Episode 2

1389 คำ
"ลาออก!" มนัสวินโพล่งสวนขึ้นมา "จะเสียงดังอะไรขนาดนั้นตาเมฆ ฟังพี่เขาให้จบก่อนสิ พูดต่อเลยลูก" คุณมธุรินเอ็ดบุตรชายเบาๆ "ค่ะ แม่จำเจนจิราได้ไหมคะ ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่สวีเดน รายได้ค่อนข้างดีทีเดียว อีกอย่างวันหนึ่งก็ทำงานแค่ห้าชั่วโมงเอง เธอก็เลยอยากให้หนูตามไปน่ะค่ะ" "เจนจิรา อ๋อ...แม่นึกออกแล้ว ที่เมื่อก่อนเธอเคยมาที่นี่บ่อยๆ ใช่ไหม แล้วเธอทำงานอะไรล่ะ" "อืม...เขาเรียกว่าออแพร์ ภาษาบ้านๆ ก็พี่เลี้ยงเด็กนั่นแหละค่ะ" มินธิราอธิบายสั้นๆ ให้มารดากับน้องชายเข้าใจ "พี่เลี้ยงเด็กงั้นเหรอ? พี่ไม่เคยเลี้ยงเด็กสักหน่อย แล้วจะทำได้เหรอ ผมกลัวว่าเด็กจะกลัวพี่เอาน่ะสิ" ผู้เป็นน้องชายว่าพลางทำหน้ากวนๆ ส่วนพี่สาวได้แต่ถลึงตาใส่ "แม่ไม่มีความคิดเห็นนะจ๊ะ เพราะลูกโตเป็นผู้ใหญ่ตัดสินใจได้ด้วยตัวเองแล้ว และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรลูกก็คงคิดดีแล้ว และแม่ก็เคารพการตัดสินใจของลูกเสมอ" มินธิรามองหน้ามารดาก่อนจะขยับเข้าไปสวมกอด "หนูรู้ค่ะ แต่ถ้าหนูตัดสินใจไปจริงๆ ก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ กลัวว่านายเมฆจะดูแลแม่ได้ไม่ดีน่ะค่ะ" "ผมดูแลแม่ไม่ดีตรงไหน ที่ผ่านมาพี่ทำงานที่กรุงเทพฯ ก็มีแต่ไอ้เมฆคนนี้แหละที่ดูแลแม่มาตลอด" มนัสวินร้องขัดขึ้น เรื่องอื่นเขายอมให้พี่สาวว่าได้ ยกเว้นเรื่องนี้ที่เถียงคอเป็นเอ็น เพราะเขาเองก็รักมารดาไม่แพ้พี่สาว "จ้ะๆๆ รู้แล้วๆ ไม่มีใครดูแลแม่ได้ดีเท่านายอีกแล้วล่ะ" ผู้เป็นพี่สาวกัดฟันพูดใส่น้องชาย ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นพี่น้องที่รักกันมาก แต่ก็ไม่วายจะจิกกันทุกครั้งที่มีโอกาส "เอาล่ะๆ แม่ไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย ไม่ต้องให้ใครดูแลหรอก แค่ลูกๆ ของแม่ดูแลตัวเองได้ แม่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แล้วทั้งสองคนก็ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะ ตาเมฆก็โตจนใกล้จะสามสิบแล้ว ขอให้ตั้งใจทำงานรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดก็พอ และถ้ามีเวลาว่างก็รีบหาลูกสะใภ้ให้แม่สักคน บ้านเราจะได้ไม่เหงา" ปัจจุบันมนัสวินทำงานเป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ประจำอยู่ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ เขาถึงกับทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินมารดาเร่งให้หาแฟน เพราะที่ผ่านมาเขายังไม่เจอใครที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วได้เลยสักคน แม้ว่าสาวๆ สวยๆ ที่อำเภอจะแวะเวียนมาโปรยเสน่ห์อยู่ไม่ขาด "โห! แล้วทีพี่ทำไมแม่ไม่เร่งบ้าง พี่น่ะอีกสองปีก็สามสิบแล้วนะ ถ้าอีกปีสองปียังหาไม่ได้ละก็คงได้นั่งบนคานทองตลอดไปแน่ๆ" "ถึงไม่มี ฉันก็อยู่คนเดียวได้ย่ะ และอย่างน้อยฉันก็เคยมี ไม่เหมือนนายหรอกที่โสดตั้งแต่เกิดจนแก่" มินธิราโต้กลับน้องชายทันควัน "พูดแบบนี้ขึ้นเลยนะเนี่ย เอางี้ไหม เรามาพนันกันดีกว่า ว่าระหว่างผมกับพี่ใครจะหาแฟนได้ก่อนกัน" "ได้! ใครหาได้ก่อนคนนั้นชนะ ส่วนใครแพ้ก็ต้องกินอาหารหมา" "ตกลง!" คุณมธุรินถึงกับกุมขมับกับความที่ไม่มีใครยอมใครของสองพี่น้อง เธอจึงลุกเดินหนีไปไหว้พระสวดมนต์ให้จิตใจสงบในห้องพระ ปล่อยให้พี่น้องนั่งเถียงกันต่อไป หลังจากวางพนันกับน้องชายเสร็จเรียบร้อย มินธิราก็กลับเข้าห้องของตัวเอง แต่พอจะนั่งลงบนที่นอนก็นึกขึ้นได้ ว่ายังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่เพื่อนส่งมาให้ จึงเดินเลยไปยังโต๊ะวางอุปกรณ์ข้างหน้าต่างเพื่อเปิดแล็ปท็อปดูอีเมลที่เพื่อนส่งมา "สวีเดน..." หญิงสาวพึมพำ ก่อนจะไล่อ่านรายละเอียดทั้งหมดอย่างตั้งใจ นิ้วเรียวเคาะกับโต๊ะไม่เป็นจังหวะบ่งบอกว่าเธอกำลังลังเลและคิดหนัก ก่อนจะลุกเดินไปรอบห้องด้วยอาการคิดไม่ตก จนเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นจึงรีบเดินกลับไปรับสาย (ว่าไงจ๊ะ ตัดสินใจได้หรือยัง) น้ำเสียงสดใสดังมาตามสาย ทำเอาคนถูกถามถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ยังเลย เพิ่งอ่านรายละเอียดจบน่ะ" (อ่านจบแล้วก็ตัดสินใจได้แล้วสิ ดีไม่ดีมาอยู่ที่นี่แล้วอาจจะถูกใจฝรั่งตาน้ำเข้า จนไม่อยากกลับเมืองไทยเลยก็ได้) "บ้าหรือไง! ทำไมจะไม่อยากกลับ ครอบครัวเราอยู่ที่เมืองไทยนี่นา อีกอย่างไม่ชอบหรอกฝรั่งตาน้ำข้าวน่ะ" (จ้า ขอให้จริงเถอะ รีบๆ ตัดสินใจซะนะ ขี้เกียจจะรอแล้ว) "ขอเราคิดอีกสักหน่อยก็แล้วกันนะ" มินธิราเอ่ยไม่เต็มเสียงนัก (ก็ได้จ้ะ แต่อย่านานนักนะ คิดถึงจนรอเธอไม่ไหวแล้ว) "ก็คุยกันเห็นหน้ากันอยู่ทุกวันนี่ไง จะคิดถึงอะไรกันนักกันหนาฮึ" หญิงสาวได้ทีหยอกเย้าเพื่อน (คุยกันก็ไม่เหมือนได้กอดกันนี่นา เอาเถอะๆ ไม่รบกวนเวลาคิดของมิ้นแล้ว หวังว่าเราจะได้ฟังข่าวดีนะ) "จ้ะ" มินธิราตอบรับเพื่อนสั้นๆ ก่อนจะวางสาย จากนั้นก็กลับไปนั่งอ่านรายละเอียดโครงการอีกรอบ โรงพยาบาล... วันจันทร์มินธิรากลับมาทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าทุกคนรอบกายดูแปลกไปไม่เหมือนทุกวัน บางคนมองเธอแปลกๆ บางคนจับกลุ่มคุยกระซิบกระซาบกัน ...ทุกคนเป็นอะไรกัน... หญิงสาวคิดในใจก่อนจะรีบก้าวให้เร็วขึ้นไปยังห้องพักแพทย์ แต่พอไปถึงเธอก็แทบอยากจะมีวิชาขอมดำดินหายไปจากตรงนั้น เพราะมีใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้ามาตลอด กำลังยืนถือดอกไม้ช่อใหญ่รออยู่ นอกจากนั้นยังมีป้ายขนาดใหญ่ที่มีข้อความขอคืนดีติดเอาไว้อีกด้วย วินาทีนั้นมินธิราถึงได้เข้าใจปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่มองตัวเองแปลกๆ "มิ้น!" ชายหนุ่มที่ถือดอกไม้ช่อใหญ่รีบเรียกชื่อและก้าวเข้ามาหาทันที พร้อมกับยื่นมือมาจับมือเธอไว้ด้วย "คุณมาทำอะไรที่นี่นิพนธ์ แล้วก็ช่วยเอามือสกปรกของคุณออกไปจากตัวฉันด้วย" มินธิราเอ่ยเสียงแข็ง พลางสะบัดมือออกเพราะเธอรู้สึกรังเกียจผู้ชายตรงหน้า ที่ได้ชื่อว่าแฟนเก่าจนไม่อยากมองหน้า "ผมคิดถึงคุณ ผมอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมครับมิ้น" แทนที่นิพนธ์จะละอายใจ แต่เขากลับยิ้มเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ซ้ำยังพูดง่ายๆ ออกมาได้อย่างไม่สะทกสะท้าน "กลับมาเป็นเหมือนเดิมงั้นเหรอ?" มินธิราเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอเคยรัก ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่ทำร้ายเธอได้อย่างเลือดเย็นเช่นกัน "ใช่! ผมอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่วนเรื่องที่ผ่านมา ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะครับมิ้น" หญิงสาวไม่ตอบอะไร แต่ค่อยๆ แกะมือของนิพนธ์ที่ยังจับข้อมือเธออยู่ให้หลุดออก "เก็บเอาคำขอโทษของคุณคืนไปเถอะ รวมทั้งช่อดอกไม้และเศษขยะพวกนี้ด้วย ฉันไม่ต้องการ" พูดจบมินธิราก็เดินหนีไป ทิ้งให้นิพนธ์ยืนนิ่งอยู่คนเดียว ด้วยความที่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง ว่าเธอจะใจแข็งได้ถึงเพียงนี้ ทันทีที่มินธิรามาถึงห้องทำงาน เธอรีบเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเข้าสู่เว็บไซต์ที่อ่านรายละเอียดมาแล้วสองวันเต็มๆ จากนั้นก็กรอกข้อมูลต่างๆ เพื่อลงทะเบียนอย่างไม่มีความลังเลอีกต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม