“น้องฝันไม่ธรรมดาว่ะ”
“นั่นดิ”
ดินแดนกับธามไททำท่ากระซิบกระซาบ ทั้งที่พูดเต็มเสียงจนได้ยินกันทั้งโต๊ะ
“โอ๊ย คินณ์คะ แอนเจ็บ”
ร่างบางในชุดสีแดงสดล้มแหมะลงที่เก้าอี้ตรงหน้า ก่อนจะหันไปออเซาะอคินณ์ราวกับตัวเองถูกรังแกนักหนาทั้งที่เป็นคนเริ่มก่อน
เหมือนฝันมองสองคนนั้นด้วยสายตาสมเพชเวทนาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
“ฉันจะกลับแล้ว” ไม่รอให้อีกคนต่อว่า ร่างเล็กกระชับกระเป๋าผ้าใบเก่งก่อนจะหันหลังเพื่อออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาออกไปแขนเรียวก็ถูกรั้งไว้ก่อน
“มีอะไร นี่ ! อย่ามองนะ”
เหมือนฝันถามเสียงห้วน ก่อนที่เธอจะรับรู้ถึงสายตาอีกคนที่ไล่มองตั้งแต่ใบหน้าก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าอกกลมกลึง และเพราะเมื่อครู่เธอเพิ่งถูกสาดน้ำใส่ทำให้เสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกจนมองทะลุเข้าไปเห็นเสื้อชั้นใน !
สองแขนยกขึ้นปกปิดร่างกายจากสายตามีเลศนัยที่มองมา
“ไอ้คินณ์มองน้องเขาเหมือนอยากกินเลยว่ะ” ดินแดนที่เอ่ยเสียงอารมณ์ดี แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอนึกกลัวคนตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“คินณ์คะ” แอนนาเข้ามาขวางหน้าก่อนจะควงแขนแกร่งข้างที่ยังว่างราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของแต่นั่นไม่ได้ให้เหมือนฝันรู้สึกอะไรเลยสักนิด
“ช่างหัวเด็กนั่นแล้วเรามาสนุกกันดีกว่านะคะ” แอนนาแอบอิงใช้หน้าอกบึ้มบั้มเบียดต้นแขนแกร่งพร้อมกับกระซิบเสียงเชิญชวนอย่างหน้าไม่อาย แต่แทนที่อคินณ์จะยอมปล่อยแขนเธอให้เป็นอิสระเขากลับบีบแน่นเมื่อเห็นสายตาขยะแขยงของเหมือนฝัน
“โอ๊ย ! มันเจ็บนะ”
“ทีเธอยังทำกับคนอื่นได้เลย” เสียงเข้มตอกย้ำสิ่งที่เธอกระทำไปไม่กี่นาทีก่อน แต่นั่นเป็นเพราะผู้หญิงของเขามาหาเรื่องเธอก่อนใช่หรือไง
“เพราะผู้หญิงของคุณมาหาเรื่องฉันก่อน”
“ไม่รู้จักที่ต่ำสูงเลยนะ ต่อให้ฉันทำอะไร เธอก็ควรก้มหน้าก้มตายอมรับมันสิ”
“แล้วทำไมฉันต้องยอมให้คนนิสัยแย่อย่างพวกคุณมารังแกด้วยมิทราบ” เหมือนฝันเถียงคอเป็นเอ็น เธอลืมความเจ็บร้าวที่ต้นแขนไปเลยเพราะความโกรธและโมโหมันมีมากกว่า
ทั้งที่เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันทำไมเขาถึงได้แบ่งแยกและเหยียดชนชั้นกันนัก
“ปากดี”
“ก็ยังดีกว่าพวกคุณแล้วกัน นิสัยแย่ จิตใจก็แย่”
“อย่าเหมารวมสิคนสวย” ดินแดนที่เห็นว่าตัวเองถูกพาดพิงก็เอ่ยเสียงอารมณ์ดี ไม่คิดถือสาที่ตัวเองถูกพ่วงเข้าไปด้วย
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ” ธามไทที่นั่งพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ ก็เอ่ยขึ้นบ้าง
แต่สิ่งที่ทั้งสองได้รับมีเพียงใบหน้าบึ้งตึงของเหมือนฝัน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ไม่พอใจหรืออารมณ์เสียเลยสักนิด เพราะสีหน้าอย่างกับแมวขู่มันน่ารักจนโกรธไม่ลง
“ส่วนคุณก็ปล่อยฉันได้แล้ว” เหมือนฝันไม่สนใจเสียงหัวเราะของชายทั้งสอง เธอหันกลับมาจ้องมองอคินณ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พลางบิดแขนตัวเองให้หลุดจากพันธนาการ แต่เหมือนว่าเธอยิ่งขัดขืนอีกคนก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบจนต้องนิ่วหน้า
“ถึงฉันจะแย่แต่ก็มีจิตสำนึก ไม่คิดจะทำครอบครัวใครพังเหมือนแม่เธอ”
“พูดบ้าอะไร !” เหมือนฝันผลักอกอคินณ์อย่างแรงเมื่อเขาพาดพิงถึงแม่เธอ เขาไม่รู้จักแม่เธอด้วยซ้ำ กล้าดีอย่างไรมาพาดพิงท่าน แม่ที่เลี้ยงเธอมาอย่างยากลำบาก คนอย่างอคินณ์มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ เหมือนฝันมองอีกคนอย่างขุ่นเคือง ขอบตาร้อนผ่าวเพราะตอนนี้เธอโกรธเขาจนอยากจะร้องไห้ระบายความอัดอั้น
“แค่พูดความจริงทำไมต้องโกรธด้วย”
“ยัยนี่นอกจากจะเป็นคนใช้แล้วยังเป็นลูกเมียน้อยอีกเหรอคะ” แม้เมื่อครู่อคินณ์จะโน้มตัวเข้ามากระซิบ แต่แอนนาที่เกาะติดอีกฝ่ายเป็นปลิงย่อมได้ยินเรื่องพวกนั้นทั้งหมด
“หรือต้องให้ฉันสาธยายความแพศยาของแม่เธอดี”
“คุณอคินณ์...”
“อีกอย่างทำชุดคนอื่นเลอะขนาดนี้ก็ควรรับผิดชอบหน่อยไหม หรือว่ามันไร้สำนึกจนเคยตัว” อคินณ์ไม่พูดเปล่า เขากระชากคอเสื้อเธออย่างแรงจนเหมือนฝันปลิวปะทะอกแกร่ง
“เล่นแรงไปแล้วไอ้คินณ์” ธามไทที่ได้ยินเพื่อนสนิทพูดเรื่องไม่สมควรก็ปรามเสียงเข้ม ถึงเขาจะพอรู้เรื่องจากอคินณ์แต่เรื่องพวกนั้นมันไม่เกี่ยวกับเหมือนฝันเลยสักนิด
อีกอย่างมารดาของอคินณ์ที่เป่าหูลูกชายมาเป็นสิบปีเป็นคนอย่างไรใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้...
“ไม่ใช่เรื่องของมึง”
“ถ้างั้นกูจ่ายแทนน้องเขาเอง”
“มึง !”
“เอาไป” แบงก์สีเทาหลายใบถูกยัดใส่มือแอนนาซึ่งเจ้าหล่อนก็ยอมรับไว้แต่โดยดี แม้สีหน้าที่มองเหมือนฝันจะยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ส่วนเธอถ้าอยากกลับฉันจะไปส่ง”
“ฉันอยากกลับ”
“เด็กนี่มากับกู มึงไม่ต้องเสือก” อคินณ์ไม่พูดเปล่า เขาสะบัดแอนนาออกก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนเธอ และยิ่งเหมือนฝันดันตัวออกมือใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มแรงจนเธอเจ็บร้าวไปถึงกระดูก
“ปล่อยนะ ฉันไม่อยากกลับกับคุณ”
“หุบปาก”
ร่างสูงของคนเจ้าอารมณ์กึ่งลากกึ่งจูงเธอออกจากคลับ โดยมีบรรดาพนักงานที่เตรียมจะเปิดร้านมองตาเป็นแถว แต่กลับไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเธอสักคน
เมื่อรถยนต์จอดในเขตรั้วบ้านเหมือนฝันก็ไม่รอช้า เธอลงจากรถและวิ่งเข้าห้องนอนทันที
ร่างเล็กทิ้งตัวลงเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้เธอมีเรียนทั้งวันและตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว และคนที่ทำให้เธอเสียเวลาพักผ่อนก็คือคนนิสัยไม่ดีและใจดำอย่างอคินณ์
นึกถึงชายคนนั้นแล้วดวงหน้าสวยก็มุ่นทันที อคินณ์คือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอเกลียดขี้หน้าเขามากที่สุด เพราะนอกจากปากที่เอาแต่พ่นคำพูดร้ายกาจไม่น่าฟังแล้ว การกระทำของเขายังแสดงออกชัดว่ารังเกียจและต้องการกลั่นแกล้งเธอมากแค่ไหน
เหมือนฝันต่อว่าคนใจร้ายในใจไปหมื่นล้านคำก่อนจะหลับลงไปทั้งที่ยังอยู่ในชุดเดิม...
อคินณ์มองประตูห้องที่เด็กปากดีอยู่ด้านใน นัยน์ตาคมคายฉายแววหลากหลายความรู้สึก ทั้งตอนที่เห็นดวงหน้าหวานมีน้ำตาเอ่อคลอ ตอนที่เห็นเขาออกโรงปกป้องเธอ หรือตอนที่เห็นแผ่นหลังเล็กเดินห่างออกไปอย่างไม่คิดจะแยแส ทั้งที่เขาควรจะสนุกและสะใจที่เห็นคนที่เขาเกลียดทุกข์ทรมาน
มารดาที่เสียชีวิตไปแล้วพร่ำบอกอคินณ์อยู่เสมอว่าแม่ของเหมือนฝันคือผู้หญิงพ่อรักและทำให้ครอบครัวเราแตกแยก และมันก็เป็นจริงอย่างที่มารดาบอกเพราะเมื่อแม่เขาเสียชีวิตไปไม่ทันจะถึงหนึ่งปี พ่อก็เอาลูกของผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน
เมื่อคิดอย่างนั้นความรู้สึกมากมายก็ถูกกลบไว้ด้วยความเกลียดชังดังเดิม
อคินณ์ต้องเกลียดเหมือนฝันนั่นแหละ ถูกต้องแล้ว...