บทที่ 7 ฉีกหน้า

1318 คำ
“นี่คุณ ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ” เหมือนฝันที่ไม่อยากมีเรื่องเลยเอาแต่นั่งสงบปากสงบคำ แต่กลับพูดราวกับเธอเป็นสิ่งของแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหน แม้จะไม่ชอบมีเรื่องมีราวให้วุ่นวายแต่ก็ไม่ใช่จะให้คนอื่นมาดูถูกกันอย่างไรก็ได้นะ “หึ” ธามไทและดินแดนมองหน้าอย่างรู้กัน ขณะที่สีหน้าของพวกเขาฉายแววสนุกสนาน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนกล้าขึ้นเสียงใส่อคินณ์ “นั่นสิ เธอมันมีค่าน้อยกว่าสิ่งของซะอีก เพราะต่อให้เอาเธอไปขายก็ไม่รู้จะได้เงินพอซื้อรองเท้าที่ฉันใส่สักคู่ไหม” “แล้วคนปากหมา ๆ อย่างคุณมันมีค่ามากนักหรือไง” “เธอ !” “เฮ้ย ใจเย็น ๆ ก่อน” ดินแดนที่เห็นว่าทั้งสองดูท่าจะยั้งอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ก็รีบเข้ามาห้าม แก้วน้ำเย็น ๆ ถูกยัดใส่มือเหมือนฝันให้เธอดื่มเพื่อจะได้ใจเย็นลง แต่มันไม่ได้ช่วยนัก เหมือนฝันจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน “เพิ่งเคยเห็นคนกล้าเถียงไอ้คินณ์นะเนี่ย” ธามไทที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ เอ่ยขึ้นและนั่นทำให้คนที่อามณ์ไม่ดีตวัดสายตามองอย่างเอาเรื่อง “พวกมึงหุบปากสักทีเถอะ” “ก็มันจริงนี่หว่า” “น่ารักแต่เจ้ามารยามึงชอบไหมล่ะ” “มึงหมายความว่าไง” “ก็ยัยนี่แหละลูกเมียน้อยพ่อกู” “เฮ้ย แต่ดูเขาไม่ได้เป็นอย่างที่มึงเคยเล่าเลยนะ” ดินแดนทักท้วง เพราะอคินณ์เคยเล่าว่ามีปลิงมาเกาะกินพ่อมัน แต่จากที่เห็นเหมือนฝันเมื่อกี้เธอดูไม่ได้มีท่าทางแบบนั้นสักนิด เพราะทวีทรัพย์สกุลที่มีเงินล้นฟ้าแต่ทั้งตัวหญิงสาวไม่มีเครื่องประดับหรือกระเป๋าราคาแพงเลยสักชิ้น “นั่นดิ มึงอคติเกินไปไหมวะ” “อคติเหรอ พวกมึงก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น” “เออ...กูรู้ แต่แม่ง” ธามไทสบถอย่างหงุดหงิดเพราะอคินณ์เชื่อมั่นในสิ่งที่มารดาปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจนไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไร “ถ้าเกลียดขนาดนั้นแล้วมึงจะพาน้องเขามาทำไมวะ” “คินณ์ขา แอนมาแล้วค่ะ” สิ้นประโยคของธามไท คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ควงที่นานที่สุดของอคินณ์ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน หญิงสาวทั้งสามเป็นที่คุ้นหน้าค่าตากันอยู่แล้วเพราะเป็นคนดังในมหาวิทยาลัย แต่ที่ธามไทกับดินแดนไม่เข้าใจคือไอ้คินณ์มันเรียกพวกเธอมาทำไม อย่าบอกนะ... “ไอ้คินณ์มึงคิดจะทำอะไร” “นี่ใครเหรอคะคินณ์” เหมือนฝันที่เพิ่งเดินกลับมาถึงโต๊ะ มองคนที่มาใหม่ด้วยสีหน้าสงสัย อีกทั้งที่นั่งเดิมของเธอยังมีสาวสวยในสุดสีแดงสดสุดเซ็กซี่นั่งอยู่แล้วด้วย และไม่ใช่แค่นั่งเพราะเจ้าหล่อนใช้ร่างอ้อนแอ้นพิงซบต้นแขนของอคินณ์อีกต่างหาก “คนใช้ที่บ้านฉันเอง” เหมือนฝันยืนนิ่ง เธอไม่ได้อยากป่าวประกาศว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเขา และการเป็นสาวใช้ก็ไม่ได้แย่ แต่สิ่งที่เธอไม่ชอบคือสายตาที่มองมาอย่างเย้ยหยัน แอนนาที่ได้รู้สถานะของผู้หญิงหน้าจืดก็ไล่มองเหมือนฝันตั้งแต่หัวจรดเท้า และมันยังเต็มไปด้วยแววตาดูถูก “คินณ์ใจดีจังเลยนะ พาคนใช้ที่บ้านมาเที่ยวด้วย” “เด็กมันจะได้รู้สถานะตัวเองหน่อย” “ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่อีกนานช่วยไปส่งฉันก่อนได้ไหมคะ” เหมือนฝันไม่สนใจคำพูดกระแนะกระแหน เธอเอ่ยความต้องการของตัวเอง “นี่เธอน่ะ เป็นแค่คนใช้มาสั่งคินณ์ได้ยังไง” แอนนายืนกอดอกประชันหน้ากับเธอ “ก็คุณคินณ์เป็นคนพาฉันมานี่” เหมือนฝันตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ดวงหน้าหวานเชิดขึ้น เธอไม่ได้อยากมาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่นี่อยู่ส่วนใดของเมืองหลวง “คนใช้บ้านคินณ์มารยาทแย่จังเลยนะคะ” น้ำเสียงแข็งกร้าวถูกเปลี่ยนเป็นหวานจ๋อยเมื่อแอนนาหันไปพูดกับร่างสูงที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “ที่บ้านคงสั่งสอนมาไม่ดีน่ะ” เหมือนฝันตวัดสายตาขุ่นเคืองไปยังคนพูด แต่อคินณ์เพียงมองมาที่เธออย่างไม่ยี่หระกับสิ่งที่เขาพ่นออกมา และไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรก็มีคนเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน “ถ้างั้นให้แอนช่วยดีไหม” แอนนาฉีกยิ้มร้าย ก่อนจะสบตากับสองเพื่อนสนิทที่พามาด้วยอย่างรู้กัน “เอาสิ” อคินณ์ยกแก้วเครื่องดื่มจรดริมฝีปากราวกับกำลังเจอเรื่องสนุกก็มิปาน และเหมือนฝันรู้ถึงจุดประสงค์ที่เขาพาเธอมาที่นี่แล้ว... อคินณ์ตั้งใจพาเหมือนฝันมาที่นี่เพราะอยากให้เจ้าหล่อนรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่สถานะไหน และไม่ควรคิดเรื่องที่จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวหรือสังคมเดียวกับเขา แค่ลูกของเมียน้อยพ่อ ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีขนาดนั้นก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว เหมือนฝันที่เพิ่งรู้จุดประสงค์ของคนใจร้ายก็มองโครงหน้าคมคายอย่างตัดพ้อและไม่ชอบใจ ทั้งที่เธอคิดว่าเราควรต่างคนต่างอยู่ จะก็มีแต่อคินณ์นั่นแหละที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเธออยู่ได้ และที่อีกฝ่ายพาเธอมาที่นี่ก็เพื่อต้องการยืมมือคนอื่นมาจัดการเธอโดยที่เขาไม่ต้องเปลืองแรง และการกระทำของเขามันทำให้เหมือนฝันที่มองอีกฝ่ายแย่อยู่แล้ว แย่ลงไปอีก และเธอก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าความร้ายกาจของอคินณ์จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน “ว้าว เหมือนจะมีเรื่องสนุกซะแล้วสิ” ดินแดนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่นานเอ่ยเสียงร่าเริง ทั้งที่ตอนนี้เหมือนฝันโกรธจนลมแทบออกหูอยู่แล้ว ส่วนธามไทที่นั่งอยู่ถัดไปนั่นก็ทำเพียงหัวเราะในลำคอเท่านั้น เหมือนฝันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นเพื่อนกันได้ นั่นก็เพราะทั้งสามคนเป็นวายร้ายไม่ต่างกันเลยน่ะสิ ! ซ่า แอนนาเดินมายืนตรงหน้าเธออย่างเอาเรื่อง ก่อนที่น้ำเย็นจัดในแก้วจะถูกเทราดหัวเหมือนฝัน สองมือกำแน่น เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เพราะรู้ดีว่ามีเรื่องกับคนรวยคนที่ซวยก็คงไม่พ้นตัวเอง “อยู่อย่างเจียมตัวหน่อยสิ” แอนนาพูดเสียงขบขัน พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวอีกสองคนที่ยืนขนาบข้างไม่ต่างจากพวกลิ่วล้อ หรือเพราะพ่อแม่ไม่สั่งสอนอย่างที่คินณ์พูด ซ่า ! เสียงของเหลวถูกเทราดอีกครั้ง แต่เปลี่ยนตัวผู้ถูกกระทำ เพราะเป็นเธอเองที่หยิบถังน้ำแข็งเย็นจัดเทราดศีรษะคนที่หาเรื่องก่อน “เย็นดีไหม” “นี่แก-” “ทำไม” แอนนาง้างมือเตรียมจะฟาดใส่ใบหน้าเด็กอวดดี แต่เหมือนฝันหรือจะยอม เธอไม่อยากมีเรื่องแต่ก็ใช่จะยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ เพราะถ้าเธอเอาแต่ยอมให้คนอื่นเอารัดเอาเปรียบจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงทุกวันนี้เหรอ มือเรียวคว้าข้อมือที่ง้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะกำแน่นให้แอนนารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่เจ้าหล่อนจะมารังแกได้ง่าย ๆ ก่อนที่เหมือนฝันจะสะบัดอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซล้มลงตรงหน้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม