ถึงเวลาต้องออกไปทำธุระส่วนตัวแล้วเช่นกัน สองหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาหรูพร้อมกับสาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีปกติ ผิดกับไซม่อนที่มองหน้าเจนิสด้วยความติดกวน “เอาไงต่อล่ะทีนี้” “ชิ! ยังไงเจก็จะคอยจับตาดู ถ้าพี่ทำตัวเจ้าชู้ใส่เพื่อนเจนะ เจไม่ยอมแน่!” “…” ไซม่อนก็หัวเราะยิ้มออกมาอย่างเดิม เขาไม่ได้อะไรกับเพื่อนของน้องหรอก เพียงแค่อยากกวนเจนิส และ…ชอบเวลาเห็นนกน้อยกำลังประหม่ากับเพื่อนเขาก็เท่านั้น “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันสัมภาษณ์ว่าที่เจ้าบ่าวฉันนะ ส่วนเธอสองคน…” เจนิสแสดงสีหน้าคิดไม่ตกออกมาอย่างไม่จริงจังนักที่จะเลือกเพื่อนให้ไปสัมภาษณ์เสืออย่างไซม่อน วินเซนต์ที่นั่งอยู่จึงเอ่ยถาม “แล้วถามไอ้ไคลน์มันหรือยัง ว่ามันจะให้สัมภาษณ์หรือเปล่า” ยังไม่ทันที่เจนิสจะตอบกลับ “มันให้อยู่แล้ว…” “…ใช่ไหม?” ไซม่อนยกยิ้มถามคนเป็นเพื่อน ไคลน์ที่นั่งอยู่จึงจ้องมองยังแววตาดูมีความจงใจกวนของเพื่อนตัวเองนิ่งไม่ตอบกลับอะไร ถึงเขาปฏิเสธ ก็คงมีสองคนที่วอแวใส่เขา ทั้งเจนิส แล้วก็ไซม่อน คนตัวสูงเลยเลือกที่จะเงียบทำเหมือนไม่ได้สนใจอะไร “พี่ไคลน์ไม่ปฏิเสธ แปลว่ายอม…ถ้างั้น เธอสองคนอยากสัมภาษณ์คนไหน อื้ม…ใบข้าว เธอเลือกก่อนแล้วกัน อยากสัมภาษณ์ใคร” ทันทีที่เจนิสเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้าอยู่ก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาด้วยแววตาเหวอ “ฮ…ฮะ…เอ่อ…” “เลือกได้เลย ไม่ต้องกลัว” เจนิสบอก ทำเอาคนตัวเล็กที่ถูกให้เลือกก่อนเผลอเม้มกัดปากด้วยความประหม่า “น่ารักดีวะ เหมือนลูกนกเลย” เสียงไซม่อนพึมพำด้วยความจงใจ ไคลน์ที่ได้ยินก็นิ่งจ้องมองยังร่างเล็กที่ดูประหม่าชัดเจนฝั่งตรงข้าม และเมื่อสายตาคมของเขาเหลือบไปปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีหวานเข้าอย่างจัง คนที่ประหม่าก็รีบหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยความรวดเร็วพลางยกมือเล็กชี้ไปยังไซม่อนที่นั่งอยู่ “พะ…พี่ไซม่อน…” โดยทันทีที่เรียวปากสีหวานเลือก ดวงตาคมกริบของไคลน์ก็ยังคงจ้องมองยังรุ่นน้องตัวเล็กอยู่อย่างนั้นนิ่งด้วยใบหน้าราบเรียบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม