bc

สิเน่หารัก ข้ามขอบฟ้า

book_age16+
315
ติดตาม
1.6K
อ่าน
จบสุข
หวาน
เมือง
จากศัตรูกลายเป็นคู่รัก
like
intro-logo
คำนิยม

ประตูหัวใจที่ปิดตายเพราะเจ็บปวดกับความรักครั้งเก่า จะสามารถเปิดออกได้อีกครั้งหรือไม่ แล้วใครจะเป็นผู้ไขกุญแจเพื่อเปิดประตูหัวใจบานนั้นอีกครา...

ครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกของ 'บาสเตียน' ต้องพังลง เมื่อถูกภรรยาสาวสวยลอบสวมเขาให้ จนต้องเปลี่ยนสถานะมาเป็นพ่อหม้ายที่ต้องเลี้ยงลูกสาวตามลำพัง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจดจ่อและจมอยู่กับความเจ็บปวด บาสเตียนจึงกลายเป็นคนบ้างาน ทิ้งให้ลูกน้อยวัยเพียงห้าขวบอยู่กับแม่บ้านสูงวัย

จนกระทั่งเพื่อนสนิทของเขาที่เปรียบเสมือนพ่อทูนหัวของหนูน้อยทนไม่ไหว จึงแนะนำให้หาพี่เลี้ยง และนั่นทำให้ทั้งสองพ่อลูกได้พบกับ 'มินธิรา' จิตแพทย์สาวแสนสวย ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศไทยไปเป็นพี่เลี้ยงมือใหม่ไกลถึงสวีเดน ตามคำชวนของเพื่อนและตัวเธอเองก็ต้องการหนีจากใครบางคนที่ก่อกวนชีวิตไม่เลิก

แต่การใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันของทั้งเขาและเธอก็ไม่ได้เป็นไปด้วยความราบรื่นนัก นั่นเป็นเพราะเธอมาจากที่เดียวกันกับคนที่สร้างบาดแผลมากมายไว้ให้เขา แต่นานวันเข้าจากความเกลียดชังและอคติที่เขามีต่อเธอก็กลายเป็นความรัก ความผูกพันขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Episode 1
(มาเถอะนะมิ้น เราอยากให้มิ้นมาจริงๆ นะ เพราะเราจำได้ว่าสมัยเรียน มิ้นเคยบอกว่าสวีเดนคือประเทศในฝัน ตอนนี้มีโอกาสแล้วก็รีบมาเถอะนะ) เสียงรบเร้าดังข้ามทวีปมาตามสาย ทำเอาคนฟังถึงกับตีหน้ายุ่งกับคำรบเร้าของเพื่อน มิ้น หรือ มินธิรา จิตแพทย์สาววัยยี่สิบแปดปี เธอเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตในโรงพยาบาล เนื่องด้วยในแต่ละวันเธอต้องพบเจอกับคนไข้หลากหลายรูปแบบ วิถีชีวิตซ้ำๆ วนไปวนมาวันแล้ววันเล่า จึงกลายเป็นความเบื่อหน่ายขึ้นมา แต่เหนือความเบื่อหน่ายทั้งปวงก็คือการที่ถูกแฟนเก่าคอยตามตื๊อเช้าสายบ่ายเย็นอยู่ทุกวัน ทำให้จิตแพทย์สาวมีความคิดอยากจะหนีไปให้ไกลจากความน่าเบื่อหน่ายทั้งปวงเหล่านี้ (ว่าไงยายมิ้น) เสียงเพื่อนถามซ้ำมาตามสายอีกรอบ "เราขอคิดดูก่อนแล้วกันนะเจน" มินธิราตอบด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนะ (ก็ได้จ้ะ แต่อย่าคิดนานนะ เดี๋ยวเราส่งรายละเอียดโครงการให้อ่าน จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น) "จ้ะ" (งั้นเดี๋ยวเราวางสายแล้วนะ นัดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปช้อปปิ้งน่ะ) "จ้า ว่าแต่นัดกับเพื่อนหรือนัดกับหนุ่มกันแน่จ๊ะ" (ม่ายบอก ไปแล้วนะ บายจ้ะ) มินธิราหัวเราะในลำคอหลังจากที่เพื่อนวางสายไปแล้ว เธอลุกจากที่นอนซึ่งเป็นฟูกพับเก็บได้ปูราบไปกับพื้นไม้ ก่อนจะเดินไปเกาะขอบหน้าต่างที่เปิดรับลมเอาไว้ บรรยากาศช่วงหัวค่ำหลังจากที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ถูกความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่ก็มีแสงไฟจากบ้านเรือนสว่างขึ้นมาทดแทน นอกจากนี้ยังมีแสงกะพริบเล็กๆ จากสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งชนิดนั่นก็คือหิ่งห้อย ที่บินไปมาเป็นกลุ่มใหญ่แต่งแต้มให้บรรยากาศยามค่ำคืนท่ามกลางบ้านสวน ดูมีสีสันและชีวิตชีวาขึ้นมา "มิ้น! น้องกลับมาแล้ว ออกมาทานข้าวได้แล้วลูก" มินธิราละสายตาจากฝูงหิ่งห้อยแล้วหมุนตัวกลับเข้ามาในห้อง เมื่อได้ยินเสียงมารดาเรียกออกไปทานอาหารเย็น "พี่กลับบ้านในรอบเดือนครึ่งทั้งที แล้วไหนละครับของฝาก" มินธิราออกจากห้องนอนของตัวเอง และพอเดินมาถึงโต๊ะอาหารก็ถูกน้องชายทวงของฝากทันที เธอจึงยกมือขึ้นหมายจะเขกมะเหงกน้องชายตัวดีเข้าให้ แต่อีกฝ่ายก็รีบลุกหนีไปหามารดาได้ทัน "อะไรกันน่ะเรา ไปกวนอะไรพี่เขาล่ะ" คุณมธุรินผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้น ขณะตักแกงฟักไก่บ้านร้อนๆ จากหม้อใส่จาน เมื่อเห็นบุตรชายคนเล็กที่อายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว แต่นิสัยยังชอบเล่นเป็นเด็กไม่เลิกวิ่งเข้ามาในครัวแพนทรี ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่ม หรือพักอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วเพื่อลำเลียงสู่โต๊ะอาหาร ส่วนครัวที่ใช้ปรุงอาหารอยู่ใต้ถุนบ้านเพราะจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องของความร้อนหรือกลิ่นควัน "ผมไม่ได้กวนอะไรพี่เขาสักหน่อย ก็แค่ถามหาของฝากเอง ใครบอกให้พี่เขาไม่ค่อยกลับบ้านล่ะ นานๆ มาทีก็ต้องมีของฝากมาฝากแม่ฝากน้องบ้างสิ" มนัสวิน หรือ เมฆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด สร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้เป็นมารดา "แล้วพี่เขาบอกหรือว่าไม่มี แต่จะว่าไปแล้วเราก็โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วนะ ยังจะงอแงเป็นเด็กไปได้" คุณมธุรินพูดแล้วก็ยกสำรับที่จัดเตรียมเสร็จแล้วออกไปยังโต๊ะอาหาร มนัสวินจึงรีบยกจานผลไม้ตามออกไป "แม่นั่งเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเอง" เมื่อมารดาวางสำรับอาหารลงบนโต๊ะ มินธิราก็รีบขยับเก้าอี้หัวโต๊ะให้นั่ง จากนั้นเธอก็รีบตักข้าวสวยร้อนๆ ที่มีควันลอยกรุ่นขึ้นมาใส่จาน แล้ววางลงตรงหน้ามารดา ตามด้วยของน้องชายและตบท้ายด้วยของตัวเอง "เปิดทีวีดูเพิ่มอรรถรสในการกินข้าวดีกว่า" ชายหนุ่มคนเดียวในบ้านเดินไปเปิดโทรทัศน์แล้วเดินกลับมานั่งที่ของตัวเอง จากนั้นทุกคนก็ลงมือรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย จนกระทั่งมีเสียงจากโทรทัศน์ ดึงดูดความสนใจมินธิราได้เป็นอย่างดีจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นดู เพราะในโทรทัศน์กำลังกล่าวถึงประเทศในฝันของเธอ ซึ่งก็คือประเทศสวีเดนนั่นเอง "ประเทศในฝันของพี่นี่นา ทำงานเก็บเงินมาตั้งหลายปีแล้ว เมื่อไหร่จะไปเที่ยวสักทีล่ะ" หญิงสาวและสายตาจากโทรทัศน์จอใหญ่ไปจ้องหน้าน้องชายแทน "เอ่อ...ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า" เมื่อเห็นสายตานิ่งๆ เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ของพี่สาว มนัสวินก็รู้สึกกลัวขึ้นมา "เปล่า นายไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก อันที่จริงหนูก็มีเรื่องอยากจะคุยกับแม่อยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวเอาไว้ทานข้าวเสร็จค่อยคุยกันนะคะ" เธอยังไม่อยากคุยเรื่องที่คุยกับเพื่อนก่อนหน้านี้ ขณะที่กำลังทานข้าวอยู่เพราะกลัวจะเสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเสียเปล่าๆ "จ๊ะ งั้นก็รีบกินกันเถอะ ตาเมฆกินฟักเยอะๆ นะ แม่ได้ยินว่าเราแน่นท้องท้องอืดนี่ใช่ไหม" คุณมธุรินว่าพลางตักฟักที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำใส่จานให้บุตรชาย "ขอบคุณครับ แม่ก็ทานเยอะๆ นะครับ เดี๋ยวผมแกะเนื้อปลาให้" มนัสวินแกะเนื้อปลาทับทิมทอดใส่จานคืนให้มารดา มินธิรามองแล้วก็ยิ้มและรู้สึกวางใจขึ้นมา หากเธอตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศจริงๆ "ว่าไงลูก มีเรื่องอะไรจะคุยกับแม่จ๊ะ" หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสามคนช่วยกันเก็บโต๊ะ ปัดกวาดเช็ดถูโต๊ะอาหารและห้องครัวเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงมานั่งคุยกันที่โต๊ะอเนกประสงค์กลางบ้าน "คือว่า..." มินทิราลังเลไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน "คือว่าอะไรครับ หรือว่าผู้ชายเฮงซวยคนนั้นยังตามรังควานที่มิ้นอยู่ เดี๋ยวผมจะไปกรุงเทพฯ กับพี่ด้วย จะได้จัดการให้เด็ดขาดซะที" มนัสวินพูดด้วยความโมโห และผู้ชายเฮงซวยที่เขาพูดถึงก็คือนิพนธ์ แฟนเก่าของพี่สาวตนนั่นเอง "นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นหลักมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ตั้งใจฟังพี่ดีๆ นะเมฆ แม่ก็ด้วยนะคะ คือว่าหนูรู้สึกเบื่อๆ กับงานที่ทำอยู่ค่ะ แล้ววันๆ ยังต้องคอยหลบหน้านิพนธ์อีกด้วย ทุกวันนี้หนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายยังไงก็ไม่รู้ที่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ หนูก็เลยคิดว่าจะลาออกน่ะค่ะ" "ลาออก!"

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

กระชากกาวน์

read
6.0K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
10.0K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
19.0K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
6.7K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
4.9K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
4.5K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook